การปรับปรุงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มกับกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร-อาหาร จากไร่นาถึงผู้บริโภคภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่แห่งคุณค่า : กรณีศึกษาข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 29, 2004 14:44 —สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

ข้อเสนอแนะการปรับปรุงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มกับกระบวนการผลิตสินค้าเกษตร-อาหาร จากไร่นาถึงผู้บริโภคภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่แห่งคุณค่า : กรณีศึกษาข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว 1.ข้อเท็จจริงและสภาพปัญหา “ข้าวคือชีวิต...Rice is Life...” ประโยคนี้ประจักษ์ใจคนไทยทั้งชาติ คนไทยบริโภคข้าว เป็นอาหารหลักและยังบริโภคผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าว เช่น ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่ ขนมและอาหารว่างรูปแบบต่างๆ อีกด้วย ข้าวผูกพันกับวัฒนธรรมและประเพณีของคนไทยมาช้านาน เช่น พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประเพณีแรกนา ประเพณีทำขวัญข้าวบูชาแม่โพสพ ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว เป็นต้น ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ประชากร 3.7 ล้านครัวเรือน มีอาชีพทำนา มีพื้นที่ปลูกข้าวประมาณ 66 ล้านไร่ กระจายอยู่ในทุกภาคของประเทศไทย ชาวนาไทยเป็นบุคลากรหลักในการผลิตข้าว ถือเป็นหนึ่งในนักวิจัยพัฒนาที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์มาจากบรรพชน สามารถคิดค้นและพัฒนาพันธุ์ข้าวที่ดีมีคุณภาพ มีผลผลิตสูงและมีปริมาณมากพอที่จะส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก นำเงินตราเข้าสู่ประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาท แต่ปรากฏว่าชาวนาไทยกลับมีความยากจนซ้ำซ้อน มีภาระหนี้สินและไม่มีเสถียรภาพในอาชีพ ประหนึ่งว่า“ประเทศยิ่งพัฒนา ชาวนายิ่งยากจน”ดูจะเป็นปัญหาที่ท้าทายของผู้นำประเทศที่จะมียุทธศาสตร์ในการพัฒนาอย่างไรในยุคโลกาภิวัตน์นี้ จากการศึกษาวิเคราะห์เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาปรับปรุงและสร้าง มูลค่าเพิ่มกระบวนการผลิตข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปข้าว จากไร่นาถึงผู้บริโภคภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่แห่งคุณค่าอาหาร โดยศึกษาข้อมูลทุติยภูมิที่เกี่ยวข้องกับข้าว ทั้งทางด้านการผลิตข้าว การค้า สถานการณ์ นโยบาย กฎหมาย ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศและศึกษาข้อมูลปฐมภูมิจากกลุ่มตัวอย่างทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ส่งออกข้าว ผู้แปรรูปผลิตภัณฑ์นักวิชาการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องโดยการสัมภาษณ์เจาะกลุ่ม การสัมมนาแบบมีส่วนร่วม การสัมมนาแบบเจาะลึก และการสัมมนาระดมสมองทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อการพัฒนาสายโซ่แห่งคุณค่าต่างๆ อาทิ เช่น - ปัญหาด้านพันธุ์ข้าวและการกระจายพันธุ์ข้าว - ปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำในการทำนาและการชลประทาน - ปัญหาบุคลากรทั้งด้านการผลิตข้าวและการแปรรูป ยังขาดความรู้ความเข้าใจทางเทคโนโลยีการผลิตที่ดี - ปัญหาการซื้อขายข้าวที่ไม่มีมาตรฐานแน่นอนและระบบการค้าที่ไม่เป็นธรรม - ปัญหาราคาข้าวต่ำและผันผวน ไม่จูงใจให้เกษตรกรรักษาอาชีพและพื้นที่ไว้ - รัฐบาลมีนโยบายข้าวที่ไม่ชัดเจนและขาดความต่อเนื่อง - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวมีมากมาย กระจัดกระจาย ขาดองค์กรที่จะประสานการเชื่อมโยงระหว่างผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและขาดเอกภาพในการกำกับดูแล - ขาดระบบฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงในทุกด้านที่เกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้ง การกระจายข้อมูลสู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง - การจัดการการผลิตในระดับไร่นาไม่มีประสิทธิภาพ และการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนยังไม่เกิดประสิทธิผลเท่าที่ควร - การรวมกลุ่มของผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกระดับยังไม่เข้มแข็ง - ขาดการวางแผนและควบคุมให้วัตถุดิบข้าวสามารถตอบสนองต่อความต้องการของ อุตสาหกรรมแปรรูปได้อย่างเหมาะสม - รัฐยังให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าว ตลอดจน ด้านนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องไม่มากเท่าที่ควร - การวิจัยที่เกี่ยวกับผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศยังน้อยมาก - ขาดการว่างตำแหน่งผลิตภัณฑ์ Production Positioning ของข้าว แต่ละประเทศ อย่างชัดเจน - การขยายตัวของเมืองและอุตสาหกรรมไปในพื้นที่ที่มีศักยภาพในการผลิตข้าว - ราคาปัจจัยการผลิตมีแนวโน้มสูงขึ้น - การกีดกันทางการค้า - ภัยธรรมชาติ 2. แนวความคิดในการพัฒนาปรับปรุงและสร้างมูลค่าเพิ่ม หลักการของการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชาวนาอย่างยั่งยืน อันจะส่งผลดีต่อการสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศชาติ ซึ่งกระบวนการเพิ่มมูลค่าข้าวสามารถดำเนินการได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ระดับการผลิตข้าวเปลือกจนถึงระดับการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ การตลาด การบริโภคตลอดจนด้านโลจิสติกส์ 2.1 ปรัชญาของการสร้างมูลค่าเพิ่มข้าว ภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่คุณค่าข้าว 2.1.1 ธุรกิจข้าวไทยในสายโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของธุรกิจข้าวไทยมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการตลาดอยู่ค่อนข้างมาก ตั้งแต่การนำปัจจัยการผลิตเข้าสู่กระบวนการผลิตข้าว การสีข้าว การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนการค้าและการตลาดสู่ลูกค้าทั้งภายในและต่างประเทศ ผู้วางนโยบายและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องทำความเข้าใจภาพรวมของระบบธุรกิจข้าวเสียก่อน 2.1.2 มูลค่าเพิ่มจากธุรกิจการผลิตในอุตสาหกรรมข้าวโดยรวม ตั้งแต่กระบวนการผลิตจากไร่นาจนเป็นอาหารสู่ผู้บริโภค ผู้ที่ทำหน้าที่ในการผลิตประกอบด้วย ชาวนา โรงสี และโรงงานแปรรูป ซึ่งแต่ละประเภทของการผลิตจะมีการใช้ปัจจัยการผลิต(Input) และได้ผลผลิต (Output) ที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน หรืออาจกล่าวได้ว่าผลผลิตของการผลิตหนึ่งจะกลายเป็นปัจจัยการผลิตของอีกการผลิตหนึ่งจนกระทั่งสินค้านั้นไปสู่ลูกค้าปลายทาง ดังนั้น ธุรกิจการผลิตจึงต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า โดยการสร้างมาตรฐานการผลิต การประกันคุณภาพการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารมีมาตรฐานการผลิตที่สำคัญ อาทิ GAP PQMS GMP HACCP ISO 2.1.3 มูลค่าเพิ่มจากธุรกิจที่เกี่ยวข้อง นอกเหนือจากการผลิต แต่มีความสัมพันธ์กับธุรกิจการผลิต ซึ่งประกอบไปด้วย (1) ธุรกิจการค้า สินค้าที่ผลิตได้จะต้องอาศัยการดำเนินงานด้านธุรกิจ เพื่อผลักดันให้สินค้าเกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ผลิตและลูกค้าได้ เช่น ผู้รวบรวม ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ผู้ส่งออก เป็นต้น ซึ่งรูปแบบการค้าที่ทันสมัย (Modern Trade)และการค้าระหว่างประเทศ ในปัจจุบันมีบทบาทต่อการเพิ่มมูลค่าในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพการค้าเป็นอย่างมาก (2) ธุรกิจบริการ นอกจากตัวสินค้าแล้ว มูลค่าเพิ่มจะเกิดขึ้นจากการบริการ เช่น ธุรกิจร้านอาหารไทย ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและการเกษตร เป็นต้น (3) ทรัพย์สินทางปัญญา มูลค่าเพิ่มอีกประการหนึ่งคือ ความคิด(Idea) การประดิษฐ์คิดค้น การสร้างสรรค์เทคนิควิธีการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากการผลิตและการพัฒนาการผลิต เช่น พันธุ์ข้าว เทคโนโลยีเพื่อลดการสูญเสียจากการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นต้น 2.1.4 การสร้างคุณค่าจากไร่นาสู่ผู้บริโภค คุณค่า(Value) มิใช่ถูกกำหนดจาก ผู้ประกอบการ หรือประเมินคุณค่าแต่เพียงตัวสินค้าเท่านั้น คุณค่าที่เพิ่มขึ้นอาจได้มาจากการบริการที่ดี บุคลากรที่มีคุณภาพและภาพลักษณ์ในเชิงบวก 2.1.5 บทบาทของภาครัฐ มีส่วนสำคัญยิ่งต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่คุณค่าข้าว โดยเฉพาะการสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนากิจกรรม ต่อไปนี้ (1) สนับสนุน พัฒนา และส่งเสริมธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับข้าว ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้ทุกกิจกรรมพื้นฐานดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ (2) สนับสนุน พัฒนา และส่งเสริมเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับกิจกรรมพื้นฐานในทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าว (3) สนับสนุน พัฒนา และส่งเสริมทรัพยากรบุคคล เพื่อให้มีความสามารถในการดำเนินงานในทุกกิจกรรมพื้นฐานและทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าว (4) ปรับปรุง พัฒนา และสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับในทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าว 2.2 ผลของการสร้างมูลค่าเพิ่มข้าว การพัฒนาปรับปรุงและสร้างมูลค่าเพิ่มจากกระบวนการผลิตข้าวและสินค้าข้าว จากไร่นาถึงผู้บริโภคภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่แห่งคุณค่า ได้ส่งผลดีต่อความแข็งแรงของประเทศชาติใน 4 ด้าน ได้แก่ 2.2.1 ความมั่นคงทางอาหาร ประเทศไทยมีผลผลิตข้าวมากเกินพอสำหรับเลี้ยงประชากรของประเทศ แม้เกิดภาวะวิกฤตภัยธรรมชาติหรือภัยสงครามก็ตาม และหากประเทศใดประชากรอยู่ในภาวะหิวโหย อาจเกิดการแย่งชิงการขโมย การจี้ปล้น อาจคลุ้มคลั่งถึงขั้นก่อเหตุจลาจลผู้คนบาดเจ็บและล้มตายได้ ความมั่นคงทางอาหารเป็นความมั่นคงที่ผู้ปกครองประเทศต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก การให้ความสำคัญต่อการผลิตข้าวด้วยการเพิ่มมูลค่าข้าวช่วยให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นย่อมเหนี่ยวรั้งให้ชาวนายังคงผลิตข้าวต่อไปไม่ละทิ้งอาชีพ ประเทศจะมีความมั่นคงทางอาหารชั่วนิรันดร์ 2.2.2 ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เมื่อประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไทยประกอบอาชีพการทำนาและประชาชน อีกจำนวนไม่น้อยประกอบอาชีพเกี่ยวเนื่องกับสินค้าข้าว ถ้าสามารถเพิ่มมูลค่าของข้าวและสินค้าข้าวความเป็นอยู่ของบุคคลเหล่านั้นย่อมดีขึ้นและมั่นคงขึ้น การค้าจะเฟื่องฟูขึ้น ฐานทางการเกษตร จะมั่นคง การจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น เงินหมุนเวียนในประเทศย่อมเกิดมากตามไปด้วย เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว แรงงานจะย้อนกลับสู่ภาคการเกษตร การจ้างงานเพิ่มขึ้นเกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 2.2.3 ความมั่นคงทางสังคม เมื่อประชาชนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจประชาชนย่อมมีความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ชุมชนจะเข้มแข็งพึ่งตนเองได้ สังคมสงบสุข ก่อให้เกิดความมั่นคงทางสังคม โดยเฉพาะ “ความมั่นคงของอาชีพชาวนา” ซึ่งเป็นพื้นฐานหรือต้นน้ำของมูลค่าเพิ่มที่จะเกิดขึ้นต่อๆ ไปในสายโซ่ แห่งคุณค่าข้าว และผลจากความมั่นคงของอาชีพชาวนาจะสะท้อนกลับสู่ความมั่นคงทางอาหาร คือ ความอุดมสมบูรณ์ของอาหารที่เป็นพื้นฐานของชาติ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ คือ ความอยู่ดีกินดีของประชากรส่วนใหญ่ และอาชีพชาวนาจะมีเสถียรภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก่อให้สังคมเกิดสันติสุข 2.2.4 ความมั่นคงทางการเมือง ประเทศที่ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีเศรษฐกิจดี มีความสงบ ประชาชนไม่ถูกเอารัด เอาเปรียบไม่เดินขบวนเรียกร้องความเป็นธรรมประเทศนั้น จะมีความมั่นคงทางการเมือง หากเกษตรกรซึ่งเป็นฐานสำคัญของประเทศมีความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมจากการเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่ผลิตได้ โดยเฉพาะข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าว การเมืองก็จะยั่งยืนมั่นคงยิ่งขึ้น 2.3 การลงทุนและผลตอบแทน จากการศึกษาวิเคราะห์การสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้สายโซ่ของข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว ที่ได้จากการจำลองรูปแบบการจัดทำยุทธศาสตร์และการดำเนินงานตามโครงการ 20 โครงการ ภายในระยะเวลา 10 ปี คาดว่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 1.7 ล้านล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 3. ยุทธศาสตร์แห่งชาติของการสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้สายโซ่แห่งคุณค่า “ข้าว” วิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ “การเพิ่มมูลค่าข้าวและสินค้าข้าว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนา เพิ่มความมั่งคั่ง สร้างความมั่นคงของชาติ” 3.1 ยุทธศาสตร์ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” (ชาวนาผู้รอบรู้) เป็นยุทธศาสตร์ในการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาชาวนา ให้มีความรู้ ความสามารถ มีศักยภาพในการผลิต สร้างเสถียรภาพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวนาให้มีเกียรติ ศักดิ์ศรีและเป็นมืออาชีพ โดย 3.1.1 สนับสนุนการวิจัย การพัฒนาและแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้ผลผลิตสูง และหลากหลายพันธุ์ข้าว เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคและตลาดโลก ที่มีประชากรเพิ่มสูงขึ้น 3.1.2 อนุรักษ์พันธุ์ข้าวไทยนานาพันธุ์ที่มีอยู่ทุกภาคและส่งเสริมภูมิปัญญาไทยให้คงอยู่ เพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากพันธุ์ข้าว 3.1.3 อนุรักษ์และส่งเสริมแหล่งผลิตข้าวที่สมบูรณ์ ให้มีศักยภาพสามารถผลิตข้าวที่มีคุณภาพได้อย่างยั่งยืน 3.1.4 จัดตั้งกองทุนสวัสดิการชาวนา เพื่อสร้างเสถียรภาพและความยั่งยืนในอาชีพ 3.1.5 จัดตั้งสถาบันการศึกษาข้าวแห่งชาติ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพชาวนาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการประกอบอาชีพ 3.1.6 จัดตั้งศูนย์สารสนเทศข้าวแห่งชาติ เพื่อเป็นศูนย์กลางของข้อมูลและสารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวตลอดสายโซ่แห่งคุณค่า 3.2 ยุทธศาสตร์ “การเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้านการแปรรูป การค้าและโลจิสติกส์” (ผู้ประกอบการรุ่นใหม่)เป็นยุทธศาสตร์ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ โดย 3.2.1 จัดตั้งตลาดกลาง และสร้างมาตรฐานกลางการซื้อขายข้าวเปลือก ข้าวสารและผลิตภัณฑ์จากข้าวที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว 3.2.2 สนับสนุนการวิจัยตลาดผู้บริโภค เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การตลาดสำหรับข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว 3.2.3 สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้าว โดยมุ่งนวัตกรรม เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารจากข้าว ตามความต้องการของตลาด การบริโภคแลอุตสาหกรรม 3.2.4 สนับสนุนการวิจัยพันธุ์ข้าวที่มีความเหมาะสมต่อการแปรรูปอาหารไทย เพื่อสร้างเอกลักษณ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไทย 3.2.5 สนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์และส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ที่ได้จากส่วนต่างๆ ของข้าวเพิ่มขึ้น 3.2.6 สนับสนุนการรวมกลุ่มและการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างชาวนาโรงสี ผู้แปรรูป และผู้ค้า เพื่อเกื้อกูลและประสานความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจต่อกันและ ก่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านการแปรรูป การค้าและโลจิสติกส์ 3.3 ยุทธศาสตร์ “การสร้างค่านิยมการบริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไทย”(ผู้บริโภคที่ชาญฉลาด) เป็นยุทธศาสตร์ในการสร้างค่านิยม ของการบริโภคข้าว เพื่อให้รับรู้ถึงการมีคุณค่าและความปลอดภัยของข้าวไทย โดย 3.3.1 รณรงค์เสริมสร้างความรู้การบริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมและปลูกฝังทัศนคติการบริโภคตามรสนิยมแบบไทย 3.3.2 ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไทยในด้านอาหาร ธรรมชาติแก่ชาวต่างประเทศ 3.3.3 ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเกี่ยวกับด้านวัฒนธรรมข้าว 3.4 ยุทธศาสตร์ “การบริหารสายโซ่แห่งคุณค่าอาหาร” การที่จะให้ยุทธศาสตร์ทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ บังเกิดผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ นอกจาก รัฐจะต้องกำหนดเรื่องยุทธศาสตร์การสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้สายโซ่แห่งคุณค่าเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหน่วยงานที่เป็นแกนหลักในการจัดการเชิงระบบ เพื่อรับผิดชอบและดำเนินยุทธศาสตร์ด้านการสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้สายโซ่แห่งคุณค่าข้าว อย่างมีเอกภาพ และสนับสนุนกิจการของชาวนา ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้บริโภคให้เกิดประสิทธิภาพในด้านการผลิต การตลาด การบริการและโลจิสติกส์ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายความรู้และการพัฒนามาตรฐานระหว่างกัน ในชั้นนี้ขอเรียกว่า “คณะกรรมการข้าวแห่งชาติ”ซึ่งมีองค์ประกอบและมีหน้าที่ดังนี้ 3.4.1 องค์ประกอบคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (1) กรรมการโดยตำแหน่งของภาครัฐ ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรรมการ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรรมการ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการ กรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการ (2) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาเทคโนโลยีการผลิตข้าว กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาวิศวกรรมการเกษตร กรรมการและชลประทาน ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาอุตสาหกรรมเกษตร กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาเศรษฐกิจการเกษตร กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาธุรกิจการเกษตร กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิสาขาทรัพย์สินทางปัญญา กรรมการ (3) กรรมการจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้แทนชาวนาภาคละ 2 คน กรรมการ(เหนือ/กลาง/ใต้/ตะวันออกเฉียงเหนือ) ผู้แทนผู้ประกอบการโรงสี 2 คน กรรมการ ผู้แทนผู้ประกอบการค้าข้าวและ กรรมการผลิตภัณฑ์ข้าว 2 คน ผู้แทนผู้ประกอบการแปรรูปข้าว 2 คน กรรมการ 3.4.2 ขอบเขตอำนาจหน้าที่ (1) กำหนดนโยบายข้าวแห่งชาติ โดยบูรณาการประสานโครงการ/แผนงานของหน่วยงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย (2) กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและ สร้างมูลค่าเพิ่มของข้าว ตามยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ดังนี้ 2.1) กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนงานในการสร้างเสริมเครือข่าย ผู้เกี่ยวข้องกับข้าวและผลิตภัณฑ์ 2.2) กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนงานในการสร้างและปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการทำงานขององค์ประกอบต่างๆ ในสายโซ่แห่งคุณค่าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าว 2.3) กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนงานในการถ่ายทอดสารสนเทศและเทคโนโลยีเกี่ยวกับข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าว 2.4) กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนงานในการพัฒนาชาวนา ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ค้าข้าว ผู้ส่งออก และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง 2.5) กำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และแผนงานในการวิจัยพัฒนาและสร้างทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าว (3) ติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามโครงการ/แผนงานของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ผลสัมฤทธิ์ของยุทธศาสตร์นี้ต้องให้ความสำคัญเรื่องทรัพยากรมนุษย์เป็นลำดับแรกโดยเสริมองค์ความรู้และทักษะให้แก่กลุ่มชาวนา กลุ่มผู้ประกอบการ(โรงสีและโรงงานแปรรูป) และ กลุ่มผู้บริโภคในแต่ละลักษณะงานอย่างบูรณาการ 4. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ 4.1 รัฐควรสร้างความรู้ ความเข้าใจ ปลูกจิตสำนึก และกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่และมีส่วน เกี่ยวข้องได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างมูลค่าเพิ่มภายใต้องค์ประกอบของสายโซ่แห่งคุณค่าข้าว 4.2 รัฐควรกำหนดยุทธศาสตร์ข้าวเป็นวาระแห่งชาติ โดย 4.2.1 กำหนดวิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ข้าว เพื่อวางตำแหน่งของความสำเร็จในการ จัดทำยุทธศาสตร์ 4.2.2 กำหนดแนวทางในการดำเนินยุทธศาสตร์เพื่อผลักดันผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้ง 3 กลุ่ม (ชาวนา/ผู้ประกอบการ/ผู้บริโภค) ได้ประสานความร่วมมือในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตนเองและระหว่างกัน 4.2.3 จัดตั้งคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ โดยเปิดโอกาสให้ภาคประชาชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ 4.2.4 สร้างเสริมและสนับสนุนในการจัดทำโครงการการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดสายโซ่แห่งคุณค่าอาหารของสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าว 20 โครงการ เพื่อผลักดันให้การดำเนินยุทธศาสตร์ในการพัฒนาและส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์ ทั้ง3 กลุ่ม (ชาวนา/ผู้ประกอบการ/ผู้บริโภค)ได้บรรลุผลของการสร้างมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ - โครงการศูนย์สารสนเทศข้าวแห่งชาติ - โครงการวิทยาลัยข้าวไทย - โครงการกองทุนสวัสดิการชาวนาไทย - โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายข้าวพันธุ์ดี - โครงการกำหนดมาตรฐานกลางการซื้อขายข้าวเปลือกและข้าวสารและมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารจากข้าวที่สำคัญ - โครงการตลาดกลางซื้อขายข้าวเปลือกตามกลุ่มพันธุ์ - โครงการสนับสนุนคลัสเตอร์ (Cluster) ข้าวและเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง - โครงการสนับสนุนการสร้างเอกลักษณ์ข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไทย - โครงการสนับสนุนอุตสาหกรรมการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆ ของข้าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหาร - โครงการศึกษาความเหมาะสมของพันธุ์ข้าวต่อการแปรรูปอาหารไทย - โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้าวโดยมุ่งเน้นนวัตกรรม - โครงการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูงตามคุณภาพที่ต้องการ - โครงการวิจัยตลาดผู้บริโภคเพื่อกำหนดแนวทางของตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ - โครงการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์จากพันธุ์ข้าวและภูมิปัญญาไทย - โครงการอนุรักษ์และส่งเสริมแหล่งผลิตข้าวที่อุดมสมบูรณ์ - โครงการรณรงค์ส่งเสริมการบริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ตามรสนิยมแบบไทย - โครงการรณรงค์การบริโภคข้าวกล้อง - โครงการรณรงค์เสริมสร้างความรู้ด้านการเลือกบริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าว - โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ข้าวไทยและผลิตภัณฑ์ข้าวไทยในด้านอาหารธรรมชาติ - โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมข้าว ที่มา: สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ www.nesac.or.th, โทร.02-612-9222 ต่อ 118, 119 โทรสาร.02-612-6918-9

แท็ก Rice  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ