กรุงเทพ--2 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2547 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังจากการหารือกับนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซียดังนี้
การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็น ประเทศมหาอำนาจที่สำคัญ และเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงของ สหประชาชาติได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้น การมาเยือนในครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้จัดตั้งกลไกใหม่ คือกลไกในการหารือประจำปีที่นายกรัฐมนตรีของไทย และประธานาธิบดีรัสเซียได้เห็นชอบร่วมกันตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนรัสเซียเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
การที่ประเทศไทยมีกลไกการหารือประจำปีระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกับประเทศที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ถึง 2 ประเทศ คือ จีนและรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญกับไทยไม่ใช่เพียงแค่ความสัมพันธ์ทวิภาคี แต่ยังให้ความสำคัญต่อบทบาทของประเทศไทยในภูมิภาคและต่อความคิดเห็นของไทยในกิจการต่างๆของโลกด้วย
ในการหารือวันนี้ ได้ทบทวนความสัมพันธ์ของสองประเทศ และสองฝ่ายต่างพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านโดยเฉพาะในด้านการค้าซึ่งมีมูลค่าเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าจนใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายที่ผู้นำทั้งสองตั้งไว้ คือ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะตั้ง Joint Business Council ซึ่งเป็นสภาธุรกิจร่วมเพื่อภาคเอกชนจะได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันมากขึ้น ทั้งนี้ รัสเซียมีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีโครงการลงทุนที่สำคัญมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงาน โรงแรม และมีความต้องการสินค้าต่างๆจากประเทศไทยอยู่มาก
นอกจากนั้น การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยก็สนใจในเรื่องของความร่วมมือในด้านพลังงาน ฝ่ายไทยจึงได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางด้านพลังงานขึ้น ซึ่งฝ่ายรัสเซียก็เห็นด้วยและการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ฝ่ายสำรวจและผลิตก็สนใจที่จะไปลงทุน ซึ่งมีหลายโครงการไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน แก๊ส ก็จะให้ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันและฝ่ายรัสเซียก็สนใจโครงการ Southern Land Bridge ของไทย ขณะเดียวกันการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยและบริษัทน้ำมันของรัสเซียชื่อ Gaz Prom ก็กำลังจะลงนามความร่วมมือในเรื่องแก๊สและพลังงาน ดังนั้นก็จะก่อประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยได้ในด้านการท่องเที่ยวฝ่ายรัสเซียแสดงความสนใจมากเพราะรัสเซียก็เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทราบว่าบริษัทการบินไทยอาจเปิดเส้นทางเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ —กรุงมอสโก ในฤดูร้อนปีหน้า ในขณะเดียวกันสายการบินภูเก็ตแอร์ก็สนใจที่จะเปิดเส้นทางไปยังรัสเซียซึ่งฝ่ายรัสเซียก็สนับสนุนเต็มที่ และเสนอให้มีวีซ่าพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา สม่ำเสมอ ทั้งนี้จะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียดต่อไป
นอกจากนั้น สองฝ่ายได้ลงนามความตกลงในเรื่องการศึกษา ซึ่งรัสเซียจะเพิ่มทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนไทย ฝ่ายไทยก็ได้เน้นว่า ความสัมพันธ์ต้องครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ในระดับประชาชนต่อประชาชน ซึ่งรัสเซียก็ตอบสนองด้วยดี และสถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ในประเทศไทยก็ได้จัดงาน Russian Day ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียก็จะไปเป็นประธาน นอกจากนั้นฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการแลกเปลียนวัตถุโบราณระหว่างพิพิธภัณท์สองฝ่าย เพราะพิพิธภัณท์รัสเซียมีชื่อเสียงระดับโลก และหากเป็นไปได้ ควรจะมีการจัดนิทรรศการแลกเปลี่ยนระหว่างกันก็จะทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศ มีความเชื่อมโยง และเข้าใจกันมากขึ้น เพราะเราถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ได้ตกลงกันว่าจะตั้งศูนย์ประสานงาน ในเรื่องความมั่นคง เพื่อให้หน่วยงานทางด้านการข่าว และความมั่นคงมีจุดประสานงาน เพื่อร่วมมือกันเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองต่างๆ
ในเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกหรือ WTO นายกรัฐมนตรีของไทยได้ให้ความสนับสนุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฝ่ายรัสเซียก็ลดภาษีในเรื่องของการนำเข้าไก่ให้แก่ฝ่ายไทย และเปิดโอกาสให้ไทยส่งสินค้าเพิ่มอีกหลายรายการ เช่น ยางพารา ปลา และที่สำคัญในเรื่องของการบริการ อาทิเช่นในด้านร้านอาหาร โดยให้พ่อครัวและพนักงานเสริฟของไทยเข้าไปทำงาน ซึ่งก็เป็นตลาดใหญ่ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังพิจารณารายละเอียดต่างๆอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้
ส่วนในเรื่องของการที่จะแลกไก่กับเครื่องบินนั้น ฝ่ายรัสเซียได้หารือกับกองทัพอากาศแล้ว และในวันพรุ่งนี้จะเข้าพบรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งหากตกลงกันได้ฝ่ายรัสเซียก็จะซื้อไก่จากไทยเป็นจำนวนหลายแสนตัน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียกับนายกรัฐมนตรี ของไทยจะเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
นอกจากนั้น ไทยยังสนับสนุนรัสเซียให้เป็นสมาชิกของ ACD และสนับสนุนให้รัสเซียมีความตกลงทางด้านเศรษฐกิจกับอาเซียน รวมทั้งจะสนับสนุนให้รัสเซียได้เข้าเป็นสมาชิกของกรอบการประชุมเอเซีย-ยุโรป (ASEM) ในส่วนของฝ่ายเอเซีย นอกจากนั้นสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค สถานการณ์โลก รวมทั้งการปฏิรูปสหประชาชาติด้วย
โดยสรุปแล้วถือว่าความสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก โดยจะครอบคลุมในทุกมิติ และฝ่ายไทยถือว่ามีเพื่อนที่สำคัญเพราะรัสเซียเป็นทั้งสมาชิกของ G8 และสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2547 ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนภายหลังจากการหารือกับนาย Sergey Lavrov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซียดังนี้
การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็น ประเทศมหาอำนาจที่สำคัญ และเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงของ สหประชาชาติได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้น การมาเยือนในครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้จัดตั้งกลไกใหม่ คือกลไกในการหารือประจำปีที่นายกรัฐมนตรีของไทย และประธานาธิบดีรัสเซียได้เห็นชอบร่วมกันตั้งแต่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปเยือนรัสเซียเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
การที่ประเทศไทยมีกลไกการหารือประจำปีระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกับประเทศที่เป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ถึง 2 ประเทศ คือ จีนและรัสเซีย แสดงให้เห็นว่าประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญกับไทยไม่ใช่เพียงแค่ความสัมพันธ์ทวิภาคี แต่ยังให้ความสำคัญต่อบทบาทของประเทศไทยในภูมิภาคและต่อความคิดเห็นของไทยในกิจการต่างๆของโลกด้วย
ในการหารือวันนี้ ได้ทบทวนความสัมพันธ์ของสองประเทศ และสองฝ่ายต่างพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านโดยเฉพาะในด้านการค้าซึ่งมีมูลค่าเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าจนใกล้ที่จะบรรลุเป้าหมายที่ผู้นำทั้งสองตั้งไว้ คือ 1,700 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และสองฝ่ายได้ตกลงกันที่จะตั้ง Joint Business Council ซึ่งเป็นสภาธุรกิจร่วมเพื่อภาคเอกชนจะได้มีโอกาสพบปะและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันมากขึ้น ทั้งนี้ รัสเซียมีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีโครงการลงทุนที่สำคัญมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงาน โรงแรม และมีความต้องการสินค้าต่างๆจากประเทศไทยอยู่มาก
นอกจากนั้น การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยก็สนใจในเรื่องของความร่วมมือในด้านพลังงาน ฝ่ายไทยจึงได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางด้านพลังงานขึ้น ซึ่งฝ่ายรัสเซียก็เห็นด้วยและการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ฝ่ายสำรวจและผลิตก็สนใจที่จะไปลงทุน ซึ่งมีหลายโครงการไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน แก๊ส ก็จะให้ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกันและฝ่ายรัสเซียก็สนใจโครงการ Southern Land Bridge ของไทย ขณะเดียวกันการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยและบริษัทน้ำมันของรัสเซียชื่อ Gaz Prom ก็กำลังจะลงนามความร่วมมือในเรื่องแก๊สและพลังงาน ดังนั้นก็จะก่อประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยได้ในด้านการท่องเที่ยวฝ่ายรัสเซียแสดงความสนใจมากเพราะรัสเซียก็เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทราบว่าบริษัทการบินไทยอาจเปิดเส้นทางเที่ยวบินตรง กรุงเทพฯ —กรุงมอสโก ในฤดูร้อนปีหน้า ในขณะเดียวกันสายการบินภูเก็ตแอร์ก็สนใจที่จะเปิดเส้นทางไปยังรัสเซียซึ่งฝ่ายรัสเซียก็สนับสนุนเต็มที่ และเสนอให้มีวีซ่าพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา สม่ำเสมอ ทั้งนี้จะมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายละเอียดต่อไป
นอกจากนั้น สองฝ่ายได้ลงนามความตกลงในเรื่องการศึกษา ซึ่งรัสเซียจะเพิ่มทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนไทย ฝ่ายไทยก็ได้เน้นว่า ความสัมพันธ์ต้องครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ในระดับประชาชนต่อประชาชน ซึ่งรัสเซียก็ตอบสนองด้วยดี และสถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ในประเทศไทยก็ได้จัดงาน Russian Day ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียก็จะไปเป็นประธาน นอกจากนั้นฝ่ายไทยได้เสนอให้มีการแลกเปลียนวัตถุโบราณระหว่างพิพิธภัณท์สองฝ่าย เพราะพิพิธภัณท์รัสเซียมีชื่อเสียงระดับโลก และหากเป็นไปได้ ควรจะมีการจัดนิทรรศการแลกเปลี่ยนระหว่างกันก็จะทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศ มีความเชื่อมโยง และเข้าใจกันมากขึ้น เพราะเราถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายก็ได้ตกลงกันว่าจะตั้งศูนย์ประสานงาน ในเรื่องความมั่นคง เพื่อให้หน่วยงานทางด้านการข่าว และความมั่นคงมีจุดประสานงาน เพื่อร่วมมือกันเรื่องการต่อต้านการก่อการร้าย และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองต่างๆ
ในเรื่องการเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลกหรือ WTO นายกรัฐมนตรีของไทยได้ให้ความสนับสนุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฝ่ายรัสเซียก็ลดภาษีในเรื่องของการนำเข้าไก่ให้แก่ฝ่ายไทย และเปิดโอกาสให้ไทยส่งสินค้าเพิ่มอีกหลายรายการ เช่น ยางพารา ปลา และที่สำคัญในเรื่องของการบริการ อาทิเช่นในด้านร้านอาหาร โดยให้พ่อครัวและพนักงานเสริฟของไทยเข้าไปทำงาน ซึ่งก็เป็นตลาดใหญ่ และขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่ายกำลังพิจารณารายละเอียดต่างๆอยู่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้
ส่วนในเรื่องของการที่จะแลกไก่กับเครื่องบินนั้น ฝ่ายรัสเซียได้หารือกับกองทัพอากาศแล้ว และในวันพรุ่งนี้จะเข้าพบรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งหากตกลงกันได้ฝ่ายรัสเซียก็จะซื้อไก่จากไทยเป็นจำนวนหลายแสนตัน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียกับนายกรัฐมนตรี ของไทยจะเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย
นอกจากนั้น ไทยยังสนับสนุนรัสเซียให้เป็นสมาชิกของ ACD และสนับสนุนให้รัสเซียมีความตกลงทางด้านเศรษฐกิจกับอาเซียน รวมทั้งจะสนับสนุนให้รัสเซียได้เข้าเป็นสมาชิกของกรอบการประชุมเอเซีย-ยุโรป (ASEM) ในส่วนของฝ่ายเอเซีย นอกจากนั้นสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค สถานการณ์โลก รวมทั้งการปฏิรูปสหประชาชาติด้วย
โดยสรุปแล้วถือว่าความสัมพันธ์อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก โดยจะครอบคลุมในทุกมิติ และฝ่ายไทยถือว่ามีเพื่อนที่สำคัญเพราะรัสเซียเป็นทั้งสมาชิกของ G8 และสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-