นับเป็นเวลากว่า ๗ ปีแล้วที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐
มีผลบังคับใช้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างมากที่สุด และเป็นฉบับ
ประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองอย่างมากมาย มีการกำหนดการตรวจสอบ
การใช้อำนาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต มีการตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาดำเนินการในด้านต่าง ๆ ถึง
๘ องค์กรด้วยกัน ได้แก่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา คณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชน ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง คณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ศาลยุติธรรม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยแต่ละองค์กรมีการดำเนินบทบาทและมีภาระ หน้าที่ต่างกันไป รวมทั้งมีการกำหนดเครื่องมือหรือ
กลไกต่าง ๆ ขึ้น เพื่อให้การเมืองโปร่งใสและดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
"ใบแดง - ใบเหลือง" ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ใช้ในการควบคุมให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่าง
สุจริตและยุติธรรมอย่างหนึ่ง โดย กกต. มีอำนาจสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งหรือที่เรียกกันว่า "ใบแดง"
แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่กระทำการ โดยไม่สุจริต ทั้งก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้งเป็นเวลา ๑ ปี
และผู้ที่ถูกเพิกถอนการเลือกตั้ง จะถูกตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งถูกตัดสิทธิ การไปใช้สิทธิ
การลงคะแนนด้วย ในกรณีของการให้ "ใบเหลือง" นั้น กกต. จะสั่งให้มีการ
เลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งก่อนที่จะประกาศผลการเลือกตั้งหรือหลังจากประกาศผลการเลือกตั้งไปแล้ว
ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไม่ได้รับการรับรอง
ความผิดหรือการกระทำที่ถือว่าเป็นการทุจริตต่อการเลือกตั้งนั้นมีหลายกรณี เช่น
๑. การซื้อเสียงหรือจัดเตรียมที่จะซื้อเสียง
๒. การให้หรือ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินแก่ชุมชนหรือองค์กรสาธารณ
ประโยชน์ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
๓. การจัดมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
๔. การเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยง เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
๕. การหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือ
จูงใจให้ เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
๖. การจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้ง เพื่อจูงใจหรือควบคุม
ให้ไปลงคะแนน
๗. การเรียกทรัพย์สินเพื่อจะลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
๘. การพนันขันต่อเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง
๙. การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อเป็นคุณ หรือเป็นโทษ
แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง
๑๐. การที่นายจ้างไม่ให้ความสะดวกต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของลูกจ้าง
๑๑. การจำหน่าย จ่าย แจกสุราในเขตเลือกตั้ง ระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา
ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
๑๒. การนับคะแนนให้ผิดไปจากความจริง
ในต้นปี ๒๕๔๘ จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ขึ้นแทนสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรชุดเดิมซึ่งจะหมดวาระลงในวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๘ ดังนั้นประชาชนทุกคนควรมี
จิตสำนึกและมีความตื่นตัวในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งควรป้องกันสิทธิประโยชน์ของตน เพื่อให้
การเลือกตั้งจะเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมสมดังเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ
ในโอกาสวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเวียนมาบรรจบครบอีกวาระหนึ่ง
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า
เจ้าอยู่หัวที่มีต่อปวงชนชาวไทย รัฐสภาขอเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน คณะบุคคล
และประชาชนทั่วไปวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๔๗ ตั้งแต่ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ นาฬิกา
------------------------------------------
สำนักประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
มีผลบังคับใช้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างมากที่สุด และเป็นฉบับ
ประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองอย่างมากมาย มีการกำหนดการตรวจสอบ
การใช้อำนาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต มีการตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาดำเนินการในด้านต่าง ๆ ถึง
๘ องค์กรด้วยกัน ได้แก่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา คณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชน ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง คณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ศาลยุติธรรม ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
โดยแต่ละองค์กรมีการดำเนินบทบาทและมีภาระ หน้าที่ต่างกันไป รวมทั้งมีการกำหนดเครื่องมือหรือ
กลไกต่าง ๆ ขึ้น เพื่อให้การเมืองโปร่งใสและดำเนินไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
"ใบแดง - ใบเหลือง" ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ใช้ในการควบคุมให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่าง
สุจริตและยุติธรรมอย่างหนึ่ง โดย กกต. มีอำนาจสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งหรือที่เรียกกันว่า "ใบแดง"
แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่กระทำการ โดยไม่สุจริต ทั้งก่อนการเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้งเป็นเวลา ๑ ปี
และผู้ที่ถูกเพิกถอนการเลือกตั้ง จะถูกตัดสิทธิการลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งถูกตัดสิทธิ การไปใช้สิทธิ
การลงคะแนนด้วย ในกรณีของการให้ "ใบเหลือง" นั้น กกต. จะสั่งให้มีการ
เลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งก่อนที่จะประกาศผลการเลือกตั้งหรือหลังจากประกาศผลการเลือกตั้งไปแล้ว
ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งไม่ได้รับการรับรอง
ความผิดหรือการกระทำที่ถือว่าเป็นการทุจริตต่อการเลือกตั้งนั้นมีหลายกรณี เช่น
๑. การซื้อเสียงหรือจัดเตรียมที่จะซื้อเสียง
๒. การให้หรือ สัญญาว่าจะให้เงินหรือทรัพย์สินแก่ชุมชนหรือองค์กรสาธารณ
ประโยชน์ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
๓. การจัดมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
๔. การเลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยง เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
๕. การหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือ
จูงใจให้ เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
๖. การจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้ง เพื่อจูงใจหรือควบคุม
ให้ไปลงคะแนน
๗. การเรียกทรัพย์สินเพื่อจะลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
๘. การพนันขันต่อเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง
๙. การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อเป็นคุณ หรือเป็นโทษ
แก่ผู้สมัคร หรือพรรคการเมือง
๑๐. การที่นายจ้างไม่ให้ความสะดวกต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของลูกจ้าง
๑๑. การจำหน่าย จ่าย แจกสุราในเขตเลือกตั้ง ระหว่างเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา
ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง
๑๒. การนับคะแนนให้ผิดไปจากความจริง
ในต้นปี ๒๕๔๘ จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ขึ้นแทนสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรชุดเดิมซึ่งจะหมดวาระลงในวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๔๘ ดังนั้นประชาชนทุกคนควรมี
จิตสำนึกและมีความตื่นตัวในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งควรป้องกันสิทธิประโยชน์ของตน เพื่อให้
การเลือกตั้งจะเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมสมดังเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ
ในโอกาสวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเวียนมาบรรจบครบอีกวาระหนึ่ง
เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า
เจ้าอยู่หัวที่มีต่อปวงชนชาวไทย รัฐสภาขอเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน คณะบุคคล
และประชาชนทั่วไปวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร ในวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๔๗ ตั้งแต่ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ นาฬิกา
------------------------------------------
สำนักประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร