ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. สศช.แถลงภาวะสังคมไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 47 เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงถึงภาวะสังคมไตรมาส 3 ปี 47 ว่า ประชากรของไทยมีสัด
ส่วนผู้สูงอายุเพิ่มจาก 9.4% เป็น 16.8% วัยเด็กลดจาก 24.7% เหลือ 19% และคาดว่าสิ้นปี 47 จะมีผู้สูงอายุ
60 ปีเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 10.3% ของจำนวนประชากร ส่วนคุณภาพของประชาชน สถานการณ์การมีงานทำใน
ไตรมาสที่ 3 ปี 47 เพิ่มขึ้น โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แรงงานภาคเกษตรลดลงเนื่อง
จากการส่งออกสินค้าเกษตรชะลอลง ด้านความมั่นคงทางสังคม ปริมาณคดีที่เด็กและเยาวชนทำความผิดมีจำนวนเพิ่ม
ขึ้น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อน สภาพครอบครัว และการด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยด้านสังคม
ที่เปลี่ยนแปลงและน่าเป็นห่วง คือ พฤติกรรมการบริโภคที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เกินความจำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น
ซึ่งพบว่าอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มจาก 13 ล้านคนในปี 46 เป็น 16.5 ล้านคนในปี 47 (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
2. คาดว่าเงินบาทในปี 48 มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ฝ่ายวิจัย ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
คาดการณ์สถานการณ์ค่าเงินบาทในปี 48 ท่ามกลางสถานการณ์เงินดอลลาร์ สรอ.อ่อนค่าลงว่า เงินบาทมีแนวโน้ม
แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 39.00-39.50 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. เทียบกับ 40.37 บาทต่อดอลลาร์ สรอ.
ในปี 47 ทั้งนี้ ปัจจัยภายในที่อาจกดดันไม่ให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากนัก เนื่องจากภาวะดุลการค้าในปี 48 ที่มีแนวโน้ม
จะขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่ดุลบริการบริจาคอาจเกินดุลลดลงจากความไม่แน่นอนของภาวะการท่องเที่ยว
ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลน้อยลง สะท้อนถึงขีดความสามารถในการหารายได้ต่างประเทศที่ลดลง นอกจากนี้
ปัจจัยเสี่ยงด้านราคาน้ำมันและสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน (โลกวันนี้)
3. ก.คลังจัดทำโครงการปรับปรุงตลาดตราสารหนี้เพื่อรองรับการพัฒนาตลาด พธบ.เอเชีย นายอุ
ตตม สาวนายน ที่ปรึกษา รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
ได้ให้ความเห็นชอบโครงการปรับปรุงตลาดตราสารหนี้ของประเทศไทย เพื่อรองรับการพัฒนาตลาด พธบ.เอเชีย
โดยเห็นชอบให้มีการรวมตลาดตราสารหนี้ของศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย(ThaiBDC) เข้ากับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
รวมถึงการปรับปรุงระบบเคลียริ่ง การพัฒนาระบบการยืมหลักทรัพย์ และการพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการกำกับดูแลที่ดี
โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 48 เป็นต้นไป (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
4. ผลการสำรวจการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 48 เพิ่มขึ้นจากปี 47 ผอ.ศูนย์
พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชน
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2548 โดยการสำรวจจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะมีการใช้จ่าย
เงินประมาณ 59,695.67 ล.บาท เพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ปี 2547 ที่มีการใช้จ่ายเงินจำนวน
55,632 ล.บาท ทั้งนี้ หากรวมการใช้จ่ายของประชาชนทั้งประเทศจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 1.2-1.4 แสน ล.
บาท สำหรับเหตุผลที่ทำให้คนไทยจับจ่ายใช้จ่ายในช่วงปีใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงปลายปี ทำให้ประชาชนมั่นใจที่จะใช้เงินมากขึ้น ซึ่งการสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น (ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดขายบ้านใหม่ของ สรอ.ในเดือน พ.ย.47 ลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ร้อยละ 12 ในรอบ
มากกว่า 1 ทศวรรษ รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 23 ธ.ค.47 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่
ของ สรอ.ในเดือน พ.ย.47 ลดลงอย่างไม่คาดคิดในรอบมากกว่า 1 ทศวรรษที่ร้อยละ 12 ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัว
มากสุดตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาที่ขายได้จำนวน 1.095 ล้านหน่วย และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรี
ทประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมียอดขาย 1.20 ล้านหน่วย หลังจากที่ในเดือน ต.ค.47 มียอดขายจำนวน
1.278 ล้านหน่วย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2) จากที่รายงานก่อนหน้านี้ว่ามียอดขายจำนวน 1.226 ล้านหน่วย ทั้งนี้
ยอดขายบ้านใหม่ของ สรอ.เคยลดลงสูงสุดที่ร้อยละ 23.8 เมื่อเดือน ม.ค.37 อนึ่ง ยอดขายบ้านใหม่เป็นเครื่อง
ช่วยเศรษฐกิจ สรอ.ให้ขยายตัว โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ค่อนข้างต่ำในขณะนี้ช่วยให้ผู้ซื้อบ้านสามารถกู้ยืม
เงินได้มาก แต่ราคาบ้านที่สูงขึ้นทำให้ผู้ที่อยากจะซื้อบ้านไม่สามารถได้รับสินเชื่อเพื่อการจำนองในบางพื้นที่ของ
ประเทศได้ (รอยเตอร์)
2. ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ธ.ค.47 เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ที่ร้อยละ 0.9
เทียบต่อเดือน รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 23 ธ.ค.47 สำนักงานสถิติเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของ
เยอรมนีในเดือน ธ.ค.47 เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.9 เทียบต่อเดือน และหากเทียบต่อ
ปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 47 อยู่ที่ร้อยละ 1.6 ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดตั้งแต่ปี 44 เนื่องจาก
รัฐบาลปรับเพิ่มภาษีบุหรี่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับต้นทุนของ package holiday ในช่วงเทศกาลของ
บางรัฐในเยอรมนีเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 34 จากเดือนก่อน ซึ่ง ผลสำรวจโดยรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคาดว่า
ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เทียบต่อเดือน และอัตราเงินฟ้อทั้งปี 47 จะอยู่ที่ร้อยละ
1.9 ทั้งนี้ หากคำนวณตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (HICP) อัตราเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค.47 จะอยู่ที่ร้อยละ
1.0.และ 2.1 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ โดยในเดือน พ.ย.47 ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงร้อยละ 0.4
เทียบต่อเดือน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบต่อปี แต่หากคำนวณตามวิธี HICP ดัชนีราคาจะลดลงเท่ากันคือร้อย
ละ 0.4 เมื่อเทียบต่อเดือน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบต่อปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Morgan
Stanley และ Goldman Sachs เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจยุโรปทั้งปี 47 ควรจะอยู่ที่ร้อยละ 2.3 (รอยเตอร์)
3. อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ในขณะที่การ
ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี รายงานจากลอนดอน เมื่อ 23 ธ.ค.47 สนง.สถิติแห่งชาติ
ของอังกฤษปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้เป็นร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อนสูงกว่า
รายงานครั้งก่อนซึ่งตรงกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 อย่างไรก็ดีอัตราการขยายตัวดังกล่าวอยู่
ในระดับต่ำสุดนับไตรมาสที่ 2 ปีที่แล้วและลดลงมากจากอัตราการขยายตัวร้อยละ 0.9 ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ การ
ปรับเพิ่มดังกล่าวเป็นไปตามประมาณการที่สูงขึ้นของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้างและการบริการ ทำให้คาด
ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวตามแนวโน้มระยะยาวในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ตามที่ ธ.กลางอังกฤษคาดไว้ ในขณะที่
การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.77 พันล้านปอนด์จาก 5.8 พันล้านปอนด์ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้โดย
เป็นการลดลงในทุกบัญชีโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติของธุรกิจในอังกฤษ และนับ
เป็นการขาดดุลเดินสะพัดในรูปเงินปอนด์สูงสุดต่อไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 42 ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง
เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. อย่างไรก็ดี การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าวคิดเป็นเพียงร้อยละ 3 ของ GDP
เทียบกับร้อยละ 4 ในไตรมาสแรกปี 42 และเป็นอัตราเพียงครึ่งหนึ่งของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของ สรอ. (รอยเตอร์)
4. คาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในเดือนพ.ย. จะลดลง รายงานจากสิงคโปร์เมื่อวันที่
23 ธ.ค 47 ผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 7 คนของรอยเตอร์คาดว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในเดือน
พ.ย. จะลดลงร้อยละ 3.0 จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.1 ในเดือนต.ค. (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) และเมื่อเทียบต่อ
ปีคาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 จากที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.4 เมื่อเดือนต.ค. ส่วนหนึ่งเนื่อง
จากการเทียบฐานที่ต่ำกว่าในปีที่แล้ว (ค่ากลางจากการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 10 คน) เนื่องจากอุปสงค์ในสินค้า
เทคโนโลยีและคำสั่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสลดลง ทั้งนี้นาย Suan Tech Kin นัก
เศรษฐศาสตร์จาก ธ.OCBC เห็นว่า สต็อกสินค้าเทคโนโลยี โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์อยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อ
เนื่อง และการฟื้นตัวสำหรับสินค้า hard disk ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ทั้งนี้รัฐบาล
สิงคโปร์มีกำหนดจะเปิดเผยตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการในวันจันทร์นี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 24/12/2490 23 ธ.ค 47 30/1/2490 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.031 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8310/39.1286 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.050-2.09375 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 667.90/ 14.51 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,150/8,250 8,150/8,250 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.77 34.62 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 19.29*/14.59 19.29*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับลด ลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 17 ธ.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. สศช.แถลงภาวะสังคมไทยในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 47 เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงถึงภาวะสังคมไตรมาส 3 ปี 47 ว่า ประชากรของไทยมีสัด
ส่วนผู้สูงอายุเพิ่มจาก 9.4% เป็น 16.8% วัยเด็กลดจาก 24.7% เหลือ 19% และคาดว่าสิ้นปี 47 จะมีผู้สูงอายุ
60 ปีเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 10.3% ของจำนวนประชากร ส่วนคุณภาพของประชาชน สถานการณ์การมีงานทำใน
ไตรมาสที่ 3 ปี 47 เพิ่มขึ้น โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แรงงานภาคเกษตรลดลงเนื่อง
จากการส่งออกสินค้าเกษตรชะลอลง ด้านความมั่นคงทางสังคม ปริมาณคดีที่เด็กและเยาวชนทำความผิดมีจำนวนเพิ่ม
ขึ้น เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากกลุ่มเพื่อน สภาพครอบครัว และการด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยด้านสังคม
ที่เปลี่ยนแปลงและน่าเป็นห่วง คือ พฤติกรรมการบริโภคที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เกินความจำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น
ซึ่งพบว่าอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือเพิ่มจาก 13 ล้านคนในปี 46 เป็น 16.5 ล้านคนในปี 47 (กรุงเทพธุรกิจ, ข่าวสด)
2. คาดว่าเงินบาทในปี 48 มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ฝ่ายวิจัย ธ.กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
คาดการณ์สถานการณ์ค่าเงินบาทในปี 48 ท่ามกลางสถานการณ์เงินดอลลาร์ สรอ.อ่อนค่าลงว่า เงินบาทมีแนวโน้ม
แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 39.00-39.50 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. เทียบกับ 40.37 บาทต่อดอลลาร์ สรอ.
ในปี 47 ทั้งนี้ ปัจจัยภายในที่อาจกดดันไม่ให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากนัก เนื่องจากภาวะดุลการค้าในปี 48 ที่มีแนวโน้ม
จะขาดดุลเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ขณะที่ดุลบริการบริจาคอาจเกินดุลลดลงจากความไม่แน่นอนของภาวะการท่องเที่ยว
ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลน้อยลง สะท้อนถึงขีดความสามารถในการหารายได้ต่างประเทศที่ลดลง นอกจากนี้
ปัจจัยเสี่ยงด้านราคาน้ำมันและสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน (โลกวันนี้)
3. ก.คลังจัดทำโครงการปรับปรุงตลาดตราสารหนี้เพื่อรองรับการพัฒนาตลาด พธบ.เอเชีย นายอุ
ตตม สาวนายน ที่ปรึกษา รมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
ได้ให้ความเห็นชอบโครงการปรับปรุงตลาดตราสารหนี้ของประเทศไทย เพื่อรองรับการพัฒนาตลาด พธบ.เอเชีย
โดยเห็นชอบให้มีการรวมตลาดตราสารหนี้ของศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย(ThaiBDC) เข้ากับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
รวมถึงการปรับปรุงระบบเคลียริ่ง การพัฒนาระบบการยืมหลักทรัพย์ และการพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการกำกับดูแลที่ดี
โดยจะเริ่มดำเนินการในปี 48 เป็นต้นไป (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้)
4. ผลการสำรวจการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ปี 48 เพิ่มขึ้นจากปี 47 ผอ.ศูนย์
พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของประชาชน
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2548 โดยการสำรวจจากประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะมีการใช้จ่าย
เงินประมาณ 59,695.67 ล.บาท เพิ่มขึ้น 7.3% เมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ปี 2547 ที่มีการใช้จ่ายเงินจำนวน
55,632 ล.บาท ทั้งนี้ หากรวมการใช้จ่ายของประชาชนทั้งประเทศจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 1.2-1.4 แสน ล.
บาท สำหรับเหตุผลที่ทำให้คนไทยจับจ่ายใช้จ่ายในช่วงปีใหม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงปลายปี ทำให้ประชาชนมั่นใจที่จะใช้เงินมากขึ้น ซึ่งการสำรวจดังกล่าวสอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น (ผู้จัดการรายวัน)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ยอดขายบ้านใหม่ของ สรอ.ในเดือน พ.ย.47 ลดลงอย่างไม่คาดคิดที่ร้อยละ 12 ในรอบ
มากกว่า 1 ทศวรรษ รายงานจากวอชิงตัน เมื่อ 23 ธ.ค.47 ก.พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่
ของ สรอ.ในเดือน พ.ย.47 ลดลงอย่างไม่คาดคิดในรอบมากกว่า 1 ทศวรรษที่ร้อยละ 12 ซึ่งเป็นอัตราที่ชะลอตัว
มากสุดตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมาที่ขายได้จำนวน 1.095 ล้านหน่วย และลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรี
ทประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมียอดขาย 1.20 ล้านหน่วย หลังจากที่ในเดือน ต.ค.47 มียอดขายจำนวน
1.278 ล้านหน่วย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2) จากที่รายงานก่อนหน้านี้ว่ามียอดขายจำนวน 1.226 ล้านหน่วย ทั้งนี้
ยอดขายบ้านใหม่ของ สรอ.เคยลดลงสูงสุดที่ร้อยละ 23.8 เมื่อเดือน ม.ค.37 อนึ่ง ยอดขายบ้านใหม่เป็นเครื่อง
ช่วยเศรษฐกิจ สรอ.ให้ขยายตัว โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ค่อนข้างต่ำในขณะนี้ช่วยให้ผู้ซื้อบ้านสามารถกู้ยืม
เงินได้มาก แต่ราคาบ้านที่สูงขึ้นทำให้ผู้ที่อยากจะซื้อบ้านไม่สามารถได้รับสินเชื่อเพื่อการจำนองในบางพื้นที่ของ
ประเทศได้ (รอยเตอร์)
2. ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน ธ.ค.47 เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ที่ร้อยละ 0.9
เทียบต่อเดือน รายงานจากเบอร์ลิน เมื่อ 23 ธ.ค.47 สำนักงานสถิติเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของ
เยอรมนีในเดือน ธ.ค.47 เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.9 เทียบต่อเดือน และหากเทียบต่อ
ปีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 47 อยู่ที่ร้อยละ 1.6 ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดตั้งแต่ปี 44 เนื่องจาก
รัฐบาลปรับเพิ่มภาษีบุหรี่เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับต้นทุนของ package holiday ในช่วงเทศกาลของ
บางรัฐในเยอรมนีเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 34 จากเดือนก่อน ซึ่ง ผลสำรวจโดยรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคาดว่า
ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 เทียบต่อเดือน และอัตราเงินฟ้อทั้งปี 47 จะอยู่ที่ร้อยละ
1.9 ทั้งนี้ หากคำนวณตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (HICP) อัตราเงินเฟ้อในเดือน ธ.ค.47 จะอยู่ที่ร้อยละ
1.0.และ 2.1 เมื่อเทียบต่อเดือนและต่อปีตามลำดับ โดยในเดือน พ.ย.47 ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลงร้อยละ 0.4
เทียบต่อเดือน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบต่อปี แต่หากคำนวณตามวิธี HICP ดัชนีราคาจะลดลงเท่ากันคือร้อย
ละ 0.4 เมื่อเทียบต่อเดือน แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบต่อปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก Morgan
Stanley และ Goldman Sachs เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของเขตเศรษฐกิจยุโรปทั้งปี 47 ควรจะอยู่ที่ร้อยละ 2.3 (รอยเตอร์)
3. อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ในขณะที่การ
ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี รายงานจากลอนดอน เมื่อ 23 ธ.ค.47 สนง.สถิติแห่งชาติ
ของอังกฤษปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้เป็นร้อยละ 0.5 จากไตรมาสก่อนสูงกว่า
รายงานครั้งก่อนซึ่งตรงกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 อย่างไรก็ดีอัตราการขยายตัวดังกล่าวอยู่
ในระดับต่ำสุดนับไตรมาสที่ 2 ปีที่แล้วและลดลงมากจากอัตราการขยายตัวร้อยละ 0.9 ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ การ
ปรับเพิ่มดังกล่าวเป็นไปตามประมาณการที่สูงขึ้นของผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้างและการบริการ ทำให้คาด
ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวตามแนวโน้มระยะยาวในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ตามที่ ธ.กลางอังกฤษคาดไว้ ในขณะที่
การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.77 พันล้านปอนด์จาก 5.8 พันล้านปอนด์ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้โดย
เป็นการลดลงในทุกบัญชีโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติของธุรกิจในอังกฤษ และนับ
เป็นการขาดดุลเดินสะพัดในรูปเงินปอนด์สูงสุดต่อไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาสแรกปี 42 ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง
เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ. อย่างไรก็ดี การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดดังกล่าวคิดเป็นเพียงร้อยละ 3 ของ GDP
เทียบกับร้อยละ 4 ในไตรมาสแรกปี 42 และเป็นอัตราเพียงครึ่งหนึ่งของการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของ สรอ. (รอยเตอร์)
4. คาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในเดือนพ.ย. จะลดลง รายงานจากสิงคโปร์เมื่อวันที่
23 ธ.ค 47 ผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 7 คนของรอยเตอร์คาดว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ในเดือน
พ.ย. จะลดลงร้อยละ 3.0 จากที่ขยายตัวร้อยละ 5.1 ในเดือนต.ค. (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล) และเมื่อเทียบต่อ
ปีคาดว่าผลผลิตอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 จากที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.4 เมื่อเดือนต.ค. ส่วนหนึ่งเนื่อง
จากการเทียบฐานที่ต่ำกว่าในปีที่แล้ว (ค่ากลางจากการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 10 คน) เนื่องจากอุปสงค์ในสินค้า
เทคโนโลยีและคำสั่งซื้อยาและเวชภัณฑ์ในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาสลดลง ทั้งนี้นาย Suan Tech Kin นัก
เศรษฐศาสตร์จาก ธ.OCBC เห็นว่า สต็อกสินค้าเทคโนโลยี โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์อยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อ
เนื่อง และการฟื้นตัวสำหรับสินค้า hard disk ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ทั้งนี้รัฐบาล
สิงคโปร์มีกำหนดจะเปิดเผยตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมอย่างเป็นทางการในวันจันทร์นี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 24/12/2490 23 ธ.ค 47 30/1/2490 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.031 39.263 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.8310/39.1286 39.0915/39.3765 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.050-2.09375 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 667.90/ 14.51 698.90/29.26 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,150/8,250 8,150/8,250 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 34.77 34.62 28.18 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 19.29*/14.59 19.29*/14.59 16.99/14.59 ปตท.
* ปรับลด ลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 17 ธ.ค.47
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--