โอกาสในการผลักดันให้สหรัฐฯเจรจาน้ำตาลกับไทย

          หอการค้าไทย ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2547 กลุ่ม Sugar Reform Caucus ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่เป็นแกนนำในการก่อตั้งกลุ่ม ประกอบด้วย นาย Phil Crane (R-IL) ประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการค้า คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร นาย Mark Kirk (R-IL) นาย Danny Davis (D-IL) และนาย Clay Shaw (R-FL) ซึ่งหลังจากการเปิดตัว นาง Mary Sophos รองประธานอาวุโสฝ่ายกิจการภาครัฐของ Grocery Manufactures of America (GMA) ได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนการก่อตั้งกลุ่ม Sugar Reform Caucus ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ 
          1. การปฎิรูประบบการอุดหนุนการผลิตน้ำตาลของสหรัฐฯ มีความสำคัญ เนื่องจากระบบดังกล่าวเป็นการให้ประโยชน์ต่อคนกลุ่มน้อย คือ กลุ่มผู้ผลิตน้ำตาล ในขณะที่อุตสาหกรรมที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบและกลุ่มผู้บริโภคต้องรับภาระของราคาวัตถุดิบที่สูงกว่าตลาดโลก โดยราคาน้ำตาลในสหรัฐฯ มีราคาสูงถึงร้อยละ 200 และโครงการอุดหนุนการผลิตน้ำตาลภายใต้ Farm Act ก่อให้เกิดภาระทางภาษีของรัฐมากถึง 200 พันล้านเหรียญฯต่อปี  นอกจากนั้น ยังส่งผลกระทบต่อการเลิกจ้างงานมากกว่า 10,000 คน ในอุตสาหกรรมฟอกน้ำตาล และการผลิตขนมหวาน
          2. การให้การปกป้องอุตสาหกรรมน้ำตาลเป็นอุปสรรคทางการค้า การปฎิรูประบบดังกล่าวจะส่งเสริมความสามารถทางการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐฯ และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และที่สำคัญการแยกสาขาน้ำตาลออกจากกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศต่าง ๆ เป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศคู่เจรจาปกป้องตลาดภายในของตนจากการเปิดเสรีสินค้าประเภทอื่น ๆ อาทิ ข้าว เนื้อวัว และอาหารแปรรูป จากสหรัฐฯเช่นเดียวกัน
          เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อพิจารณาจากรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ที่เข้าร่วมกลุ่ม  เห็นได้ว่าส่วนใหญ่มาจากมลรัฐที่เป็นฐานของอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำตาลเป็นวัตถุดิบ อาทิ อิลลินอยส์ และมิชิแกน ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนมหวานที่สำคัญของสหรัฐฯ และกำลังประสบปัญหาราคาวัตถุดิบที่มีราคาสูง นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากรายชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลุ่มดังกล่าวแล้วมี 2 รายที่เป็นแกนนำสำคัญในกลุ่ม Friends of Thailand Caucus กล่าวคือ นาย Phil Crane (R-IL) และนาย Jim Kolbe (R-AZ) ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะได้ประสานงานกับกลุ่มดังกล่าวเพื่อผลักดันให้มีแรงกดดันทางการเมืองให้ฝ่ายบริหารสหรัฐฯ พิจารณาการเจรจาสาขาน้ำตาลกับไทย ทั้งนี้ เนื่องจากเท่าที่ผ่านมา ในการดึงสาขาน้ำตาลออกจากการเปิดเสรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีสหรัฐฯ-ออสเตรเลีย ส่งผลให้สมาชิกรัฐสภาที่สำคัญหลายรายของสหรัฐฯ เช่น วุฒิสมาชิก Charles Grassley (R-IA) แสดงความไม่พอใจต่อฝ่ายบริหารที่จำนนต่อแรงกดดันของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำตาลภายในประเทศ เช่น American Sugar Alliance (ASA)
           ที่มา: หอการค้าไทย ศูนย์ข้อมูลธุรกิจ www.thaiechamber.com
-ดท-