การส่งออกของไทยในระยะ 11 เดือนแรกของปี 2539 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่ารวม 1,292,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2538 เป็นมูลค่า 7,894 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.6 การส่งออกชะลอตัวลงต่อเนื่องนับแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา อันเป็นผลมาจากการลดลงของการส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและสินค้าเกษตรกรรม ขณะที่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรการส่งออกยังขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยสินค้าอุตสาหกรรมส่งออกได้ 747,860 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.2 สินค้าเกษตรกรรมส่งออกได้ 202,653 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 0.2 และสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรส่งออกได้ 122,996 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6
ประเภทสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว ยางพารา น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ แผงวงจร ไฟฟ้า ฯลฯ ส่วนสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง กาแฟดิบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ปอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
ด้านตลาดส่งออก การส่งออกไปประเทศต่าง ๆ มีแนวโน้มชะลอตัวลงในตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ส่งออกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 สหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ส่วนอาเซียน ลดลงร้อยละ 1.9
ในด้านการนำเข้าของไทยในระยะ 11 เดือนแรกนี้ มีมูลค่ารวม 1,692,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2538 ร้อยละ 5.1 การนำเข้าขยายตัวในลักษณะชะลอตัวลงต่อเนื่องเช่นเดียวกับการส่งออก โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ซึ่งลดลงประมาณร้อยละ 4.7 และ 4.8 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ยกเว้นสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่การนำเข้ายังขยายตัวในอัตราสูงถึงร้อยละ 38.4 โดยเฉพาะน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60.9
จากมูลค่าการส่งออกและการนำเข้าดังกล่าว ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยขาดดุล มูลค่า 399,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 22.8
--ข่าวเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์/12 กุมภาพันธ์ 2540--
ประเภทสินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าว ยางพารา น้ำตาลทราย อาหารทะเลกระป๋อง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ แผงวงจร ไฟฟ้า ฯลฯ ส่วนสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง กาแฟดิบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ปอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
ด้านตลาดส่งออก การส่งออกไปประเทศต่าง ๆ มีแนวโน้มชะลอตัวลงในตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ส่งออกได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 สหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 ส่วนอาเซียน ลดลงร้อยละ 1.9
ในด้านการนำเข้าของไทยในระยะ 11 เดือนแรกนี้ มีมูลค่ารวม 1,692,508 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปี 2538 ร้อยละ 5.1 การนำเข้าขยายตัวในลักษณะชะลอตัวลงต่อเนื่องเช่นเดียวกับการส่งออก โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบและสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์ขนส่ง ซึ่งลดลงประมาณร้อยละ 4.7 และ 4.8 ตามลำดับ ขณะที่สินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ยกเว้นสินค้าน้ำมันเชื้อเพลิงที่การนำเข้ายังขยายตัวในอัตราสูงถึงร้อยละ 38.4 โดยเฉพาะน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60.9
จากมูลค่าการส่งออกและการนำเข้าดังกล่าว ส่งผลให้ดุลการค้าของไทยขาดดุล มูลค่า 399,653 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 22.8
--ข่าวเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์/12 กุมภาพันธ์ 2540--