การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่า 16,994.5 ล้านบาท เทียบกับ 11,984.83 ล้านบาท
ของปี 2540 ในช่วงระยะเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8 และเมื่อคิดเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ มีมูลค่า 356.3
ล้านเหรียญ เทียบกับ 466.6 ล้านเหรียญ ของปี 2540 ในช่วงระยะเดียวกันลดลงประมาณร้อยละ 23.6
กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไว้ที่ 2,029 ล้านเหรียญ เมื่อเปรียบ
เทียบกับมูลค่าการส่งออกในช่วงไตรมาสแรก มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 17.5 ของเป้าหมายการส่งออกทั้งปี
อัญมณีและเครื่องประดับที่ส่งออกประกอบด้วยเครื่องประดับร้อยละ 55.60 เพชรร้อยละ 21.7 พลอยและ
ไข่มุกร้อยละ 18.0 เครื่องประดับเทียมร้อยละ 3.9 และอัญมณีสังเคราะห์ร้อยละ 0.8
ตลาดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง ญี่ปุ่น อิสราเอลและ
เบลเยียม ทั้ง 5 ตลาดนี้มีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 67.2 และมีอัตราการขยายตัว 4 ตลาด ในอัตราร้อย
ละ 71.4 11.4 9.4 57.4 ตามลำดับ ส่วนเบลเยียม ลดลงร้อยละ 4.8 จะเห็นได้ว่า การส่งออกอัญมณีและ
เครื่องประดับของไทยยังกระจุกตัวอยู่ที่ตลาดหลัก
จากสถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับในช่วง 3 เดือนแรก ปี 2541 มีแนวโน้ม
ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ เช่น
- การขาดสภาพคล่องทางการเงิน
- ภาระต้นทุนการผลิตสูง เนื่องจากเงินกู้จากธนาคารมีอัตราดอกเบี้ยสูง วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศมี
ราคาสูงขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากต่างประเทศกว่าร้อยละ 50 โดย
เฉพาะเพชร พลอยชนิดต่าง ๆ และโลหะมีค่า เป็นต้น มีผลให้ผู้นำเข้าหันไปสั่งซื้อจากแหล่งผลิตอื่นที่มีภาระต้นทุนที่
ต่ำกว่ามากขึ้น
- ผู้บริโภคในต่างประเทศหันไปนิยมเครื่องประดับที่มีราคาระดับกลางไปทางต่ำมากขึ้น เป็นต้น
- ประสบภาวะการแข่งขันสูงกับประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ เช่น อินเดีย
ข้อคิดเห็น
โดยทั่วไปเมื่อเกิดวิกฤตการณ์ด้านเศรษฐกิจในตลาดโลกปริมาณความต้องการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ
จะมีแนวโน้มลดลง เพราะเป็นสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อการยังชีพมีผลให้การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้บริโภคทั่วไปซึ่งรักความสวยงามได้หันไปซื้อเครื่องประดับที่มีราคาต่ำลงไปเช่น เครื่องประดับ
เงินมากขึ้น เป็นต้น ดังนั้นจึงควรพัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและพยายามกระจายการส่งออก
ไปยังตลาดอื่นนอกเหนือจากตลาดหลักให้มากขึ้น เช่น ตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก เป็นต้น
ภาวะการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ
ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับสำคัญประเทศหนึ่งของโลกเนื่องจากมีฝีมือเป็น
เลิศในการเจียระไนทั้งพลอยและเพชร รวมทั้งการประดิษฐ์เครื่องประดับมี คุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก จึงได้
รับความไว้วางใจส่งอัญมณีมาเจียระไนที่ประเทศไทยเป็นจำนวนมาก มีผลให้อัญมณีและเครื่องประดับเป็นสินค้าชั้นแนว
หน้าที่มีบทบาทสูงต่อเศรษฐกิจและเป็นสินค้าส่งออกสำคัญอันดับ 6 ของประเทศ โดยมีสัดส่วนการส่งออกประมาณร้อยละ
3.1 ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศไทยในปี 2540
การผลิต ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับแบ่งออกเป็น 3 อุตสาหกรรม ได้แก่
- อุตสาหกรรมการเจียระไนเพชร ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเจียระไนเพชรส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรม
ร่วมทุนกับชาวต่างประเทศและได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) โดย
นักลงทุนชาวต่างประเทศเป็นผู้นำเอาเทคโนโลยีการเจียระไนเพชร เครื่องจักรและเครื่องมือต่าง ๆ ตลอดจนการนำ
เข้าเพชรดิบมาจากต่างประเทศเข้ามาทำการเจียระไนที่ประเทศไทยแล้วส่งออกไปยังตลาดโลก
- อุตสาหกรรมการเจียระไนพลอย ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเจียระไนพลอย โดยทั่วไปมีอยู่เป็นจำนวน
มาก และมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเทพมหานครและแหล่งผลิตพลอยในจังหวัดต่าง ๆ เช่น จันทบุรีและกาญจนบุรี เป็นต้น การ
ลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก เนื่องจากเครื่องมือและอุปกรณ์การเจียระไนไม่ซับซ้อน และมีราคาถูกกว่า
เครื่องมือการเจียระไนเพชร
- อุตสาหกรรมเครื่องประดับ (JEWELLERY) มีผู้ประกอบการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ เป็นจำนวนมาก ทั้งใน
กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดทำการผลิตทั้งเพื่อการส่งออกและตลาดภายในประเทศ การผลิตในอุตสาหกรรมเครื่อง
ประดับนี้ ต้องมีความรู้ด้านศิลปะและความชำนาญในขบวนการผลิตตั้งแต่การออกแบบ การทำแม่แบบ การหลอมโลหะ
การผสมโลหะ การหล่อ การขึ้นรูปตัวเรือนรูปพรรณ การฝังอัญมณีเข้ากับตัวเรือน ไปจนถึงการแต่งขั้นสุดท้าย
จำนวนโรงงานและปริมาณการจ้างงานในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
จากข้อมูลของคณะทำงานปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมได้รวบรวมจำนวนผู้ผลิตแต่ละ
ประเภทในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีดังนี้
จำนวนโรงงาน ประมาณ 640 โรงงาน
* เจียระไนเพชร-พลอย ประมาณ 250 โรงงาน
(รวมกลุ่มเจียระไนระดับครัวเรือน)
* ผลิตเครื่องประดับ ประมาณ 390 โรงงาน
การจ้างงาน ประมาณ 1,200,000 คน
* เจียระไนพลอย ประมาณ 1,000,000 คน
(รวมแรงงานในชนบท)
* เจียระไนเพชร ประมาณ 3,000 คน
* ทำเครื่องประดับ ประมาณ 200,000 คน
จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมหนึ่ง
เพราะนอกจากจะมีการจ้างงานเป็นจำนวนมากแล้วยังสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เป็นมูลค่าสูงอีกด้วย
วัตถุดิบ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับประกอบด้วย
ก. อัญมณี ประกอบด้วยเพชร พลอย ไข่มุก และอัญมณีสังเคราะห์ ปัจจุบันต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
เป็นมูลค่าสูง โดยในปี 2536 มีการนำเข้าอัญมณี 20,150.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 26,789.2 ล้านบาท ในปี
2539 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.9 ในช่วงสี่ปี ต่อมาปี 2540 มีมูลค่าลดลงเป็น 20,116.6 หรือลดลงร้อยละ
24.9 ปี 2541 เดือนมกราคม - มีนาคม มีมูลค่านำเข้า 5,817.4 ล้านบาท เทียบกับ 5,505.7 ล้านบาท
ของปี 2540 ช่วงระยะเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 อัญมณีที่นำเข้าจากต่างประเทศเมื่อคิดจากมูลค่าจะได้แก่
เพชรร้อยละ 86.5 พลอยร้อยละ 12.0 และไข่มุกร้อยละ 1.5
การนำเข้าเพชร มีการนำเข้าจากอินเดีย เบลเยียมและอิสราเอล กานาและคองโก
เป็นหลัก
การนำเข้าพลอย มีการนำเข้าจากอินเดีย สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง สวิตเซอร์แลนด์และ
ออสเตรเลียเป็นหลัก
การนำเข้าไข่มุก มีการนำเข้าจากญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย สิงคโปร์และฝรั่งเศสเป็นหลัก
ข. โลหะมีค่า ประกอบด้วยทองคำ เงิน และแพลทินัม มีการนำเข้าจากต่างประเทศเป็นมูลค่า
8,360.4 ล้านบาท ในปี 2536 เพิ่มขึ้นเป็น 14,575.5 ล้านบาท ในปี 2539 หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 74.3
ในช่วง 4 ปี และปี 2540 มีมูลค่าการนำเข้าลดลงเป็น 13,985.7 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 4.0 ปี
2541 เดือนมกราคม - มีนาคม มีมูลค่านำเข้า 3,910.6 ล้านบาท เทียบกับ 4,482.5 ล้านบาท ของปี
2540 ในช่วงระยะเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 โลหะมีค่าที่นำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อคิดจาก มูลค่าจะ
ประกอบด้วยทองคำร้อยละ 77.6 เงินร้อยละ 19.0 แพลทินัมร้อยละ 3.4
การนำเข้าทอง มีการนำจากออสเตรเลีย เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และอิสราเอล เป็นหลัก
การนำเข้าเงิน มีการนำเข้าจากเกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร เป็นหลัก
การนำเข้าแพลทินัม มีการนำเข้าจากญี่ปุ่น เยอรมนี สิงคโปร์ และอิตาลี เป็นหลัก
ค. อัญมณีสังเคราะห์ ในปี 2536 มีการนำเข้าเป็นมูลค่า 389.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 709.1 ล้านบาท
ในปี 2539 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 82.1 ในช่วง 4 ปี และปี 2540 มีมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 937.7 ล้านบาท หรือ
เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 ปี 2541 เดือนมกราคม - มีนาคม มีมูลค่านำเข้า 223.7 ล้านบาท เทียบกับ 196.9
ล้านบาท ของปี 2540 ในช่วงระยะเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.9 โดย นำเข้าจาก จีน ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์
ญี่ปุ่นและฮ่องกงเป็นหลัก
สถิติการนำเข้าวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ
รายการ มูลค่าการนำเข้า : ล้านบาท อัตรการขยายตัวร้อยละ
2536 2537 2538 2539 2540 2541 37 38 39 40 41
ม.ค.-มี.ค. ม.ค.-มี.ค.
1. อัญมณี 20,150.3 21,790.9 26,085.1 26,789.2 20,116.6 5,819.4 8.1 19.7 2.7 -24.9 5.6
- เพชร 16,270.3 18,561.5 22,374.3 22,838.0 17,299.1 5,033.6 14.1 20.5 2.1 -24.3 8.8
- พลอย 3,820.1 3,173.1 3,431.4 17,299.1 2,551.4 693.9 -16.9 8.1 -3.5 -22.9 -7.7
- ไข่มุก 59.9 56.3 279.4 3,311.1 266.1 91.9 - 6.1 396.3 129.1 -58.4 -27.9
2. โลหะมีค่า 8,360.4 11,191.9 13,883.0 640.1 13,985.7 3,910.6 33.6 24.0 4.9 -4.0 12.7
- ทองคำ 7,234.6 9,931.1 11,771.3 14,575.5 11,648.2 3,033.1 37.3 18.5 4.4 -5.2 -21.4
- เงิน 741.7 834.7 1,610.3 12,289.5 1,961.4 743.4 12.5 92.9 11.8 8.9 37.5
- แพลทินัม 384.1 426.1 561.4 1,800.6 376.1 134.1 10.9 31.7 -13.6 -22.4 61.6
3. อัญมณีสังเคราะห์ 389.4 502.7 763.3 484.9 937.7 223.7 29.1 51.8 -7.1 32.2 13.6
รวม 1+2+3 28,900.1 33,485.5 40,731.4 42,073.8 35,040.0 9,953.7 15.8 21.6 3.3 -16.7 -2.2
จากสถิติการนำเข้าวัตถุดิบสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับโดยรวมปี 2537 และ 2538
มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 และ 21.6 ตามลำดับ ส่วนปี 2539 อัตราการ ขยายตัวเพียงร้อยละ
3.3 และปี 2540 ลดลงร้อยละ 16.7 และปี 2541 เดือนมกราคม - มีนาคม มีมูลค่านำเข้า 9,953.7
ล้านบาท เทียบกับ 10,185.1 ล้านบาท ของปี 2540 ในช่วงระยะเดียวกันลดลงร้อยละ 2.2
การส่งออก สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในระยะที่ผ่านมาช่วง พ.ศ. 2536-2539 มีอัตราการขยายตัว
เพิ่มขึ้นลดลงในระดับที่แตกต่างกัน โดยในปี 2536 มีมูลค่า 43,495.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 47,088.7 ล้านบาท
ในปี 2537 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.3 ต่อมาปี 2538 และ 2539 มีมูลค่าการส่งออก 52,498.6 ล้านบาท และ
54,272.9 ล้านบาทมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 11.5 และ 3.4 ตามลำดับ ส่วนปี 2540 มีมูลค่าการส่งออก
55,622.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.5 และปี 2541 เดือนมกราคม - มีนาคม มีมูลค่าการส่งออก
16,994.5 ล้านบาท เทียบกับ 11,984.8 ล้านบาท ของปี 2540 ในช่วงระยะเดียวกันเพิ่มขึ้นร้อยละ 41.8
ทั้งนี้เพราะสามารถขยายการส่งออกเครื่องประดับได้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 104.4 พลอยและไข่มุกขยายตัวร้อยละ
20.7 เพชรลดลงตัวร้อยละ 14.0 เครื่องประดับเทียมขยายตัวร้อยละ 62.6 ส่วนอัญมณีสังเคราะห์ขยายตัวร้อยละ
3.7 และเมื่อพิจารณา ลงไปแต่ละรายการในกลุ่มเครื่องประดับพบว่าสินค้าเครื่องประดับทองขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ
118.3 เครื่องประดับเงินเพิ่มขึ้นร้อยละ 102.6 ส่วนเครื่องประดับแพลทินัมลดลงร้อยละ 26.9
โครงสร้างการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ
การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยประกอบด้วย เครื่องประดับมีค่าร้อยละ 55.6 เพชรร้อยละ
21.7 พลอยและไข่มุกร้อยละ 18.0 เครื่องประดับเทียมร้อยละ 3.9 และอัญมณีสังเคราะห์ร้อยละ 0.8
รายการ มูลค่าการส่งออก : ล้านบาท อัตราการขยายตัวร้อยละ
2536 2537 2538 2539 2540 2541 37 38 39 40 41
ม.ค.-มี.ค. ม.ค.-มี.ค.
อัญมณีและเครื่องประดับ 43,495.0 47,088.7 52,498.6 54,272.9 55,622.6 16,994.5 8.3 11.5 3.4 2.5 41.8
1 เพชร 12,075.5 14,913.7 18,888.5 20,230.3 15,899.5 3,688.8 27.5 26.7 7.1 -21.4 -14.0
2 พลอยและไข่มุก 11,413.6 11,354.3 10,692.7 10,497.6 9,643.7 3,058.4 -0.5 -5.8 -1.8 -8.1 20.7
3 เครื่องประดับ 17,677.1 18,502.2 20,598.5 21,277.5 27,645.8 9,450.2 4.7 11.3 3.3 29.9 104.4
3.1 เครื่องประดับทอง 12,963.7 13,749.7 15,532.9 15,939.2 20,595.4 7,103.1 6.0 12.9 2.6 29.2 118.3
3.2 เครื่องประดับเงิน 3,607.1 3,726.4 3,747.4 4,059.2 5,823.5 2,089.4 3.3 0.5 8.3 43.4 102.6
3.3 เครื่องประดับแพลททินั่ม 883.6 836.1 1,116.4 1,234.4 1,174.3 239.8 -5.3 33.5 10.5 -4.8 -26.9
3.4 เครื่องประดับมีค่าชนิดอื่น 222.7 190.0 201.8 44.7 52.6 17.7 -14.6 6.2 -77.8 17.6 67.4
4 เครื่องประดับเทียม 1,714.0 1,750.1 1,873.4 1,816.5 1,909.1 663.8 2.1 7.0 -3.0 5.1 62.6
5 อัญมณีสังเคราะห์ 614.9 568.4 445.4 451.0 524.5 133.3 -7.5 -21.6 1.3 16.3 3.7
ที่มา : ศูนย์สถิติการพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
หมายเหตุ : ปี 2541 เป็นตัวเลขเบื้องต้น
เป้าหมายการส่งออก
กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับปี 2541 ที่มูลค่า 2,029
ล้านเหรียญสหรัฐ การส่งออกเดือนมกราคม - มีนาคม มีมูลค่า 356.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับ
466.6 ล้านเหรียญ ของปี 2540 ในช่วงระยะเดียวกันลดลงร้อยละ 23.6 หรือคิดเป็น ร้อยละ 17.7
ของเป้าหมายการส่งออกทั้งปี
ตลาดส่งออก อัญมณีและเครื่องประดับสำคัญ 10 อันดับแรก มีสัดส่วนรวมกันประมาณ ร้อยละ 90.2
ของมูลค่าการส่งออกรวมและใน 10 อันดับนี้มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด และ ตลาดที่มีอัตราการขยายตัว
เพิ่มขึ้นในอัตราสูง คือ สิงคโปร์ โดยมีอัตราการขยายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 407.0 รองลงมา คือสหราชอาณาจักร
เพิ่มขึ้นร้อยละ 92.1 ปรากฎในสถิติการส่งออก ดังนี้
สถิติการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปตลาดสำคัญ
ประเทศ มูลค่า : ล้านบาท อัตราการขยายตัว (ร้อยละ) สัดส่วน (ร้อยละ)
2537 2538 2539 2540 2541 2538 2539 2540 2541 2538 2539 2540 2541
ม.ค.-มี.ค. ม.ค.-มี.ค. ม.ค.-.มี.ค.
1. สหรัฐอเมริกา 12,041.3 11,511.5 11,755.7 4,564.8 3,141.3 -4.4 2.1 15.5 71.4 21.9 21.7 24.4 26.9
2. ฮ่องกง 6,304.4 7,864.0 10,023.9 1,967.9 1,684.0 24.7 27.5 -11.8 11.4 15.0 18.5 15.9 11.6
3. ญี่ปุ่น 8,467.8 8,992.5 8,271.1 1,773.7 1,164.6 6.2 -8.0 -26.8 9.4 17.1 15.2 10.9 10.4
4. อิสราเอล 1,980.9 2,758.4 3,725.5 1,572.2 1,086.0 39.3 35.1 32.1 57.0 5.3 6.9 8.8 9.3
5. เบลเยี่ยม 6,407.2 7,165.9 6,239.1 1,535.8 1,080.1 11.8 -12.9 0.3 -4.8 13.6 11.5 11.3 9.0
6. เยอรมนี 2,550.4 2,620.6 2,718.1 983.6 645.1 2.8 3.7 9.8 53.4 5.0 5.0 5.4 5.8
7. สิงคโปร์ 1,227.5 2,045.3 1,443.4 904.9 873.9 66.6 -29.4 -59.0 407.0 3.9 2.7 1.1 5.3
8. สวิตเซอร์แลนด์ 1,539.2 1,891.4 2,039.1 835.3 589.0 22.9 7.8 29.2 61.7 3.6 3.8 4.7 4.9
9. ฝรั่งเศส 1,416.2 1,727.8 1,812.4 695.1 453.3 22.0 4.9 8.2 58.7 3.3 3.3 3.5 4.1
10. สหราชอาณาจักร 929.2 1,038.3 1,194.8 496.9 343.1 11.7 15.1 36.6 92.1 2.0 2.2 2.9 2.9
รวม 10 ประเทศ 42,864.2 47,615.5 49,223.4 15,330.3 11,060.4 11.1 3.4 .5 43.3 90.7 90.7 88.9 90.2
อื่น ๆ 4,224.6 4,883.0 5,049.5 1,664.2 996.3 15.6 3.4 22.3 29.7 9.3 9.3 11.1 9.8
มูลค่ารวม 47,088.7 52,498.6 54,272.9 16,994.5 12,056.7 11.5 3.4 2.5 41.8 100.0 100.0 100.0 100.0
ที่มา : ศูนย์สถิติการพาณิชย์ โดยความร่วมมือของกรมศุลกากร
หมายเหตุ : ปี 2541 เป็นตัวเลขเบื้องต้น
การแข่งขัน
การส่งออกสินค้าในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับปัจจุบันประสบภาวะการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงมากขึ้น
เนื่องจากต้องแข่งขันกับประเทศผู้ผลิตส่งออกสองกลุ่ม โดยกลุ่มแรกประกอบด้วยประเทศซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี
และแฟชั่น แต่ไม่มีแหล่งวัตถุดิบของตนเองเช่น อิตาลี ฝรั่งเศสและฮ่องกง เป็นต้น นอกจากนี้ปัจจุบันประเทศจีนกำลัง
พัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องประดับของตนเองให้ แข็งแกร่งมากขึ้นจึงเป็นคู่แข่งขันที่มีกำลังแรงมากขึ้นอีกประเทศหนึ่ง
(ยังมีต่อ)