การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในปี 2540 คาดว่าจะกระเตื้องขึ้นจากปี 2539 โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 968,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เนื่องจากคาดว่าภาวะเศรษฐกิจและการค้าโลกจะฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับภาครัฐบาลได้ดำเนินการแก้ปัญหาและเร่งรัดการส่งออกอย่างจริงจัง นับตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2539 ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยเพิ่มขึ้น
สินค้าอุตสาหกรรมเป้าหมายในปี 2540 มีจำนวน 30 กลุ่มสินค้า รวม 126 รายการ เพิ่มจากปี 2539 จำนวน 12 รายการ ได้แก่ เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น ที่นอนหมอนฟูก ก๊อก วาวส์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ สารสกัดใช้ในการฟอกหนัง เภสัชภัณฑ์ และย้อมสี เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารชนิดทำด้วยแก้ว ทำด้วยโลหะมีค่า ทำด้วยอลูมิเนียม ทำด้วยทองแดง โดยคาดว่าสินค้าอุตสาหกรรมเกือบทุกรายการจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น ยกเว้นรถยนต์นั่งที่การส่งออกจะลดลง เป็นผลมาจากการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นและบริษัทแม่ได้ปรับเปลี่ยนโมเดลของรถที่ส่งออกเป็นรถปิกอัพแทนรถยนต์นั่ง ตลาดส่งออกที่มีลู่ทางดีในสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ สหภาพยุโรป จีนและฮ่องกง
ในปี 2539 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเป้าหมายอยู่ในภาวะซบเซา โดยคาดว่าจะมียอดส่งออกประมาณ 844,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2538 ร้อยละ 0.7 และต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 8 สาเหตุเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของประเทศคู่ค้า ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และเงินเยน และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบและแรงงาน ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลกลดลง สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า เครื่องวิดีโอ อุปกรณ์เครื่องเสียงและส่วนประกอบ เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ วงจรพิมพ์ โครงก่อสร้างทำด้วยเหล็ก รถยนต์นั่ง ผลิตภัณฑ์พลาสติก เม็ดพลาสติก ของเล่นจำลอง
ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมในปี 2539 ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เครื่องโทรพิมพ์และโทรสาร โครงก่อสร้างและส่วนประกอบทำด้วยอลูมิเนียม รถปิกอัพ ของเล่นที่มีล้อ เลนส์แว่นตา และกล้องถ่ายรูป เป็นต้น
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมประสบปัญหาและอุปสรรคหลายด้าน เช่น มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเนื่องจากค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตยังอยู่ในระดับต่ำและตลาดส่งออกมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นอย่างเช่น จีน ตลอดจนมาตรการการกีดกัน ทางการค้าต่าง ๆ เช่น ภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด การยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP)มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานสินค้า เป็นต้น
--ข่าวเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ / 8 มกราคม 2540--
สินค้าอุตสาหกรรมเป้าหมายในปี 2540 มีจำนวน 30 กลุ่มสินค้า รวม 126 รายการ เพิ่มจากปี 2539 จำนวน 12 รายการ ได้แก่ เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น ที่นอนหมอนฟูก ก๊อก วาวส์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ สารสกัดใช้ในการฟอกหนัง เภสัชภัณฑ์ และย้อมสี เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารชนิดทำด้วยแก้ว ทำด้วยโลหะมีค่า ทำด้วยอลูมิเนียม ทำด้วยทองแดง โดยคาดว่าสินค้าอุตสาหกรรมเกือบทุกรายการจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น ยกเว้นรถยนต์นั่งที่การส่งออกจะลดลง เป็นผลมาจากการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นและบริษัทแม่ได้ปรับเปลี่ยนโมเดลของรถที่ส่งออกเป็นรถปิกอัพแทนรถยนต์นั่ง ตลาดส่งออกที่มีลู่ทางดีในสินค้าอุตสาหกรรม ได้แก่ สหภาพยุโรป จีนและฮ่องกง
ในปี 2539 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเป้าหมายอยู่ในภาวะซบเซา โดยคาดว่าจะมียอดส่งออกประมาณ 844,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2538 ร้อยละ 0.7 และต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ร้อยละ 8 สาเหตุเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของประเทศคู่ค้า ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์และเงินเยน และต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบและแรงงาน ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลกลดลง สินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ สิ่งทอ รองเท้า เครื่องวิดีโอ อุปกรณ์เครื่องเสียงและส่วนประกอบ เครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ วงจรพิมพ์ โครงก่อสร้างทำด้วยเหล็ก รถยนต์นั่ง ผลิตภัณฑ์พลาสติก เม็ดพลาสติก ของเล่นจำลอง
ส่วนสินค้าอุตสาหกรรมในปี 2539 ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เครื่องโทรพิมพ์และโทรสาร โครงก่อสร้างและส่วนประกอบทำด้วยอลูมิเนียม รถปิกอัพ ของเล่นที่มีล้อ เลนส์แว่นตา และกล้องถ่ายรูป เป็นต้น
การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมประสบปัญหาและอุปสรรคหลายด้าน เช่น มีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเนื่องจากค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตยังอยู่ในระดับต่ำและตลาดส่งออกมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นอย่างเช่น จีน ตลอดจนมาตรการการกีดกัน ทางการค้าต่าง ๆ เช่น ภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด การยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP)มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมและมาตรฐานสินค้า เป็นต้น
--ข่าวเศรษฐกิจการพาณิชย์ กรมเศรษฐกิจการพาณิชย์ / 8 มกราคม 2540--