กรุงเทพ--11 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่นาย Knut Vollebaek รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์และคณะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 6-7 มกราคม 2543 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ได้เข้าพบและหารือข้อราชการกับดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2543 เวลา 17.30 น. สรุปผลการหารือดังนี้
1. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek เห็นพ้องร่วมกันว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-นอร์เวย์อยู่ในระดับที่ดีเลิศ (excellent) โดย ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ เห็นว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้ดำเนินมาอย่างช้านานในประวัติศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากการเสด็จฯ เยือนนอร์เวย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2450 (ค.ศ.1907) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสด็จฯ เยือน North Cape นาย Vollebaek แสดงความชื่นชมที่ประเทศไทยไม่เคยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมและเป็นประเทศที่มีเอกราชมาโดยตลอด
2. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุรถไฟชนกันแถบบริเวณเมือง Hermer (ใกล้กับกรุงออสโล) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายประมาณ 30 คน ซึ่งนาย Vollebaek ได้แจ้งว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดจึงทำให้มีเด็กและนักเรียนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
3. นาย Vollebaek แจ้งว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะให้เงินสนับสนุนเป็นจำนวนสามหมื่นเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี เป็นเวลา 3 ปี แก่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติของประเทศไทย (TMAC) เพื่อสนับสนุนการดำเนินการทำลายทุ่นระเบิดของไทย และกล่าวเน้นว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะเป็นหุ้นส่วนและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือด้านนี้กับไทย ซึ่ง ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความชื่นชมต่อการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว
อนึ่ง ในการเข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2543 นาย Vollebaek ยังแจ้งให้ทราบว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการ Level 1 Survey ของ ศูนย์ TMAC เป็นจำนวนสี่แสนเหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย
4. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้สรุปการแก้ไขวิกฤตการณ์วิการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยว่า รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่ไม่ก่อเกิดรายได้ (NPLs) ขณะเดียวกัน อัตราการส่งออกของไทยมีการขยายตัวที่เพิ่มมากขึ้น (ประมาณร้อยละ 5) และขอให้ฝ่ายนอร์เวย์พิจารณานำเข้าสินค้าส่งออกของไทยให้เพิ่มมากขึ้น นาย Vollebaek เห็นว่า แม้ว่านอร์เวย์จะได้เปรียบดุลการค้าต่อไทย แต่นอร์เวย์ก็นำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
5. นาย Vollebaek ได้มอบหนังสือเพื่อสนับสนุนการขอพระราชทานอภัยโทษของนาย Kjell Arne Eide นักโทษสัญชาตินอร์เวย์ ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม (นาย Eide อายุ 31 ปี ถูกทางการไทยจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2540 และถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 33 ปี 4 เดือน ในคดีความผิดต่อพรบ.ยาเสพติดให้โทษฯ)
6. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวเน้นถึงการให้ความสำคัญของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม UNCTAD ครั้งที่ 10 ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 12-19 กุมภาพันธ์ 2543 และในระหว่างการประชุมฯ ไทยจะจัดให้มีการจัดประชุม UN-ASEAN Summit ขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ศกนี้ด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีโอกาสการพบปะและหารือระหว่างกัน ซึ่งนาย Vollebaek ได้ให้ความสนใจในความคิดริเริ่มเรื่องดังกล่าว
7. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ แสดงความชื่นชมที่นอร์เวย์ได้ให้ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับการสมัครตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ของ ฯพณฯ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนอร์เวย์นับเป็นประเทศในกลุ่มแรกที่ได้ประกาศให้ความสนับสนุนแก่ไทย
8. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ แสดงความชื่นชมต่อการให้ความสนับสนุนทางการเงินของนอร์เวย์จำนวน 1 ล้านบาท แก่โครงการน้ำใจสู่ติมอร์ของไทยเพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ติมอร์ตะวันออก โดยนาย Leiv Lunde รัฐมนตรีช่วยด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนนอร์เวย์ ในระหว่างการเยือนไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2542 ซึ่งนาย Vollebaek ได้แสดงความชื่นชมต่อบทบาทที่เป็นผู้นำของไทยในการแก้ไขปัญหาติมอร์ตะวันออก โดยเฉพาะการส่งกองกำลังทหารไทยเข้าร่วมในกองกำลัง INTERFET
9. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek เห็นพ้องว่า ทั้งสองประเทศสามารถที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างกันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการจัดสัมมนา"The 3rd China-Canada-Norway Symposium on Human Rights ที่ไทยกำหนดจะเป็นเจ้าภาพในช่วงกลางปี 2543 ซึ่งนาย Vollebaek แจ้งว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่การจัดประชุมฯ ดังกล่าวด้วย
10. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek หวังว่า คงจะได้มีโอกาสพบปะและหารือระหว่างกันอีกในการประชุม Human Security ที่เมือง Luzern สวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2543
11. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) อาทิ พม่า อินโดนีเซียและกัมพูชา รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรในภูมิภาค SEA และยุโรป โดยเฉพาะองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) และอาเซียน (ASEAN)
12. นาย Vollebaek แสดงความชื่นชมที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดกำหนดการให้มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) โดยได้กล่าวสนุทรพจน์เรื่อง "The Role of Regional Organisation in the Work of the United Nations" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 6 มกราคม 2543 รวมทั้ง เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และพบปะผู้แทนหอการค้าไทย-นอร์เวย์และนักธุรกิจ เพื่อแสวงหาลู่ทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-นอร์เวย์ ในวันที่ 7 มกราคม 2543--จบ--
ตามที่นาย Knut Vollebaek รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์และคณะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 6-7 มกราคม 2543 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ได้เข้าพบและหารือข้อราชการกับดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2543 เวลา 17.30 น. สรุปผลการหารือดังนี้
1. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek เห็นพ้องร่วมกันว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทย-นอร์เวย์อยู่ในระดับที่ดีเลิศ (excellent) โดย ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ เห็นว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้ดำเนินมาอย่างช้านานในประวัติศาสตร์ ดังจะเห็นได้จากการเสด็จฯ เยือนนอร์เวย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2450 (ค.ศ.1907) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสด็จฯ เยือน North Cape นาย Vollebaek แสดงความชื่นชมที่ประเทศไทยไม่เคยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมและเป็นประเทศที่มีเอกราชมาโดยตลอด
2. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุบัติเหตุรถไฟชนกันแถบบริเวณเมือง Hermer (ใกล้กับกรุงออสโล) ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายประมาณ 30 คน ซึ่งนาย Vollebaek ได้แจ้งว่า อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดจึงทำให้มีเด็กและนักเรียนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
3. นาย Vollebaek แจ้งว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะให้เงินสนับสนุนเป็นจำนวนสามหมื่นเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี เป็นเวลา 3 ปี แก่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติของประเทศไทย (TMAC) เพื่อสนับสนุนการดำเนินการทำลายทุ่นระเบิดของไทย และกล่าวเน้นว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะเป็นหุ้นส่วนและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือด้านนี้กับไทย ซึ่ง ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้แสดงความชื่นชมต่อการให้ความช่วยเหลือดังกล่าว
อนึ่ง ในการเข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2543 นาย Vollebaek ยังแจ้งให้ทราบว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการ Level 1 Survey ของ ศูนย์ TMAC เป็นจำนวนสี่แสนเหรียญสหรัฐฯ อีกด้วย
4. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้สรุปการแก้ไขวิกฤตการณ์วิการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยว่า รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาหนี้เสียที่ไม่ก่อเกิดรายได้ (NPLs) ขณะเดียวกัน อัตราการส่งออกของไทยมีการขยายตัวที่เพิ่มมากขึ้น (ประมาณร้อยละ 5) และขอให้ฝ่ายนอร์เวย์พิจารณานำเข้าสินค้าส่งออกของไทยให้เพิ่มมากขึ้น นาย Vollebaek เห็นว่า แม้ว่านอร์เวย์จะได้เปรียบดุลการค้าต่อไทย แต่นอร์เวย์ก็นำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
5. นาย Vollebaek ได้มอบหนังสือเพื่อสนับสนุนการขอพระราชทานอภัยโทษของนาย Kjell Arne Eide นักโทษสัญชาตินอร์เวย์ ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม (นาย Eide อายุ 31 ปี ถูกทางการไทยจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2540 และถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 33 ปี 4 เดือน ในคดีความผิดต่อพรบ.ยาเสพติดให้โทษฯ)
6. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวเน้นถึงการให้ความสำคัญของไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม UNCTAD ครั้งที่ 10 ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 12-19 กุมภาพันธ์ 2543 และในระหว่างการประชุมฯ ไทยจะจัดให้มีการจัดประชุม UN-ASEAN Summit ขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ศกนี้ด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีโอกาสการพบปะและหารือระหว่างกัน ซึ่งนาย Vollebaek ได้ให้ความสนใจในความคิดริเริ่มเรื่องดังกล่าว
7. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ แสดงความชื่นชมที่นอร์เวย์ได้ให้ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับการสมัครตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ของ ฯพณฯ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนอร์เวย์นับเป็นประเทศในกลุ่มแรกที่ได้ประกาศให้ความสนับสนุนแก่ไทย
8. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ แสดงความชื่นชมต่อการให้ความสนับสนุนทางการเงินของนอร์เวย์จำนวน 1 ล้านบาท แก่โครงการน้ำใจสู่ติมอร์ของไทยเพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ติมอร์ตะวันออก โดยนาย Leiv Lunde รัฐมนตรีช่วยด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศและสิทธิมนุษยชนนอร์เวย์ ในระหว่างการเยือนไทยเมื่อเดือนตุลาคม 2542 ซึ่งนาย Vollebaek ได้แสดงความชื่นชมต่อบทบาทที่เป็นผู้นำของไทยในการแก้ไขปัญหาติมอร์ตะวันออก โดยเฉพาะการส่งกองกำลังทหารไทยเข้าร่วมในกองกำลัง INTERFET
9. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek เห็นพ้องว่า ทั้งสองประเทศสามารถที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างกันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการจัดสัมมนา"The 3rd China-Canada-Norway Symposium on Human Rights ที่ไทยกำหนดจะเป็นเจ้าภาพในช่วงกลางปี 2543 ซึ่งนาย Vollebaek แจ้งว่า นอร์เวย์ยินดีที่จะให้ความสนับสนุนทางการเงินแก่การจัดประชุมฯ ดังกล่าวด้วย
10. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek หวังว่า คงจะได้มีโอกาสพบปะและหารือระหว่างกันอีกในการประชุม Human Security ที่เมือง Luzern สวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2543
11. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และนาย Vollebaek ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) อาทิ พม่า อินโดนีเซียและกัมพูชา รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรในภูมิภาค SEA และยุโรป โดยเฉพาะองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) และอาเซียน (ASEAN)
12. นาย Vollebaek แสดงความชื่นชมที่กระทรวงการต่างประเทศได้จัดกำหนดการให้มีโอกาสไปเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) โดยได้กล่าวสนุทรพจน์เรื่อง "The Role of Regional Organisation in the Work of the United Nations" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 6 มกราคม 2543 รวมทั้ง เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี และพบปะผู้แทนหอการค้าไทย-นอร์เวย์และนักธุรกิจ เพื่อแสวงหาลู่ทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-นอร์เวย์ ในวันที่ 7 มกราคม 2543--จบ--