ปริมาณธุรกรรมในตลาดซื้อคืนและภาวะอัตราดอกเบี้ยประจำเดือนสิงหาคม 2544

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานธุรกรรมในตลาดซื้อคืนในช่วงเดือนสิงหาคม 2544 มีปริมาณเพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2544 ปริมาณธุรกรรมในตลาดซื้อคืนเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามียอดเฉลี่ยประมาณวันละ 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่มียอดเฉลี่ยประมาณวันละ 4.6 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากความต้องการกู้ยืมและลงทุนเพิ่มขึ้นโดยตั้งแต่กลางเดือนสถาบันการเงินส่วนใหญ่เริ่มสำรองสภาพคล่องไว้เพื่อการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลงวดครึ่งปีซึ่งจะจ่ายในช่วงปลายเดือน และภาครัฐดูดซับสภาพคล่องบางส่วนจากการออกจำหน่ายตราสารหนี้ในเดือนนี้มากกว่าที่ครบกำหนดรวมทั้งการออกจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์แก่ประชาชน
ในช่วงต้นเดือนตลาดซื้อคืนมีสภาพคล่องมากต่อเนื่องจากเดือนก่อน อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นประเภท 1 และ 7 วัน เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 2.0625 - 2.375 และ 2.125 - 2.375 ต่อปีตามลำดับ ส่วนในช่วงกลางเดือนถึงสิ้นเดือนอัตราดอกเบี้ยขยับสูงขึ้นบ้างในบางวันโดยอัตราดอกเบี้ยระยะ 1 และ 7 วัน เคลื่อนไหวสูงขึ้นอยู่ระหว่างร้อยละ 2.3125-2.375 และ 2.5 ต่อปีตามลำดับ สถาบันการเงินที่สะสมสภาพคล่องไว้ล่วงหน้าเพื่อรอการจ่ายภาษีได้เข้ามาลงทุนสั้น ๆ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะ 1 วันและ 7 วันปิดต่ำลงที่ร้อยละ 2.125 และ 2.25 ต่อปี เทียบกับอัตราปิดที่ร้อยละ 2.25 และ 2.375 ต่อปี ตามลำดับ เมื่อสิ้นเดือนก่อน สำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะ 14 วัน 1 เดือน 2 เดือนและ 3 เดือน ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนโดยปิดที่ร้อยละ 2.5 2.5625 2.625 และ 2.75 ตามลำดับ
อนึ่ง ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2544 ที่ผ่านมา คณะกรรมการได้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืน 14 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยส่งสัญญานนโยบายการเงินไว้ที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี เพื่อเกื้อหนุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่อไป
--ธนาคารแห่งประเทศไทย/10 กันยายน 2544--
-ยก-