กรุงเทพ--9 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีนางอโนชา ปานจ้อย หญิงไทยซึ่งคาดว่าถูกลักพาตัวไปเมื่อ 27 ปีที่แล้วและคาดว่าขณะนี้อยู่ที่เกาหลีเหนือ หลังจากที่ได้พบปะและพูดคุยกับ นายสุรชัย จงรักษ์ นายอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ นายสุคำปานจ้อย พี่ชายของนางอโนชาฯ และนายบรรจง ปานจ้อย หลานชาย ซึ่งได้เดินทางมาเข้าพบ เพื่อชี้แจงข้อมูลและมอบหลักฐานเบื้องต้น
ดร. กันตธีร์ ฯ แจ้งว่าได้ทราบข่าวการหายตัวไปของนางอโนชาฯ ด้วยความตกใจและเป็นห่วง และได้สั่งการให้กระทรวงฯ พยายามอย่างเต็มที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือค้นหาตัว และในวันนี้ ได้เชิญนายอำเภอในท้องที่ที่นางอโนชาฯมีทะเบียนบ้านอยู่และพี่ชายของนางอโนชาฯมาให้ข้อมูลแก่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2548
นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ได้เดินทางไปเชียงใหม่เพื่อพบญาติของนางอโนชาฯ พร้อมกับเชิญบุคคลดังกล่าว มาพบปะกับตน และจากการพบปะพูดคุย ได้รับทราบข้อมูล สองประเด็นคือ
1. นายชาร์ลส์ เจนกินส์(Charles Robert Jenkins) นายทหารสหรัฐซึ่งหนีราชการไปอยู่ที่เกาหลีเหนือได้เปิดเผยกรณีดังกล่าวโดยเขียนเป็นหนังสือและมีภาพถ่ายขนาดเล็กของนางอโนชาฯ ประกอบด้วย โดยทางครอบครัว ได้ระบุยืนยันว่าเป็นภาพถ่ายของนางอโนชาฯ จริง
2. หน่วยราชการไทยระบุว่าปรากฏชื่อนางอโนชาฯ อยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านที่อำเภอสันกำแพง โดยหนึ่งปีก่อนการหายตัวไป นางอโนชาฯ ได้เปลี่ยนชื่อก่อนการเดินทางไปฮ่องกง และมาเก๊า และหายตัวไปหลังจากนั้น ทั้งนี้ ทางญาติไม่ได้แจ้งความต่อหน่วยงานไทยแต่อย่างใดในขณะนั้น และได้ทราบข่าวล่าสุดจากสื่อมวลชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลที่ได้ทราบจากญาติในวันนี้ ทั้งหมดตรงกับข้อมูลของนายเจนกินส์ฯ คือ
นางอโนชาฯได้เดินทางไปมาเก๊า และฮ่องกง และหายตัวไปในช่วงเวลาเดียวกับที่นายเจนกินส์ฯ ระบุไว้ในหนังสือสำหรับการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ดร.กันตธีร์ฯกล่าวว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างชัดเจนว่าบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่เนื่องจากขาดการติดต่อไปนานมาก ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ที่ญี่ปุ่น ติดต่อกับนายเจนกินส์ฯ และติดต่อกับทางการญี่ปุ่นเนื่องจากมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมนี้ กระทรวงฯ จะเชิญอุปทูตของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศไทยมาพบเพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 ทั้งนี้ ดร.กันตธีร์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยและเกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ในระดับดีมาก ดังนั้นจึงคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดี หากพบว่ามีข้อเท็จจริงและบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ ก็จะนำกลับมาตุภูมิให้เร็วที่สุด ต่อคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการถูกลักพาตัว ดร.กันตธีร์ฯ ชี้แจงว่ายังไม่ชัดเจนว่านางอโนชาฯถูกลักพาตัวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางการไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องและดูแลคนไทยโดยจะติดตามอย่างใกล้ชิด
ดร.กันตธีร์ฯ ได้ระบุด้วยว่าจากการติดต่อเบื้องต้นกับสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือในประเทศไทย ได้รับแจ้งว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศก็จะดำเนินการประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีเหนือพร้อมกับติดต่อผ่านรัฐบาลจีนซึ่งมีความใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือ และรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน และหากเรื่องยังไม่ยุติ ก็จะยกขึ้นขอความร่วมมือกับรัฐมนตรีของประเทศที่เกี่ยวข้องระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ที่ ปูซาน เกาหลีใต้ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีนางอโนชา ปานจ้อย หญิงไทยซึ่งคาดว่าถูกลักพาตัวไปเมื่อ 27 ปีที่แล้วและคาดว่าขณะนี้อยู่ที่เกาหลีเหนือ หลังจากที่ได้พบปะและพูดคุยกับ นายสุรชัย จงรักษ์ นายอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ นายสุคำปานจ้อย พี่ชายของนางอโนชาฯ และนายบรรจง ปานจ้อย หลานชาย ซึ่งได้เดินทางมาเข้าพบ เพื่อชี้แจงข้อมูลและมอบหลักฐานเบื้องต้น
ดร. กันตธีร์ ฯ แจ้งว่าได้ทราบข่าวการหายตัวไปของนางอโนชาฯ ด้วยความตกใจและเป็นห่วง และได้สั่งการให้กระทรวงฯ พยายามอย่างเต็มที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือค้นหาตัว และในวันนี้ ได้เชิญนายอำเภอในท้องที่ที่นางอโนชาฯมีทะเบียนบ้านอยู่และพี่ชายของนางอโนชาฯมาให้ข้อมูลแก่กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 6 พฤศจิกายน 2548
นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ ได้เดินทางไปเชียงใหม่เพื่อพบญาติของนางอโนชาฯ พร้อมกับเชิญบุคคลดังกล่าว มาพบปะกับตน และจากการพบปะพูดคุย ได้รับทราบข้อมูล สองประเด็นคือ
1. นายชาร์ลส์ เจนกินส์(Charles Robert Jenkins) นายทหารสหรัฐซึ่งหนีราชการไปอยู่ที่เกาหลีเหนือได้เปิดเผยกรณีดังกล่าวโดยเขียนเป็นหนังสือและมีภาพถ่ายขนาดเล็กของนางอโนชาฯ ประกอบด้วย โดยทางครอบครัว ได้ระบุยืนยันว่าเป็นภาพถ่ายของนางอโนชาฯ จริง
2. หน่วยราชการไทยระบุว่าปรากฏชื่อนางอโนชาฯ อยู่ในสำเนาทะเบียนบ้านที่อำเภอสันกำแพง โดยหนึ่งปีก่อนการหายตัวไป นางอโนชาฯ ได้เปลี่ยนชื่อก่อนการเดินทางไปฮ่องกง และมาเก๊า และหายตัวไปหลังจากนั้น ทั้งนี้ ทางญาติไม่ได้แจ้งความต่อหน่วยงานไทยแต่อย่างใดในขณะนั้น และได้ทราบข่าวล่าสุดจากสื่อมวลชนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ข้อมูลที่ได้ทราบจากญาติในวันนี้ ทั้งหมดตรงกับข้อมูลของนายเจนกินส์ฯ คือ
นางอโนชาฯได้เดินทางไปมาเก๊า และฮ่องกง และหายตัวไปในช่วงเวลาเดียวกับที่นายเจนกินส์ฯ ระบุไว้ในหนังสือสำหรับการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ดร.กันตธีร์ฯกล่าวว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างชัดเจนว่าบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่เนื่องจากขาดการติดต่อไปนานมาก ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ที่ญี่ปุ่น ติดต่อกับนายเจนกินส์ฯ และติดต่อกับทางการญี่ปุ่นเนื่องจากมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมนี้ กระทรวงฯ จะเชิญอุปทูตของสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศไทยมาพบเพื่อขอความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 ทั้งนี้ ดร.กันตธีร์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไทยและเกาหลีเหนือมีความสัมพันธ์ในระดับดีมาก ดังนั้นจึงคาดหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดี หากพบว่ามีข้อเท็จจริงและบุคคลดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ ก็จะนำกลับมาตุภูมิให้เร็วที่สุด ต่อคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับการถูกลักพาตัว ดร.กันตธีร์ฯ ชี้แจงว่ายังไม่ชัดเจนว่านางอโนชาฯถูกลักพาตัวหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางการไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องและดูแลคนไทยโดยจะติดตามอย่างใกล้ชิด
ดร.กันตธีร์ฯ ได้ระบุด้วยว่าจากการติดต่อเบื้องต้นกับสถานเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือในประเทศไทย ได้รับแจ้งว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริง อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศก็จะดำเนินการประสานขอความร่วมมือกับรัฐบาลเกาหลีเหนือพร้อมกับติดต่อผ่านรัฐบาลจีนซึ่งมีความใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือ และรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน และหากเรื่องยังไม่ยุติ ก็จะยกขึ้นขอความร่วมมือกับรัฐมนตรีของประเทศที่เกี่ยวข้องระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ที่ ปูซาน เกาหลีใต้ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-