กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (24 ตุลาคม 2544) นายรัฐกิจ มานะทัต อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีซึ่งได้อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ 3 แห่ง ดังนี้
1. ให้เช่าที่ทำการคณะทูตถาวรฯ ณ นครเจนีวา แห่งเดิม
2. ให้ขายทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน หลังเดิม
3. ให้ขายสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย ทั้งนี้ภูมิหลังของอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งมีดังนี้
1. ที่ทำการคณะทูตถาวรฯ ณ นครเจนีวา แห่งเดิม
ที่ทำการคณะทูตถาวรฯ ณ นครเจนีวา แห่งเดิม เป็นอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ 300 ตารางเมตร อยู่บนชั้น 2 ของอาคาร 5 ชั้น โดยที่คณะทูตถาวรฯ ได้ย้ายเข้าไปใช้อาคารที่ทำการแห่งใหม่แล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2542 ที่ทำการแห่งเดิมจึงไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกต่อไป แต่ยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลประมาณปีละ 25,000 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 675,000 บาท) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าซ่อมแซมพื้นที่ส่วนกลาง
โดยที่คณะทูตถาวรฯ ปารากวัย ได้เสนอขอเช่าที่ทำการดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นควรให้เช่าที่ทำการเป็นเวลา 3 ปี ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 5,500 ฟรังก์สวิสหรือประมาณ 148,500 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวเป็นราคาตามสภาพของที่ทำการซึ่งทรุดโทรมมากและไม่เคยมีการซ่อมแซมใหญ่มากว่า 20 ปี (อพาร์ทเมนต์ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกัน จะให้เช่าในราคาประมาณ 6,000 — 7,000 ฟรังก์สวิสต่อเดือน)
สาเหตุที่กระทรวงการต่างประเทศยังไม่เสนอขายที่ทำการดังกล่าวเนื่องจาก ที่ทำการยังมีสภาพเป็น Societe กล่าวคือ มีลักษณะคล้ายเป็นบริษัท โดยเจ้าของอพาร์ทเมนต์ ได้ซื้อหุ้นในบริษัทเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในการใช้อพาร์ทเมนต์ การที่อพาร์ทเมนต์มีลักษณะเป็น Societe ทำให้เป็นการยากที่จะขายในขณะนี้ หรือหากขายได้ก็จะได้ราคาต่ำจนกว่าหลังจากที่หมดสภาพ Soci?t? แล้ว ซึ่งจะหมดสภาพ Societe ในเดือนธันวาคม 2546
2. ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน หลังเดิม
ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน หลังเดิม ซึ่งมีอายุ 78 ปี จัดซื้อโดย รัฐบาลไทยในปี พ.ศ. 2507 ในราคา 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีการจัดซื้อทำเนียบหลังใหม่ในปี 2537 ทำเนียบเดิมได้ใช้เป็นบ้านพักของบุคคลที่ 2 มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม โดยที่อาคารมีขนาดใหญ่ (พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,100 ตารางเมตร) กอปรกับมีค่าใช้จ่ายในการดูแลอาคารประมาณปีละ 1 ล้านบาท ซึ่งได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกันอาคาร ค่ากำจัดแมลง กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นควรเสนอขายอาคารโดยกำหนดราคาขายขั้นต่ำที่ 1.575 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Department of Deeds ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกรมที่ดิน ได้ประเมินราคาทำเนียบฯ ไว้ที่ 1.531 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทนายหน้าอีก 2 บริษัทก็ได้ประเมินราคาใกล้เคียงกัน
3. ที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส
เมื่อปี 2507 รัฐบาลไทยได้ซื้อสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส ในราคาประมาณ 1.6 ล้านบาท โดยสัญญาเช่าจะสิ้นสุดในปี 2592 ปัจจุบัน รัฐบาลไทยจ่ายค่าเช่าที่ดินและอาคารประมาณปีละ 2 หมื่นบาท และหลังจากกระทรวงการต่างประเทศได้ปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส เป็นการชั่วคราวเมื่อปี 2539 ได้มีการจ้างบริษัทเอกชนดูแลที่ดินและอาคารในอัตราค่าจ้างประมาณปีละ 4.4 ล้านบาท เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลที่ดินและอาคาร กระทรวงการต่างประเทศเห็นควรขายสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุง ลากอส ในราคา 90 ล้านไนราหรือประมาณ 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาขายดังกล่าวได้จากบริษัทนายหน้าซึ่งแจ้งว่ามีผู้สนใจซื้อที่ดินและอาคารหลายราย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : [email protected] จบ--
-อน-
วันนี้ (24 ตุลาคม 2544) นายรัฐกิจ มานะทัต อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีซึ่งได้อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศขายและให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ 3 แห่ง ดังนี้
1. ให้เช่าที่ทำการคณะทูตถาวรฯ ณ นครเจนีวา แห่งเดิม
2. ให้ขายทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน หลังเดิม
3. ให้ขายสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส ประเทศไนจีเรีย ทั้งนี้ภูมิหลังของอสังหาริมทรัพย์แต่ละแห่งมีดังนี้
1. ที่ทำการคณะทูตถาวรฯ ณ นครเจนีวา แห่งเดิม
ที่ทำการคณะทูตถาวรฯ ณ นครเจนีวา แห่งเดิม เป็นอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ 300 ตารางเมตร อยู่บนชั้น 2 ของอาคาร 5 ชั้น โดยที่คณะทูตถาวรฯ ได้ย้ายเข้าไปใช้อาคารที่ทำการแห่งใหม่แล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2542 ที่ทำการแห่งเดิมจึงไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกต่อไป แต่ยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลประมาณปีละ 25,000 ฟรังก์สวิส (ประมาณ 675,000 บาท) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าซ่อมแซมพื้นที่ส่วนกลาง
โดยที่คณะทูตถาวรฯ ปารากวัย ได้เสนอขอเช่าที่ทำการดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นควรให้เช่าที่ทำการเป็นเวลา 3 ปี ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 5,500 ฟรังก์สวิสหรือประมาณ 148,500 บาท ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวเป็นราคาตามสภาพของที่ทำการซึ่งทรุดโทรมมากและไม่เคยมีการซ่อมแซมใหญ่มากว่า 20 ปี (อพาร์ทเมนต์ซึ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงกัน จะให้เช่าในราคาประมาณ 6,000 — 7,000 ฟรังก์สวิสต่อเดือน)
สาเหตุที่กระทรวงการต่างประเทศยังไม่เสนอขายที่ทำการดังกล่าวเนื่องจาก ที่ทำการยังมีสภาพเป็น Societe กล่าวคือ มีลักษณะคล้ายเป็นบริษัท โดยเจ้าของอพาร์ทเมนต์ ได้ซื้อหุ้นในบริษัทเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิในการใช้อพาร์ทเมนต์ การที่อพาร์ทเมนต์มีลักษณะเป็น Societe ทำให้เป็นการยากที่จะขายในขณะนี้ หรือหากขายได้ก็จะได้ราคาต่ำจนกว่าหลังจากที่หมดสภาพ Soci?t? แล้ว ซึ่งจะหมดสภาพ Societe ในเดือนธันวาคม 2546
2. ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน หลังเดิม
ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน หลังเดิม ซึ่งมีอายุ 78 ปี จัดซื้อโดย รัฐบาลไทยในปี พ.ศ. 2507 ในราคา 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีการจัดซื้อทำเนียบหลังใหม่ในปี 2537 ทำเนียบเดิมได้ใช้เป็นบ้านพักของบุคคลที่ 2 มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม โดยที่อาคารมีขนาดใหญ่ (พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,100 ตารางเมตร) กอปรกับมีค่าใช้จ่ายในการดูแลอาคารประมาณปีละ 1 ล้านบาท ซึ่งได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค ค่าประกันอาคาร ค่ากำจัดแมลง กระทรวงการต่างประเทศจึงเห็นควรเสนอขายอาคารโดยกำหนดราคาขายขั้นต่ำที่ 1.575 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ Department of Deeds ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกรมที่ดิน ได้ประเมินราคาทำเนียบฯ ไว้ที่ 1.531 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัทนายหน้าอีก 2 บริษัทก็ได้ประเมินราคาใกล้เคียงกัน
3. ที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส
เมื่อปี 2507 รัฐบาลไทยได้ซื้อสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส ในราคาประมาณ 1.6 ล้านบาท โดยสัญญาเช่าจะสิ้นสุดในปี 2592 ปัจจุบัน รัฐบาลไทยจ่ายค่าเช่าที่ดินและอาคารประมาณปีละ 2 หมื่นบาท และหลังจากกระทรวงการต่างประเทศได้ปิดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลากอส เป็นการชั่วคราวเมื่อปี 2539 ได้มีการจ้างบริษัทเอกชนดูแลที่ดินและอาคารในอัตราค่าจ้างประมาณปีละ 4.4 ล้านบาท เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการดูแลที่ดินและอาคาร กระทรวงการต่างประเทศเห็นควรขายสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารที่ทำการและทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุง ลากอส ในราคา 90 ล้านไนราหรือประมาณ 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาขายดังกล่าวได้จากบริษัทนายหน้าซึ่งแจ้งว่ามีผู้สนใจซื้อที่ดินและอาคารหลายราย
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7E-mail : [email protected] จบ--
-อน-