ข่าวในประเทศ
1. เอ็นพีแอลของระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือน ส.ค.44 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสถาบันการเงินทั้งระบบ ณ สิ้นเดือน ส.ค.44 มีจำนวน 614,765 ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 12.48 ของสินเชื่อรวม ลดลงจากเดือน ก.ค.44 ที่มีจำนวน 620,901 ล.บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.63 ของสินเชื่อรวม โดยแบ่งเป็นเอ็นพีแอลของ ธพ.เอกชนจำนวน 475,380 ล.บาท เอ็นพีแอลของธนาคารรัฐจำนวน 91,615 ล.บาท สาขาธนาคารต่างประเทศ 20,780 ล.บาท บริษัทเงินทุน 22,484 ล.บาท สำนักงานวิเทศธนกิจ 3,599 ล.บาท และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 907 ล.บาท ในส่วนของเอ็นพีแอลรายใหม่ของสถาบันการเงินทั้งระบบมีจำนวน 10,286 ล.บาท ลดลงจากเดือน ก.ค.ที่มีจำนวน 15,987 ล.บาท ส่วนเอ็นพีแอลที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกลับเป็นเอ็นพีแอลอีกมีจำนวน 19,536 ล.บาท ลดลงจากเดือน ก.ค.ที่มีจำนวน 23,660 ล.บาท ทั้งนี้ ยอดเอ็นพีแอลที่ลดลง เนื่องจากสถาบันการเงินมีการเร่งติดตามหนี้ ประกอบกับหนี้บางส่วนมีการโอนไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(โลกวันนี้ 11)
2. กรมสรรพากรเปิดเผยผลการจัดเก็บภาษีในปี งปม.44 อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยผลการจัดเก็บภาษีในปี งปม.44 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 499,867.78 ล.บาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 9,657.78 ล.บาท และสูงกว่าการจัดเก็บในปีก่อนจำนวน 38,543.11 ล.บาท เป็นผลจากการติดตามภาษีรายเดิมที่เคยเสียไว้ไม่ถูกต้อง ตลอดจนมีการขยายฐานภาษี โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากฐานผู้เสียภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 44,000 ราย ส่งผลให้รายได้สูงกว่าปี งปม.ก่อนกว่าร้อยละ 17 ในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีแรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 6 แสนคน ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 และการใช้จ่ายที่มากขึ้น ส่งผลให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 11 สำหรับประมาณการการจัดเก็บภาษีปี งปม.45 กำหนดไว้จำนวน 515,000 ล.บาท สูงกว่าปี งปม.44 ประมาณร้อยละ 3.03 (โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ 11)
3. ก.อุตสาหกรรมประเมินภาวะการส่งออกของไทยและผลกระทบภายหลังการเกิดวิกฤติการณ์ สรอ. รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการสัมมนาเรื่อง "รวมพลังฝ่าวิกฤติเพื่อธุรกิจอุตสาหกรรมไทย" ว่า ผลกระทบที่ไทยได้รับในช่วงก่อนเกิดวิกฤติคือ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 44 การส่งออกไปยัง สรอ. ลดลงร้อยละ 6 เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่พึ่งพิงตลาด สรอ. ถึงร้อยละ 21 และคาดว่าการส่งออกของไทยไปทุกตลาดทั่วโลกอาจลดลงถึงร้อยละ 4.7-7.2 ในปี 44 ส่วนการท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะมีมูลค่าสูงขึ้นจากนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่น หากกระตุ้นการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อคนให้มากขึ้นจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวไม่กระทบมากนัก ด้านราคาน้ำมันที่มีความอ่อนไหว หากผู้ผลิตดูแลเสถียรภาพของราคาได้ก็จะทำให้ราคาไม่แกว่งตัวรุนแรง สำหรับเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 44 ลดลงร้อยละ 29 เป็นเหตุให้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ในภาวะซบเซาแม้ไม่มีเหตุการณ์วิกฤติใน สรอ. แต่หลังเกิดเหตุแล้วอาจทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก.อุตสาหกรรมได้เตรียมมาตรการรองรับด้วยการหาตลาดสินค้าใหม่ สร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับจีน และเร่งสร้างความร่วมมือทางอุตสาหกรรมให้จริงจังมากขึ้น (ไทยรัฐ 11)
ข่าวต่างประเทศ
1. สินค้าคงคลังในระดับขายส่งลดลงในเดือน ส.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 10 ต.ค. 44 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า สินค้าคงคลังของผู้ขายส่ง ในเดือน ส.ค. 44 มีมูลค่า 298.68 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.1 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน ก.ค. 44 ขณะเดียวกัน ยอดขายสินค้าคงคลัง มีมูลค่า 229.31 พัน ล. ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ในเดือน ก.ค. 44 สำหรับอัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายฯในเดือน ส.ค. 44 ลดลงเหลือ 1.3 เดือน จาก 1.31 เดือนในเดือน ก.ค. 44 ทั้งนี้ การที่สินค้าคงคลังฯ ในเดือนดังกล่าวลดลง เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทต่างๆได้พยายามลดสินค้าคงคลังส่วนเกินให้มีปริมาณสอดคล้องกับความต้องการที่ลดลงนับตั้งแต่เศรษฐกิจได้เริ่มชะลอตัวในช่วงกลางปี 40 (รอยเตอร์10)
2. เศรษฐกิจสิงคโปร์ปี 44 จะติดลบประมาณร้อยละ 3.0 รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 10 ต.ค.44 ก.การค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์คาดว่า ปี 44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) จะหดตัวร้อยละ 3 เทียบต่อปี ต่ำที่สุดในระยะเวลามากกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ปี 07 ที่จีดีพีหดตัวร้อยละ 4.3 สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 44 ประมาณการว่า จีพีดีจะหดตัวร้อยละ 5.6 เทียบต่อปี และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4 ปี 28 ที่จีดีพีหดตัวร้อยละ 5.2 การคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีปี 44 ที่หดตัวร้อยละ 3 นั้น เป็นการปรับลดจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.5-1.5 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจปี 44 ติดลบนั้น เนื่องจากอุปสงค์ทางด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกและเศรษฐกิจของ สรอ.ชะลอตัวลง โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของจีดีพี ร้อยละ 50 ของภาคอุตสาหกรรมการผลิต และมีมูลค่าส่งออกมากกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่มิใช่น้ำมันของสิงคโปร์ (รอยเตอร์ 10)
3. เยอรมนีเกินดุลการค้าจำนวน 16.1 พัน ล.มาร์กในเดือน ส.ค.2544 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อ 9 ต.ค.44 สำนักงานสถิติกลางรายงานว่า เดือน ส.ค.44 ยอดเกินดุลการค้าซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นมีจำนวน 16.1 พัน ล.มาร์ก เทียบกับเดือน ก.ค.44 ที่มีจำนวน17.1 พัน ล.มาร์ก และเทียบกับเดือน ส.ค.43 ที่มีจำนวน 5.5 พัน ล.มาร์ก ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของดุลการค้ามีสาเหตุสำคัญ คือ การเพิ่มขึ้นของการส่งออก โดยในเดือน ส.ค.44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 101.3 พัน ล.มาร์ก ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค.44 เกินดุลจำนวน 6.5 พัน ล.มาร์ก เทียบกับเดือน ก.ค.44 ที่ขาดดุลจำนวน 5.7 พัน ล.มาร์ก และเทียบกับเดือน ส.ค.43 ที่ขาดดุลจำนวน 11.2 พัน ล.มาร์ก สำหรับช่วง 8 เดือนแรกปี 44 (ม.ค.-ส.ค.) ยอดเกินดุลการค้ามีจำนวน 110.5 พัน ล.มาร์ก เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 80.6 พัน ล.มาร์ก ขณะที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวน 5.7 พัน ล.มาร์ก เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดดุลจำนวน 19.5 พัน ล.มาร์ก ส่วนการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกปี 44 (ม.ค.-ส.ค.) มีจำนวน 835.9 พัน ล.มาร์ก เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 751.9 พัน ล.มาร์ก ขณะที่การนำเข้ามีจำนวน 725.4 พัน ล.มาร์ก เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 671.3 พัน ล.มาร์ก (รอยเตอร์ 10)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 10 ต.ค.44 44.735 (44.800)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 10 ต.ค. 44ซื้อ 44.5531 (44.6159) ขาย 44.8515 (44.9088)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 6,050 (6,100) 6,150 (6,200)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 20.69 (20.15)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.49 (14.79) ดีเซลหมุนเร็ว 13.19 (13.19)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-
1. เอ็นพีแอลของระบบสถาบันการเงิน ณ สิ้นเดือน ส.ค.44 รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสถาบันการเงินทั้งระบบ ณ สิ้นเดือน ส.ค.44 มีจำนวน 614,765 ล.บาท คิดเป็นร้อยละ 12.48 ของสินเชื่อรวม ลดลงจากเดือน ก.ค.44 ที่มีจำนวน 620,901 ล.บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.63 ของสินเชื่อรวม โดยแบ่งเป็นเอ็นพีแอลของ ธพ.เอกชนจำนวน 475,380 ล.บาท เอ็นพีแอลของธนาคารรัฐจำนวน 91,615 ล.บาท สาขาธนาคารต่างประเทศ 20,780 ล.บาท บริษัทเงินทุน 22,484 ล.บาท สำนักงานวิเทศธนกิจ 3,599 ล.บาท และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ 907 ล.บาท ในส่วนของเอ็นพีแอลรายใหม่ของสถาบันการเงินทั้งระบบมีจำนวน 10,286 ล.บาท ลดลงจากเดือน ก.ค.ที่มีจำนวน 15,987 ล.บาท ส่วนเอ็นพีแอลที่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกลับเป็นเอ็นพีแอลอีกมีจำนวน 19,536 ล.บาท ลดลงจากเดือน ก.ค.ที่มีจำนวน 23,660 ล.บาท ทั้งนี้ ยอดเอ็นพีแอลที่ลดลง เนื่องจากสถาบันการเงินมีการเร่งติดตามหนี้ ประกอบกับหนี้บางส่วนมีการโอนไปยังบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย(โลกวันนี้ 11)
2. กรมสรรพากรเปิดเผยผลการจัดเก็บภาษีในปี งปม.44 อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยผลการจัดเก็บภาษีในปี งปม.44 ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 499,867.78 ล.บาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 9,657.78 ล.บาท และสูงกว่าการจัดเก็บในปีก่อนจำนวน 38,543.11 ล.บาท เป็นผลจากการติดตามภาษีรายเดิมที่เคยเสียไว้ไม่ถูกต้อง ตลอดจนมีการขยายฐานภาษี โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากฐานผู้เสียภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 44,000 ราย ส่งผลให้รายได้สูงกว่าปี งปม.ก่อนกว่าร้อยละ 17 ในส่วนของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีแรงงานเพิ่มขึ้นประมาณ 6 แสนคน ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 และการใช้จ่ายที่มากขึ้น ส่งผลให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อนร้อยละ 11 สำหรับประมาณการการจัดเก็บภาษีปี งปม.45 กำหนดไว้จำนวน 515,000 ล.บาท สูงกว่าปี งปม.44 ประมาณร้อยละ 3.03 (โลกวันนี้, กรุงเทพธุรกิจ 11)
3. ก.อุตสาหกรรมประเมินภาวะการส่งออกของไทยและผลกระทบภายหลังการเกิดวิกฤติการณ์ สรอ. รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการสัมมนาเรื่อง "รวมพลังฝ่าวิกฤติเพื่อธุรกิจอุตสาหกรรมไทย" ว่า ผลกระทบที่ไทยได้รับในช่วงก่อนเกิดวิกฤติคือ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 44 การส่งออกไปยัง สรอ. ลดลงร้อยละ 6 เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่พึ่งพิงตลาด สรอ. ถึงร้อยละ 21 และคาดว่าการส่งออกของไทยไปทุกตลาดทั่วโลกอาจลดลงถึงร้อยละ 4.7-7.2 ในปี 44 ส่วนการท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะมีมูลค่าสูงขึ้นจากนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่น หากกระตุ้นการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อคนให้มากขึ้นจะทำให้รายได้การท่องเที่ยวไม่กระทบมากนัก ด้านราคาน้ำมันที่มีความอ่อนไหว หากผู้ผลิตดูแลเสถียรภาพของราคาได้ก็จะทำให้ราคาไม่แกว่งตัวรุนแรง สำหรับเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 44 ลดลงร้อยละ 29 เป็นเหตุให้ตลาดหลักทรัพย์อยู่ในภาวะซบเซาแม้ไม่มีเหตุการณ์วิกฤติใน สรอ. แต่หลังเกิดเหตุแล้วอาจทำให้เศรษฐกิจไทยถดถอยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก.อุตสาหกรรมได้เตรียมมาตรการรองรับด้วยการหาตลาดสินค้าใหม่ สร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับจีน และเร่งสร้างความร่วมมือทางอุตสาหกรรมให้จริงจังมากขึ้น (ไทยรัฐ 11)
ข่าวต่างประเทศ
1. สินค้าคงคลังในระดับขายส่งลดลงในเดือน ส.ค. 44 รายงานจากวอชิงตันเมื่อ 10 ต.ค. 44 ก. พาณิชย์ สรอ. เปิดเผยว่า สินค้าคงคลังของผู้ขายส่ง ในเดือน ส.ค. 44 มีมูลค่า 298.68 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 0.1 หลังจากที่ลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน ก.ค. 44 ขณะเดียวกัน ยอดขายสินค้าคงคลัง มีมูลค่า 229.31 พัน ล. ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 จากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ในเดือน ก.ค. 44 สำหรับอัตราส่วนสินค้าคงคลังต่อยอดขายฯในเดือน ส.ค. 44 ลดลงเหลือ 1.3 เดือน จาก 1.31 เดือนในเดือน ก.ค. 44 ทั้งนี้ การที่สินค้าคงคลังฯ ในเดือนดังกล่าวลดลง เนื่องจากในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทต่างๆได้พยายามลดสินค้าคงคลังส่วนเกินให้มีปริมาณสอดคล้องกับความต้องการที่ลดลงนับตั้งแต่เศรษฐกิจได้เริ่มชะลอตัวในช่วงกลางปี 40 (รอยเตอร์10)
2. เศรษฐกิจสิงคโปร์ปี 44 จะติดลบประมาณร้อยละ 3.0 รายงานจากสิงคโปร์เมื่อ 10 ต.ค.44 ก.การค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์คาดว่า ปี 44 ผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) จะหดตัวร้อยละ 3 เทียบต่อปี ต่ำที่สุดในระยะเวลามากกว่า 30 ปี นับตั้งแต่ปี 07 ที่จีดีพีหดตัวร้อยละ 4.3 สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 44 ประมาณการว่า จีพีดีจะหดตัวร้อยละ 5.6 เทียบต่อปี และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4 ปี 28 ที่จีดีพีหดตัวร้อยละ 5.2 การคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีปี 44 ที่หดตัวร้อยละ 3 นั้น เป็นการปรับลดจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 0.5-1.5 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจปี 44 ติดลบนั้น เนื่องจากอุปสงค์ทางด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกและเศรษฐกิจของ สรอ.ชะลอตัวลง โดยสินค้าอิเล็กทรอนิกส์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25 ของจีดีพี ร้อยละ 50 ของภาคอุตสาหกรรมการผลิต และมีมูลค่าส่งออกมากกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่มิใช่น้ำมันของสิงคโปร์ (รอยเตอร์ 10)
3. เยอรมนีเกินดุลการค้าจำนวน 16.1 พัน ล.มาร์กในเดือน ส.ค.2544 รายงานจากแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อ 9 ต.ค.44 สำนักงานสถิติกลางรายงานว่า เดือน ส.ค.44 ยอดเกินดุลการค้าซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นมีจำนวน 16.1 พัน ล.มาร์ก เทียบกับเดือน ก.ค.44 ที่มีจำนวน17.1 พัน ล.มาร์ก และเทียบกับเดือน ส.ค.43 ที่มีจำนวน 5.5 พัน ล.มาร์ก ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของดุลการค้ามีสาเหตุสำคัญ คือ การเพิ่มขึ้นของการส่งออก โดยในเดือน ส.ค.44 เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 101.3 พัน ล.มาร์ก ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ส.ค.44 เกินดุลจำนวน 6.5 พัน ล.มาร์ก เทียบกับเดือน ก.ค.44 ที่ขาดดุลจำนวน 5.7 พัน ล.มาร์ก และเทียบกับเดือน ส.ค.43 ที่ขาดดุลจำนวน 11.2 พัน ล.มาร์ก สำหรับช่วง 8 เดือนแรกปี 44 (ม.ค.-ส.ค.) ยอดเกินดุลการค้ามีจำนวน 110.5 พัน ล.มาร์ก เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 80.6 พัน ล.มาร์ก ขณะที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวน 5.7 พัน ล.มาร์ก เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดดุลจำนวน 19.5 พัน ล.มาร์ก ส่วนการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกปี 44 (ม.ค.-ส.ค.) มีจำนวน 835.9 พัน ล.มาร์ก เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 751.9 พัน ล.มาร์ก ขณะที่การนำเข้ามีจำนวน 725.4 พัน ล.มาร์ก เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 671.3 พัน ล.มาร์ก (รอยเตอร์ 10)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์ สรอ.ระหว่างธนาคาร ณ สิ้นวันทำการ 10 ต.ค.44 44.735 (44.800)
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยเงินบาท/ดอลลาร์สรอ.ที่ ธพ.ซื้อขายกับลูกค้า(ตั๋วเงิน) ณ สิ้นวันทำการ 10 ต.ค. 44ซื้อ 44.5531 (44.6159) ขาย 44.8515 (44.9088)
ทองคำแท่ง(บาทละ) ซื้อ 6,050 (6,100) 6,150 (6,200)
น้ำมันดิบ(ดอลลาร์ สรอ./บาร์เรล) โอมาน 20.69 (20.15)
น้ำมันเบนซินพิเศษ(เพอร์ฟอร์มาโกลด์) 14.49 (14.79) ดีเซลหมุนเร็ว 13.19 (13.19)
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บเป็นตัวเลขของวันก่อน
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
-ยก-