นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
1. เศรษฐกิจไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2548 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวได้ต่อไป ส่วนหนึ่งจากแนวโน้มการส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐ
2. ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนี้มีผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล มากขึ้น และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะ เพิ่มขึ้นในระยะต่อไปจากการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ การปรับขึ้นของราคาสินค้าและการปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ
3. คณะกรรมการฯ เห็นว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังจะดำเนินต่อไป แต่โอกาสที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเร่งตัวสูงกว่าเป้าหมายมีมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงควรอยู่ในทิศทางขาขึ้น เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานให้อยู่ภายในเกณฑ์ที่กำหนด อันจะเอื้อต่อการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจในระยะยาว
คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันจากร้อยละ 2.50 ต่อปี เป็นร้อยละ 2.75 ต่อปี
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. เศรษฐกิจไทยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2548 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและภัยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวได้ต่อไป ส่วนหนึ่งจากแนวโน้มการส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐ
2. ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นนี้มีผลกระทบต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ ทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล มากขึ้น และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะ เพิ่มขึ้นในระยะต่อไปจากการลอยตัวราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ การปรับขึ้นของราคาสินค้าและการปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำ
3. คณะกรรมการฯ เห็นว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังจะดำเนินต่อไป แต่โอกาสที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะเร่งตัวสูงกว่าเป้าหมายมีมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงควรอยู่ในทิศทางขาขึ้น เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานให้อยู่ภายในเกณฑ์ที่กำหนด อันจะเอื้อต่อการขยายตัวอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจในระยะยาว
คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันจากร้อยละ 2.50 ต่อปี เป็นร้อยละ 2.75 ต่อปี
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--