กรุงเทพ--7 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตาว่ากองทัพเรืออินโดนีเซียได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอินโดนีเซียแจ้งว่ากองทัพเรืออินโดนีเซียจะเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงอย่างผิดกฎหมายในน่านน้ำอินโดนีเซียทั้งนี้ กฎหมายประมงของอินโดนีเซียได้มีการกำหนดบทลงโทษไว้ค่อนข้างรุนแรงโดยมีทั้งโทษจำคุกและปรับ อาทิเช่น การทำการประมงโดยใช้สารเคมี หรือวัตถุระเบิดจะมีโทษจำคุกสูงถึง 6 ปี และปรับเป็นเงิน 1,200 ล้านรูเปียห์ หากผู้ทำประมงก่อให้เกิดมลพิษและหรือเป็นอันตรายต่อทรัพยากรปลาและสิ่งแวดล้อม จะถูกลงโทษจำคุกอย่างสูง 10 ปี และปรับอย่างสูงไม่เกิน 2,000 ล้านรูเปียห์ นอกจากนี้ หากใช้อุปกรณ์ในการจับปลาไม่เป็นไปตามขนาดที่ทางการกำหนด หรือใช้อุปกรณ์ต้องห้ามจะมีโทษจำคุกถึง 5 ปี และถูกปรับไม่เกิน 2,000 ล้านรูเปียห์
นอกจากนี้ ผู้ประกอบกิจการประมงซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าของใบอนุญาตทำประมงชักธงอินโดนีเซียบนเรือประมง และทำการจับปลาในเขตพื้นที่ทำการประมงของอินโดนีเซียและหรือทะเลเปิด จะถูกลงโทษจำคุกอย่างสูง 6 ปี และปรับอย่างสูงไม่เกิน 2,000 ล้านรูเปียห์ ทั้งนี้ รวมทั้งผู้ประกอบกิจการเรือประมงซึ่งชักธงต่างชาติแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของใบอนุญาตทำการประมง และทำการจับปลาในเขตพื้นที่ทำประมงของอินโดนีเซียและหรือทะเลเปิด จะถูกลงโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 6 ปี และปรับอย่างสูงไม่เกิน 20,000 ล้านรูเปียห์ เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานแจ้งเตือนชาวประมงไทยที่เข้าไปดำเนินการทำประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย ทราบเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว และรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายประมงของอินโดนีเซียผ่านกรมประมง และสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตาว่ากองทัพเรืออินโดนีเซียได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอินโดนีเซียแจ้งว่ากองทัพเรืออินโดนีเซียจะเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงอย่างผิดกฎหมายในน่านน้ำอินโดนีเซียทั้งนี้ กฎหมายประมงของอินโดนีเซียได้มีการกำหนดบทลงโทษไว้ค่อนข้างรุนแรงโดยมีทั้งโทษจำคุกและปรับ อาทิเช่น การทำการประมงโดยใช้สารเคมี หรือวัตถุระเบิดจะมีโทษจำคุกสูงถึง 6 ปี และปรับเป็นเงิน 1,200 ล้านรูเปียห์ หากผู้ทำประมงก่อให้เกิดมลพิษและหรือเป็นอันตรายต่อทรัพยากรปลาและสิ่งแวดล้อม จะถูกลงโทษจำคุกอย่างสูง 10 ปี และปรับอย่างสูงไม่เกิน 2,000 ล้านรูเปียห์ นอกจากนี้ หากใช้อุปกรณ์ในการจับปลาไม่เป็นไปตามขนาดที่ทางการกำหนด หรือใช้อุปกรณ์ต้องห้ามจะมีโทษจำคุกถึง 5 ปี และถูกปรับไม่เกิน 2,000 ล้านรูเปียห์
นอกจากนี้ ผู้ประกอบกิจการประมงซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าของใบอนุญาตทำประมงชักธงอินโดนีเซียบนเรือประมง และทำการจับปลาในเขตพื้นที่ทำการประมงของอินโดนีเซียและหรือทะเลเปิด จะถูกลงโทษจำคุกอย่างสูง 6 ปี และปรับอย่างสูงไม่เกิน 2,000 ล้านรูเปียห์ ทั้งนี้ รวมทั้งผู้ประกอบกิจการเรือประมงซึ่งชักธงต่างชาติแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของใบอนุญาตทำการประมง และทำการจับปลาในเขตพื้นที่ทำประมงของอินโดนีเซียและหรือทะเลเปิด จะถูกลงโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 6 ปี และปรับอย่างสูงไม่เกิน 20,000 ล้านรูเปียห์ เป็นต้น
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประสานแจ้งเตือนชาวประมงไทยที่เข้าไปดำเนินการทำประมงในน่านน้ำอินโดนีเซีย ทราบเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว และรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายประมงของอินโดนีเซียผ่านกรมประมง และสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทยอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-