กรุงเทพ--19 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ รอบ 4 มีการเจรจาของ 7 กลุ่ม สรุปสาระสำคัญของผลการเจรจา ดังนี้
กลุ่มนโยบายการแข่งขัน ฝ่ายไทยได้อธิบายฝ่ายสหรัฐฯ ถึงมาตราต่างๆ ในร่างโต้ตอบของไทย โดยเน้นประเด็นเรื่อง Designated Monopolies (การที่รัฐให้อำนาจผูกขาดกับบริษัทเอกชน) รัฐวิสาหกิจ กระบวนการระงับข้อพิพาท รวมทั้งเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับการเจรจาในกลุ่มอื่นๆ เช่น การจัดซื้อโดยรัฐ และความโปร่งใส เป็นต้น นอกจากนี้ แต่ละฝ่ายยังได้ตอบคำถามที่อีกฝ่ายได้สอบถามไว้ในการเจรจา FTA รอบที่สาม เมื่อเดือนเมษายน ศกนี้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ Baby FTA Act และการดำเนินกิจการของ Amtrack ของสหรัฐฯ ตลอดจนสัดส่วนมูลค่ากิจการรัฐวิสาหกิจต่อ GDP ของไทย ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ความช่วยเหลือทางวิชาการต่อเจ้าหน้าที่ด้านการบังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าของไทย เพื่อเพิ่มความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ผ่านการดูงานและการส่งเจ้าหน้าที่มาให้คำปรึกษา
กลุ่มการเปิดเสรีการค้าบริการ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาหาลู่ทางที่จะส่งเสริมการค้าบริการในสาขาที่อยู่ในความสนใจของแต่ละฝ่าย เช่น การนวดเพื่อการบำบัด (massage therapy) ในสหรัฐฯ และสาขาการขนส่งของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขนส่งทางทะเล ส่วนผลของการเจรจาร่างบทเมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม 2548) ฝ่ายไทยจะเป็นผู้ปรับร่างข้อบทตามผลของการหารือ เพื่อใช้เป็นพื้นฐานของการเจรจาในรอบต่อไป
กลุ่มทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการหารือกันในเรื่องเครื่องหมายการค้า โดยประเด็นสำคัญ ได้แก่ การคุ้มครองเครื่องหมายการค้าที่เป็นเสียงและกลิ่น การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า รวมทั้งเหตุผลในการปฏิเสธการรับจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม โดยที่กฎหมายเครื่องหมายการค้าและวิธีการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของไทยแตกต่างจากระบบของสหรัฐฯ จึงยังไม่มีข้อตกลงกัน ในเรื่องนี้ โดยจะพิจารณาหาแนวทางที่น่าพอใจสำหรับทั้งสองฝ่ายต่อไป นอกจากนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ แสดงความยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์
กลุ่มโทรคมนาคม ฝ่ายไทยได้ให้ข้อมูลเรื่องแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม และรายละเอียดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมต่างๆ เช่น เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตกิจการโทรคมนาคม การออกระเบียบในเรื่องการเชื่อมต่อโครงข่ายและการจัดทำคู่มือการแข่งขันเสรี เป็นต้น นอกจากนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ พร้อมที่จะถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจและการกำกับดูแลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อโครงข่ายการให้บริการดาวเทียม ฯลฯ โดยฝ่ายไทยจะพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาดูงานที่สหรัฐฯ ในโอกาสต่อไป
กลุ่มสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ฝ่ายไทยได้ขอให้สหรัฐฯ ปรับปรุงข้อเสนอ initial
Offer ในการเปิดตลาดสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยลดภาษีเป็นศูนย์ในวันแรกที่ความตกลงมีผลบังคับใช้ นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือในร่างข้อบทเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องความร่วมมือทางศุลกากร
กลุ่มกฎหมาย มีการหารือใน 5 บท ได้แก่ General Provisions, Final
Provisions, General Exceptions, Dispute Settlement และ Transparency โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก และไทยได้แจ้งท่าทีเบื้องต้นในประเด็นต่างๆ รวมทั้งประเด็นที่อาจจะมีปัญหาด้านกฎหมายและด้านนโยบาย ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ ได้รับทราบท่าทีไทย และจะนำไปพิจารณาต่อไป
กลุ่มการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการค้าและความร่วมมือด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ศกนี้ ได้มีการดำเนินโครงการร่วมกันแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการฝึกอบรมการใช้ฐานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเพื่อวิเคราะห์ตลาด ซึ่งได้อบรมหน่วยงานภาครัฐด้านการส่งเสริมและพัฒนา SMEs และสมาคมภาคเอกชนต่างๆ กว่า 50 ราย โครงการเตรียมความพร้อมสำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และโครงการถ่ายทอดความรู้ให้กับหน่วยงานไทยในการจัดเก็บสถิติภาคบริการ
ในการหารือรอบสี่ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินโครงการความร่วมมืออีกกว่า 20 โครงการในระหว่างเดือนสิงหาคม — กันยายน ศกนี้ ได้แก่
- โครงการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนของไทยเกี่ยวกับกฎหมายการทุ่มตลาดและการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD/CVD)ของสหรัฐฯ ประมาณเดือนสิงหาคม ศกนี้
- โครงการศึกษาดูงานด้านศุลกากรและกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าที่สหรัฐฯ
- โครงการพบปะระหว่างผู้ส่งออกด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มกับผู้นำเข้าสหรัฐฯ เพื่อช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน ประมาณเดือนกันยายน ศกนี้
- โครงการความร่วมมือด้าน SMEs เช่น การพัฒนาศูนย์บ่มเพาะทางธุรกิจ โดยสหรัฐฯ จะจัดให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนไปศึกษาดูงานที่สหรัฐฯ
- การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (supply chain management) สำหรับสินค้าไทยที่มีศักยภาพ เช่น สินค้าสิ่งทอ เครื่องหนัง ฯลฯ
- โครงการถ่ายทอดความรู้ให้ SMEs ไทยในการใช้ IT ในการทำธุรกิจและการเขียนแผนงานทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ระหว่างการเจรจารอบที่สี่ ภาคเอกชนไทย ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับระบบการจัดซื้อโดยรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ฝ่ายไทยได้รับทราบโอกานและขั้นตอน ตลอดจนกระบวนการ และช่องทางที่สินค้าไทยอาจเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ภายใต้ระบบการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ นอกจากนี้ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เสนอโครงการจับคู่ทางธุรกิจในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ก่อสร้าง ยานยนต์ ฯลฯ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 ซึ่งเป็นวันที่สี่ของการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ รอบ 4 มีการเจรจาของ 7 กลุ่ม สรุปสาระสำคัญของผลการเจรจา ดังนี้
กลุ่มนโยบายการแข่งขัน ฝ่ายไทยได้อธิบายฝ่ายสหรัฐฯ ถึงมาตราต่างๆ ในร่างโต้ตอบของไทย โดยเน้นประเด็นเรื่อง Designated Monopolies (การที่รัฐให้อำนาจผูกขาดกับบริษัทเอกชน) รัฐวิสาหกิจ กระบวนการระงับข้อพิพาท รวมทั้งเรื่องที่มีความเกี่ยวข้องกับการเจรจาในกลุ่มอื่นๆ เช่น การจัดซื้อโดยรัฐ และความโปร่งใส เป็นต้น นอกจากนี้ แต่ละฝ่ายยังได้ตอบคำถามที่อีกฝ่ายได้สอบถามไว้ในการเจรจา FTA รอบที่สาม เมื่อเดือนเมษายน ศกนี้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับ Baby FTA Act และการดำเนินกิจการของ Amtrack ของสหรัฐฯ ตลอดจนสัดส่วนมูลค่ากิจการรัฐวิสาหกิจต่อ GDP ของไทย ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ความช่วยเหลือทางวิชาการต่อเจ้าหน้าที่ด้านการบังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าของไทย เพื่อเพิ่มความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ผ่านการดูงานและการส่งเจ้าหน้าที่มาให้คำปรึกษา
กลุ่มการเปิดเสรีการค้าบริการ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณาหาลู่ทางที่จะส่งเสริมการค้าบริการในสาขาที่อยู่ในความสนใจของแต่ละฝ่าย เช่น การนวดเพื่อการบำบัด (massage therapy) ในสหรัฐฯ และสาขาการขนส่งของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการขนส่งทางทะเล ส่วนผลของการเจรจาร่างบทเมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม 2548) ฝ่ายไทยจะเป็นผู้ปรับร่างข้อบทตามผลของการหารือ เพื่อใช้เป็นพื้นฐานของการเจรจาในรอบต่อไป
กลุ่มทรัพย์สินทางปัญญา ได้มีการหารือกันในเรื่องเครื่องหมายการค้า โดยประเด็นสำคัญ ได้แก่ การคุ้มครองเครื่องหมายการค้าที่เป็นเสียงและกลิ่น การคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และขั้นตอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า รวมทั้งเหตุผลในการปฏิเสธการรับจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ อย่างไรก็ตาม โดยที่กฎหมายเครื่องหมายการค้าและวิธีการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของไทยแตกต่างจากระบบของสหรัฐฯ จึงยังไม่มีข้อตกลงกัน ในเรื่องนี้ โดยจะพิจารณาหาแนวทางที่น่าพอใจสำหรับทั้งสองฝ่ายต่อไป นอกจากนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ แสดงความยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์
กลุ่มโทรคมนาคม ฝ่ายไทยได้ให้ข้อมูลเรื่องแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม และรายละเอียดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมต่างๆ เช่น เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการออกใบอนุญาตกิจการโทรคมนาคม การออกระเบียบในเรื่องการเชื่อมต่อโครงข่ายและการจัดทำคู่มือการแข่งขันเสรี เป็นต้น นอกจากนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ พร้อมที่จะถ่ายทอดประสบการณ์การดำเนินธุรกิจและการกำกับดูแลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อโครงข่ายการให้บริการดาวเทียม ฯลฯ โดยฝ่ายไทยจะพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษาดูงานที่สหรัฐฯ ในโอกาสต่อไป
กลุ่มสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ฝ่ายไทยได้ขอให้สหรัฐฯ ปรับปรุงข้อเสนอ initial
Offer ในการเปิดตลาดสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยลดภาษีเป็นศูนย์ในวันแรกที่ความตกลงมีผลบังคับใช้ นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือในร่างข้อบทเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องความร่วมมือทางศุลกากร
กลุ่มกฎหมาย มีการหารือใน 5 บท ได้แก่ General Provisions, Final
Provisions, General Exceptions, Dispute Settlement และ Transparency โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก และไทยได้แจ้งท่าทีเบื้องต้นในประเด็นต่างๆ รวมทั้งประเด็นที่อาจจะมีปัญหาด้านกฎหมายและด้านนโยบาย ซึ่งฝ่ายสหรัฐฯ ได้รับทราบท่าทีไทย และจะนำไปพิจารณาต่อไป
กลุ่มการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการค้าและความร่วมมือด้านวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ศกนี้ ได้มีการดำเนินโครงการร่วมกันแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ โครงการฝึกอบรมการใช้ฐานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเพื่อวิเคราะห์ตลาด ซึ่งได้อบรมหน่วยงานภาครัฐด้านการส่งเสริมและพัฒนา SMEs และสมาคมภาคเอกชนต่างๆ กว่า 50 ราย โครงการเตรียมความพร้อมสำหรับภัยพิบัติทางธรรมชาติ และโครงการถ่ายทอดความรู้ให้กับหน่วยงานไทยในการจัดเก็บสถิติภาคบริการ
ในการหารือรอบสี่ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินโครงการความร่วมมืออีกกว่า 20 โครงการในระหว่างเดือนสิงหาคม — กันยายน ศกนี้ ได้แก่
- โครงการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนของไทยเกี่ยวกับกฎหมายการทุ่มตลาดและการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD/CVD)ของสหรัฐฯ ประมาณเดือนสิงหาคม ศกนี้
- โครงการศึกษาดูงานด้านศุลกากรและกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าที่สหรัฐฯ
- โครงการพบปะระหว่างผู้ส่งออกด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มกับผู้นำเข้าสหรัฐฯ เพื่อช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน ประมาณเดือนกันยายน ศกนี้
- โครงการความร่วมมือด้าน SMEs เช่น การพัฒนาศูนย์บ่มเพาะทางธุรกิจ โดยสหรัฐฯ จะจัดให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนไปศึกษาดูงานที่สหรัฐฯ
- การบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน (supply chain management) สำหรับสินค้าไทยที่มีศักยภาพ เช่น สินค้าสิ่งทอ เครื่องหนัง ฯลฯ
- โครงการถ่ายทอดความรู้ให้ SMEs ไทยในการใช้ IT ในการทำธุรกิจและการเขียนแผนงานทางธุรกิจ
นอกจากนี้ ระหว่างการเจรจารอบที่สี่ ภาคเอกชนไทย ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้เข้าร่วมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับระบบการจัดซื้อโดยรัฐของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ฝ่ายไทยได้รับทราบโอกานและขั้นตอน ตลอดจนกระบวนการ และช่องทางที่สินค้าไทยอาจเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ภายใต้ระบบการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ นอกจากนี้ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยได้เสนอโครงการจับคู่ทางธุรกิจในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ ก่อสร้าง ยานยนต์ ฯลฯ
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-