สรุปสถานการณ์:
โซหูเน็ตสื่อของจีนได้อ้างการคาดการณ์ของ เหลียงหง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีน ประจำ โกลด์แมน แซคส์ (เอเชีย) ว่าภายหลังปี 2006 การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงจาก 9% เหลือ 8% โดยมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนหลังปี 2005 จะได้รับผลกระทบจากกลุ่มนโยบายที่รัฐบาลเลือกดำเนินการ เพื่อเผชิญกับแรงกดดันทั้งภายนอกและภายใน และในเวลานี้การปรับค่าเงินหยวนเป็นสิ่งที่สำคัญ
ทั้งนี้ เหลียงหง ได้ให้แนวทางของรัฐบาลในการปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนไว้ 3 แนวทาง ด้วยกัน คือ
1. การปรับขึ้นค่าเงินหยวนประมาณ 3-5% จะเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากจะเป็นโอกาสให้รัฐบาลจีนได้ออกนโยบายกระตุ้นความต้องการภายในประเทศซึ่งจะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจากการพึ่งพาการค้าระหว่างประเทศเป็นการกระตุ้นความต้องการภายในมากขึ้น
2. การปรับขึ้นค่าเงินหยวนมากกว่า 10% ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเงินที่ไหลเข้าประเทศ เหลียงหง ได้คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินมาตรการแบบเด็ดขาดเพื่อกระตุ้นความต้องการภายในประเทศเป็นหลัก เช่น การรักษานโยบายด้านสินเชื่อในระดับกลางๆ ลดภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคภายใน เป็นต้น ซึ่งแนวทางนี้จะเป็นแนวทางที่เหลียงหง คาดการณ์ว่าเป็นไปได้มากเนื่องจากเป็นหนทางที่เอื้อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจจีนมากที่สุด และจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาความไม่สมดุลการค้าระหว่างประเทศโดยผ่านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
3. การคงรักษาอัตราแลกเปลี่ยนไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งแนวทางนี้จะเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจของจีนและเพื่อนบ้านในเอเซีย ซึ่งเหลียงหง เชื่อว่าแนวทางนี้จะเป็นไปได้น้อยมาก
ประเด็นวิเคราะห์:
เศรษฐกิจของจีนภายหลังปี 2006 คาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงแต่จะอยู่ในภาวะชะงักงันหรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของจีนเอง ถ้าจีนมีการปรับค่าเงินหยวนขึ้นประมาณ 10% จะสร้างโอกาสให้จีนได้ปรับทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จากการพึ่งพาการส่งออกเปลี่ยนมาเป็นกระตุ้นความต้องการภายในประเทศและขณะเดียวกันจะช่วยแก้ปัญหาการค้าระหว่างประเทศที่ไม่สมดุล
ที่มา: http://www.depthai.go.th