กรุงเทพ--2 ก.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
อินเดีย : ชาวอินเดียสนใจส่งบุตรหลานมาเรียนเมืองไทย
นอกเหนือจากด้านเศรษฐกิจแล้ว นับว่าอินเดียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นตลาดสำคัญของไทยในด้านการท่องเที่ยว และการศึกษา ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในอินเดียจึงได้พยายามส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางของไทยทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการศึกษาในตลาดอินเดียอย่างแข็งขัน อาทิ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตาได้เชิญคณะสื่อมวลชนอินเดียมาเยือนไทยและได้นำคณะเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลเอกชนรวมทั้งสถาบันการศึกษานานาชาติในประเทศไทย เพื่อให้สื่อมวลชนเหล่านี้กลับไปเขียนข่าวและบทความเผยแพร่ภาพลักษณ์ในด้านบวกของไทยให้ชาวอินเดียทราบต่อไป
นายซาอุมยา บันโดแพคเฮฟ ผู้ช่วยบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ภาษาเบงกอลี ซึ่งมียอดจำหน่ายวันละ 3 แสนฉบับ และเป็นหนึ่งในคณะสื่อมวลชนอินเดียที่เดินทางเยือนไทย ได้เขียนบทความว่า การผนวกการท่องเที่ยวกับการบริการสุขภาพของไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจากประเทศเพื่อนบ้านเพราะค่าบริการถูกกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการให้บริการในประเทศตะวันตก และยังได้รับการบริการดีกว่ามาก ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นบริการชั้นเลิศที่เพรียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน และการบริการที่ประทับใจของพนักงานคนไทย
นายมาธุเรส พอล ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ The Statesman ยอดจำหน่ายกว่า 80,000 ฉบับต่อวัน ได้ลงบทความเกี่ยวกับระบบการศึกษานานาชาติในประเทศไทย ว่ามีคุณภาพเทียบเท่าประเทศตะวันตกและมีมาตรฐานในระดับสากล แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก จึงนับเป็นโอกาสดีและเป็นทางเลือกสำหรับนักเรียนและนักศึกษาอินเดียที่ประสงค์จะศึกษาต่อต่างประเทศ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวอินเดียจากหนังสือพิมพ์ The Times of India ซึ่งไม่ได้ร่วมโครงการเยือนเมืองไทย ได้เขียนข่าวยืนยันความเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาของไทยโดยย้ำว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทยที่เปิดรับนักศึกษาต่างชาติ มีข้อมูลตรงกันว่าอินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ ในการรับสมัครเข้าศึกษา ซึ่งในวันเดียวกับที่มีรายงานข่าวนี้ ปรากฏว่าชาวอินเดียในเมืองมุมไบให้ความสนใจสอบถามสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ เป็นจำนวนมาก และมีนักธุรกิจชาวอินเดียนำบุตรชายที่เกิดในสหรัฐอเมริกา และเพิ่งจบเกรด 12 จากโรงเรียนในเมืองฮุสตัน และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ไปขอพบเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย และแสดงความประสงค์จะส่งบุตรชายเข้าศึกษาต่อในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเพื่อให้นักธุรกิจอินเดียดำเนินการสมัครเข้าศึกษาต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
อินเดีย : ชาวอินเดียสนใจส่งบุตรหลานมาเรียนเมืองไทย
นอกเหนือจากด้านเศรษฐกิจแล้ว นับว่าอินเดียกำลังก้าวขึ้นมาเป็นตลาดสำคัญของไทยในด้านการท่องเที่ยว และการศึกษา ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในอินเดียจึงได้พยายามส่งเสริมความเป็นศูนย์กลางของไทยทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการศึกษาในตลาดอินเดียอย่างแข็งขัน อาทิ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตาได้เชิญคณะสื่อมวลชนอินเดียมาเยือนไทยและได้นำคณะเข้าเยี่ยมชมโรงพยาบาลเอกชนรวมทั้งสถาบันการศึกษานานาชาติในประเทศไทย เพื่อให้สื่อมวลชนเหล่านี้กลับไปเขียนข่าวและบทความเผยแพร่ภาพลักษณ์ในด้านบวกของไทยให้ชาวอินเดียทราบต่อไป
นายซาอุมยา บันโดแพคเฮฟ ผู้ช่วยบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ภาษาเบงกอลี ซึ่งมียอดจำหน่ายวันละ 3 แสนฉบับ และเป็นหนึ่งในคณะสื่อมวลชนอินเดียที่เดินทางเยือนไทย ได้เขียนบทความว่า การผนวกการท่องเที่ยวกับการบริการสุขภาพของไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ และจากประเทศเพื่อนบ้านเพราะค่าบริการถูกกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับการให้บริการในประเทศตะวันตก และยังได้รับการบริการดีกว่ามาก ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นบริการชั้นเลิศที่เพรียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน และการบริการที่ประทับใจของพนักงานคนไทย
นายมาธุเรส พอล ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ The Statesman ยอดจำหน่ายกว่า 80,000 ฉบับต่อวัน ได้ลงบทความเกี่ยวกับระบบการศึกษานานาชาติในประเทศไทย ว่ามีคุณภาพเทียบเท่าประเทศตะวันตกและมีมาตรฐานในระดับสากล แต่ค่าใช้จ่ายถูกกว่ามาก จึงนับเป็นโอกาสดีและเป็นทางเลือกสำหรับนักเรียนและนักศึกษาอินเดียที่ประสงค์จะศึกษาต่อต่างประเทศ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวอินเดียจากหนังสือพิมพ์ The Times of India ซึ่งไม่ได้ร่วมโครงการเยือนเมืองไทย ได้เขียนข่าวยืนยันความเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาของไทยโดยย้ำว่า มหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทยที่เปิดรับนักศึกษาต่างชาติ มีข้อมูลตรงกันว่าอินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ ในการรับสมัครเข้าศึกษา ซึ่งในวันเดียวกับที่มีรายงานข่าวนี้ ปรากฏว่าชาวอินเดียในเมืองมุมไบให้ความสนใจสอบถามสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ เป็นจำนวนมาก และมีนักธุรกิจชาวอินเดียนำบุตรชายที่เกิดในสหรัฐอเมริกา และเพิ่งจบเกรด 12 จากโรงเรียนในเมืองฮุสตัน และได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้าน ได้ไปขอพบเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย และแสดงความประสงค์จะส่งบุตรชายเข้าศึกษาต่อในประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อกับมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเพื่อให้นักธุรกิจอินเดียดำเนินการสมัครเข้าศึกษาต่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-