นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย — ออสเตรเลีย ที่ได้มีการลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันสำหรับสินค้า จำนวน 5,505 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นมา กรมการค้าต่างประเทศได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าให้กับผู้ส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 28 กุมภาพันธ์ 2548 จำนวน 1,666 ฉบับ มูลค่า 122.22 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 4,716.67 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ ที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ รถยนต์สำหรับขนส่งของ ร้อยละ 25 รองลงมาคือ รถยนต์และยานยนต์อื่นที่ออกแบบสำหรับขนส่งบุคคลเป็นหลัก ร้อยละ 18 ปลาทูน่าที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ร้อยละ 11 เครื่องปรับอากาศที่ประกอบด้วยพัดลมซึ่งขับด้วยมอเตอร์ ร้อยละ 10 กระดาษและกระดาษแข็งที่ไม่เคลือบ ร้อยละ 4 สิ่งปรุงแต่งสำหรับใช้กับผม ร้อยละ 4
สำหรับการส่งออก — นำเข้าตามสถิติข้อมูลของกรมศุลกากรในเดือนมกราคม 2548 ไทยส่งสินค้าออกไปออสเตรเลีย มูลค่า 7,642.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากมกราคม 2547 คิดเป็นร้อยละ 18 สำหรับสินค้าส่งออกที่มีการใช้สิทธิตามข้อตกลง FTA ที่มีมูลค่ามากที่สุด คือ รถบรรทุกชนิดแวนและปิกอัพ ร้อยละ 23 รองลงมา ได้แก่ เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างและติดผนัง ร้อยละ 7 ปลาทูนา ปลาสคิปแจ็กและปลาโบนิโตบรรจุภาชนะอัดลม ร้อยละ 3 ทองคำกึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 2 และรถนั่งแบบจี๊ปชนิดหลังคาอ่อนและหลังคาแข็ง ร้อยละ 2
ในขณะเดียวกันไทยนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลีย มูลค่า 11,057.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากมกราคม 2547 คิดเป็น 89 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด คือ ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป ร้อยละ 51 รองลงมา ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันดิบที่ได้จากแร่ปิทูมินัส ร้อยละ 6 แคโทดและส่วนของแคโทด ร้อยละ 5 อะลูมิเนียมไม่เจือ ร้อยละ 5 อะลูมิเนียมเจือ ร้อยละ 4 และสินแร่และหัวแร่ทองแดง ร้อยละ 3
ปี 2547 ไทยส่งออกไปออสเตรเลียมูลค่า 99,102 ล้านบาท นำเข้า 108,595 ล้านบาท ขาดดุลการค้า 9,493 ล้านบาท เดือนมกราคม 2548 ไทยขาดดุล 3,414.54 ล้านบาท เป็นเพราะการนำเข้าทองจากออสเตรเลีย มูลค่า 5,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 จึงผิดปกติ คาดว่าการส่งออกไปออสเตรเลียตลอดปี 2548 จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าปี 2547 มาก และคาดว่าภาวะขาดดุลการค้าน่าจะลดลงจากปี 47 ทั้งนี้ผู้ส่งออกต้องบุกตลาดออสเตรเลียและใช้ประโยชน์จาก FTA ให้มากยิ่งขึ้น
กรมการค้าระหว่างประเทศ
-สส-