สรุปข่าวเศรษฐกิจประจำวัน วันที่ 5 กรกฏาคม 2548

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 5, 2005 13:46 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ 1. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 48 จะปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับค่าเงินบาทซึ่งอยู่ในระดับที่เหมาะสม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นรม. และ รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รายงานภาวะเศรษฐกิจให้ที่ประชุมรับทราบ โดยดัชนีหลายรายการปรับตัวดีขึ้น เช่น ดัชนีการผลิตและการส่งออก รวมถึงการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นหลังจากที่ครึ่งปีแรกเศรษฐกิจชะลอตัวลงจากปัญหาราคาน้ำมันและภัยแล้ง ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน ธปท.มีการติดตามดูแลค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด จึงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม การดูแลค่าเงินบาทจะเข้าไปควบคุมมากเกินไปคงไม่ได้ ต้องให้สอดคล้องกับสภาพตลาด แต่จะไม่ให้มีความผันผวนมากเกินไป ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวปกติอยู่ในระดับเรียบร้อยดี ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามและดูแลอย่างใกล้ชิด (ผู้จัดการรายวัน, กรุงเทพธุรกิจ, ไทยโพสต์, ข่าวสด) 2. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในครึ่งหลังปี 48 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้น โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของ ธพ. โดยมีปัจจัยหลัก 3 ประการ คือ 1) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของ ธพ.ที่ปรับขึ้นช้ากว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ซึ่งปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 1.25% ดังนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่ง ดอกเบี้ยตลาดคงจะต้องปรับขึ้นแน่นอน 2) สภาพคล่องที่มีการดูดซับออกจากระบบตั้งแต่ต้นปี และมีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากโครงการเมกะโปรเจ็กของรัฐบาล และการที่กองทุนฟื้นฟูฯ ออก พธบ.เพื่อชดเชยความเสียหาย และ 3) ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เริ่มมีการขาดดุลหลังจากที่เกินดุลมาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสัญญาณให้เห็นถึงการไหลออกของเม็ดเงิน ทั้งนี้ จาก 3 ปัจจัยดังกล่าว คาดว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของ ธพ.น่าจะมีการปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังในระดับ 0.5-0.75% ขึ้นอยู่กับ ธพ.แต่ละแห่งจะบริหารสภาพคล่องอย่างไร (ผู้จัดการรายวัน) 3. ก.พลังงานชะลอนโนบายการลอยตัวราคาก๊าซหุงต้มไปจนถึงสิ้นปี 48 รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ก.พลังงานติดสินใจไม่ใช้นโยบายการปล่อยลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม จากเดิมที่จะต้องเริ่มดำเนินการในเดือน ก.ค.นี้ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชน และป้องกันไม่ให้ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร โดยจะชะลอการปล่อยลอยตัวราคาก๊าซไปจนถึงสิ้นปี 48 ซึ่งในระหว่างนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังชดเชยราคาก๊าซหุงต้มให้เฉลี่ย 2 บาท/กก. หรือเดือนละ 400 ล.บาท โดยเป็นภาระที่ยังสามารถรับได้ (โพสต์ทูเดย์, โลกวันนี้) 4. ก.พาณิชย์หารือแนวทางการทำงานร่วมกับภาคเอกชนในด้านนโยบายการค้าและการลงทุน รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ได้มีการหารือกันเรื่องการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในเรื่องของนโยบายการค้าและการลงทุนของประเทศ ซึ่งขณะนี้ ก.พาณิชย์ได้จัดตั้งสำนักงานยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเปิดดำเนินการไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยสำนักงานดังกล่าวทำหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลการค้าระหว่างประเทศและส่งเสริมดูแลการส่งออก และการบริหารการนำเข้า รวมทั้งกติกาและขั้นตอนความร่วมมือทางการค้าจากการเจรจาต่างๆ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี การเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นในกรอบการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดตั้งเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยมีข้อตกลงกับประเทศต่างๆ นอกจากนี้ ได้เสนอให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมส่งตัวแทนเข้าทำงานร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศที่ปัจจุบันมีอยู่ 53 แห่งทั่วโลก เพื่อเป็นจุดเชื่อมทางการค้าระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขยายขอบเขตการค้าและการลงทุน (ข่าวสด) ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ 1. รัฐบาลของประเทศในแถบเอเซียควบคุมราคาน้ำมันในประเทศ รายงานจากสิงคโปร์เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 48 รัฐบาลของประเทศในแถบเอเซียอาทิ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ไทย เวียตนาม มาเลเซีย และบังคลาเทศ ได้ควบคุมราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของตนในช่วง 2 — 3 เดือนที่ผ่านมา โดยได้ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดีเซลถึงร้อยละ 3.8 , 7.7 , 27.3 , 20 , 18 , 23 และร้อยละ 13 ตามลำดับ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับสูงส่งผลกระทบต่องบประมาณของรัฐบาลและต่อกำไรของผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน ทั้งนี้ประเทศไทยได้ปล่อยให้ราคาน้ำมันเบนซินลอยตัวมานับตั้งแต่เดือนต.ค. 47 และยกเลิกการให้การอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา อนึ่งราคาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ลอนดอนส่งมอบเดือนส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 46 เซนต์อยู่ที่บาร์เรลละ 58 ดอลลาร์ สรอ. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์ สรอ.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนราคาน้ำมันดิบสรอ.เมื่อศุกร์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 2.25 ดอลลาร์ สรอ.อยู่ที่บาร์เรลละ 58.75 ดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้ราคาน้ำมันได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ลดลงถึง 5 ดอลลาร์ สรอ. จากสถิติสูงสุดที่บาร์เรลละ 60.95 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว(รอยเตอร์) 2. PMI ของสิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.48 ลดลงอยู่ที่ระดับ 50.5 แต่อยู่เหนือระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อ 4 ก.ค.48 Institute of Purchasing Materials Management ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า The Purchasing Managers’ Index (PMI) สิงคโปร์ในเดือน มิ.ย.48 ลดลงอยู่ที่ระดับ 50.5 จากระดับ 51.0 ในเดือนก่อน แต่ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 (ซึ่งเป็นเส้นแบ่งที่แสดงถึงเศรษฐกิจขยายตัวและหดตัว) ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 นับจากเดือน เม.ย.ที่ดัชนีดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ดัชนีโดยรวมลดลงเนื่องจากการจ้างงาน สินค้าคงคลัง และภาวะการนำเข้าลดลง ขณะที่ดัชนีคำสั่งซื้อสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น 0.6 จุดอยู่ที่ระดับ 51.0 ดัชนีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.3 จุด อยู่ที่ระดับ 49.1 ส่วนดัชนีผลผลิตลดลง 1.7 จุดอยู่ที่ระดับ 51.6 ส่วนผลผลิตภาคอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 2.2 จุดอยู่ที่ระดับ 49.8 หลังจากที่ขยายตัวในเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวแสดงความเห็นว่า ภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นภาคที่สำคัญอย่างมาก (มีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของผลผลิตโดยรวมและประมาณครึ่งหนึ่งของการส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมัน) อาจกลับแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่ 2-3 เดือนก่อนชะลอตัว โดยเห็นได้จากดัชนีการจ้างงานของภาคอิเล็กทรอนิกส์ในเดือน มิ.ย.48เพิ่มขึ้น 2.4 จุดอยู่ที่ระดับ 50.4 (รอยเตอร์) 3. เกาหลีใต้ปรับลดการขยายตัวจีดีพีปี 48 ลงเหลือร้อยละ 4 รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 4 ก.ค.48 ก.คลังของเกาหลีใต้ ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 48 ลงเหลือร้อยละ 4 จากเดิมร้อยละ 5 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ ธ.กลางของเกาหลีใต้เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน ธ.ค.47 โดยมีสาเหตุจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างเชื่องช้าและการบริโภคภายในประเทศที่ยังคงอ่อนตัวอยู่ รวมถึงราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ที่ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธ.กลางเกาหลีใต้ ได้กล่าวไว้เมื่อเดือนก่อนว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปีนี้อาจจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึงร้อยละ 0.7 จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น (รอยเตอร์) 4. ผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีในการประชุมในวันที่ 7 ก.ค.48 นี้ รายงานจากโซล เมื่อ 4 ก.ค.48 ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.25 ต่อปีเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 7 ก.ค.48 นี้ สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอีก 6 เดือนข้างหน้านักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นแตกต่างกันไป มีทั้งที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย ขึ้นหรือแม้กระทั่งลดอัตราดอกเบี้ยก็มี โดยขณะนี้ ธ.กลางเกาหลีใต้กำลังกังวลจากการได้รับการวิจารณ์ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลางเกาหลีใต้ 4 ครั้งในช่วงปี 46-47 ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 1.0 มาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 3.25 นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการเก็งกำไรซึ่งทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นในขณะนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธ.กลางเกาหลีใต้จะคงอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าโดยภาวะเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซาจากความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ลดลงจากผลกระทบของราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย.48 ที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่งจะเอื้อให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจก็ตาม ก.คลังได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้จากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 4 ในขณะที่ ธ.กลางเกาหลีใต้ก็เตรียมปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้เช่นเดียวกัน โดยก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการ ธ.กลางเกาหลีใต้ได้เตือนว่าราคาน้ำมันจะทำให้เศรษฐกิจในปีนี้ชะลอตัวลงร้อยละ 0.7 (รอยเตอร์)ข้อมูลเศรษฐกิจ 5 ก.ค. 48 4 ก.ค. 48 30 ม.ค. 47 แหล่งข้อมูล อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 41.434 39.263 ธปท. อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 41.2391/41.5180 39.0915/39.3765 ธปท. อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 2.57-2.59375 1.1875 - 1.2800 รอยเตอร์ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 669.78/15.16 698.90/29.26 ตลท. ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 8,350/8,450 8,350/8,450 7,400/7,500 สมาคมค้าทองคำ ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 52.32 53.67 28.18 ปตท./รอยเตอร์ ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) 24.94*/21.29** 24.94/21.39 16.99/14.59 ปตท. * ปรับเพิ่ม ลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 30 มิ.ย. 48 * *ปรับลด ลิตรละ 10 สตางค์ เมื่อ 5 ก.ค. 48

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ