กรุงเทพ--9 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับองค์การเพื่อการพัฒนาและการค้าแห่งสหรัฐฯ (USTDA) เสนอโครงการช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบภายใต้โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการค้าและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Trade Capacity Building / SMEs — TCB/SMEs) ในกรอบการเจรจาการค้าเสรี (FTA) ไทย — สหรัฐฯ โดยจะเป็นการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การฟื้นฟูด้านการเงินแก่ธุรกิจ SMEs หลังประสบภัยพิบัติ” ระหว่างวันที่ 9 - 10 พฤศจิกายน 2548 ณ โรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ
การสัมมนาในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการจัดการความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ SMEs ให้กับหน่วยงานของไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ประสบภัยสึนามิ และภัยธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมจำนวน 7 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และ เวียดนาม โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ ทั้งจากภาครัฐบาล ภาคการธนาคาร และภาคการประกันภัย รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากองค์การระหว่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และกรณีศึกษาต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาค ในอันที่จะปรับปรุงและพัฒนาระบบการฟื้นฟูและบรรเทาความเสียหายทางธุรกิจหลังภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
หลังเหตุการณ์คลื่นสึนามิ ธุรกิจ SMEs เป็นจำนวนมากในพื้นที่ที่ประสบภัย ได้รับผลกระทบและความเสียหายทางธุรกิจ และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนด้านเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อฟื้นฟูกิจการให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ดังเดิมและอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิด
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของท้องถิ่นและของประเทศให้น้อยที่สุด แต่เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่ประเทศไทยเพิ่งจะเคยประสบเป็นครั้งแรก ทำให้หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
ในเรื่องของการบรรเทาความเสียหายหลังภัยพิบัติ ยังขาดความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่จะดำเนินการบรรเทาความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการเงินทุนเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ
อนึ่ง เพื่อให้ไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ คณะเจรจาฝ่ายไทยได้เสนอให้มีความร่วมมือด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการส่งเสริม SMEs กับสหรัฐฯ ซึ่งทำให้มีการจัดตั้งกลุ่มเจรจาว่าด้วยความร่วมมือด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการค้าและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Trade Capacity Building / SMEs — TCB/SMEs) ขึ้นโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถของ SMEs ไทย เพื่อการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การมี FTA ไทย-สหรัฐฯ และการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อให้ภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ของไทยใช้ประโยชน์จาก FTA ได้อย่างเต็มที่ในระยะยาว ความสำเร็จของการจัดตั้งกลุ่มเจรจา TCB/SMEs ได้พัฒนาไปสู่ความร่วมมือที่เป็น
รูปธรรม โดยปัจจุบันมีโครงการความร่วมมือมากกว่า 50 โครงการ นอกจากนี้ ความร่วมมือในกรอบ TCB/ SMEs เป็นแบบ FTA Plus กล่าวคือ ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาต่อรอง FTA ไทย — สหรัฐฯ และสามารถเริ่มดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องรอให้การเจรจาเสร็จสิ้นก่อน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับองค์การเพื่อการพัฒนาและการค้าแห่งสหรัฐฯ (USTDA) เสนอโครงการช่วยเหลือ SMEs ที่ได้รับผลกระทบภายใต้โครงการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการค้าและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Trade Capacity Building / SMEs — TCB/SMEs) ในกรอบการเจรจาการค้าเสรี (FTA) ไทย — สหรัฐฯ โดยจะเป็นการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การฟื้นฟูด้านการเงินแก่ธุรกิจ SMEs หลังประสบภัยพิบัติ” ระหว่างวันที่ 9 - 10 พฤศจิกายน 2548 ณ โรงแรม เจ ดับบลิว แมริออท ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ
การสัมมนาในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการจัดการความช่วยเหลือด้านการเงินเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ SMEs ให้กับหน่วยงานของไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ประสบภัยสึนามิ และภัยธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งได้รับเชิญให้เข้าร่วมจำนวน 7 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา และ เวียดนาม โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ ทั้งจากภาครัฐบาล ภาคการธนาคาร และภาคการประกันภัย รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากองค์การระหว่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และกรณีศึกษาต่างๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาค ในอันที่จะปรับปรุงและพัฒนาระบบการฟื้นฟูและบรรเทาความเสียหายทางธุรกิจหลังภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
หลังเหตุการณ์คลื่นสึนามิ ธุรกิจ SMEs เป็นจำนวนมากในพื้นที่ที่ประสบภัย ได้รับผลกระทบและความเสียหายทางธุรกิจ และจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือสนับสนุนด้านเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อฟื้นฟูกิจการให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ดังเดิมและอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิด
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของท้องถิ่นและของประเทศให้น้อยที่สุด แต่เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่ประเทศไทยเพิ่งจะเคยประสบเป็นครั้งแรก ทำให้หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง
ในเรื่องของการบรรเทาความเสียหายหลังภัยพิบัติ ยังขาดความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่จะดำเนินการบรรเทาความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจัดการเงินทุนเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ
อนึ่ง เพื่อให้ไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ คณะเจรจาฝ่ายไทยได้เสนอให้มีความร่วมมือด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการส่งเสริม SMEs กับสหรัฐฯ ซึ่งทำให้มีการจัดตั้งกลุ่มเจรจาว่าด้วยความร่วมมือด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถทางการค้าและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Trade Capacity Building / SMEs — TCB/SMEs) ขึ้นโดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถของ SMEs ไทย เพื่อการปรับตัวในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่การมี FTA ไทย-สหรัฐฯ และการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อให้ภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ของไทยใช้ประโยชน์จาก FTA ได้อย่างเต็มที่ในระยะยาว ความสำเร็จของการจัดตั้งกลุ่มเจรจา TCB/SMEs ได้พัฒนาไปสู่ความร่วมมือที่เป็น
รูปธรรม โดยปัจจุบันมีโครงการความร่วมมือมากกว่า 50 โครงการ นอกจากนี้ ความร่วมมือในกรอบ TCB/ SMEs เป็นแบบ FTA Plus กล่าวคือ ไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาต่อรอง FTA ไทย — สหรัฐฯ และสามารถเริ่มดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องรอให้การเจรจาเสร็จสิ้นก่อน
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-