ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ออกหนังสือเวียนกำหนดแนวนโยบายการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญา รายงานข่าว
จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ผู้ว่าการ ธปท.ได้ลงนามในหนังสือเวียนที่แจ้งไปยัง ธพ.ไทย
และสาขาธนาคารต่างประเทศ เรื่องของแนวนโยบายการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญา เพื่อให้ ธพ.ใช้
เป็นแนวทางในการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญา และส่งเสริมระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดี
และเพื่อให้ ธพ.มีระบบในการป้องกันความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญาและความเสี่ยงจากการโอนเงินของคู่สัญญา
รวมทั้งยังให้มีการกันเงินสำรองอย่างเพียงพอและเหมาะสม เพื่อรองรับผลที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกรรมกับกับคู่สัญญา
ที่มีภูมิลำเนาในต่างประเทศ (ผู้จัดการรายวัน)
2. ธปท.ออกหนังสือเวียนให้สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินสามารถประกอบธุรกิจเพิ่มเติมได้ รายงานข่าว
จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกหนังสือเวียนไปยัง ธพ.จดทะเบียนในประเทศทุก
ธนาคารให้ทราบว่า รมว.คลังได้เห็นชอบให้สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินสามารถประกอบธุรกิจได้เพิ่มเติมเป็นการ
ทั่วไปได้ เนื่องจากต้องการส่งเสริมให้ ธพ.เพิ่มช่องทางให้บริการกับประชาชนให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับ
ธุรกิจที่สามารถทำได้เพิ่มเติมได้แก่ การให้บริการรับส่งเอกสารและข้อมูลระหว่างลูกค้าและส่วนงานต่าง ๆ ของ
ธพ.แห่งนั้น รวมทั้งการให้บริการโอนเงินภายในประเทศ โดยผู้โอนเงินและผู้รับเงินปลายทางไม่จำเป็นต้องมีบัญชี
กับ ธพ. อย่างไรก็ตาม สำนักแลกเปลี่ยนเงินไม่สามารถให้บริการถอนเงินฝาก หักทอนบัญชีหรือโอนเงินจากบัญชี
ของลูกค้าได้ ขณะเดียวกัน หาก ธพ.ต้องการให้บริการเพิ่มเติมในสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินจะต้องกำหนดนโยบาย
และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ รวมทั้งจัดระบบควบคุมภายใน ระบบการรักษาความปลอดภัยใน
ทรัพย์สิน และระบบบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน (เดลินิวส์)
3. ก.คลัง และ เฟดร่วมเปิดเผยข้อมูลการลงทุนของนักลงทุน สรอ.ในตลาดหุ้นเอเชียช่วง 10 ปี
ก.คลัง และ ธ.กลาง สรอ.ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลการลงทุนของนักลงทุน สรอ.ในตลาดหุ้นเอเชียช่วง 10 ปี ระหว่าง
ปี 37-47 ผ่านสำนักข่าวดีพีเอของเยอรมนีวานนี้ (27 ก.พ.49) ระบุว่า สถิติการลงทุนของนักลงทุน สรอ.ใน
ตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชียรวมทั้งไทย พบว่า มีความคล่องตัวมากขึ้น พิจารณาและเปรียบเทียบได้จากจำนวน
เงินลงทุน โดยนักลงทุน สรอ.เข้าไปถือครองลงทุนระยะยาวในหลักทรัพย์ต่างประเทศพุ่งขึ้นจาก 8.71 แสนล้าน
ดอลลาร์ สรอ.ในเดือน มี.ค.37 เป็น 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.47 นอกจากนี้ ในช่วง 10 ปี
ระหว่างปี 37-47 พบว่า นักลงทุน สรอ.ลงทุนยาวเข้าไปซื้อหุ้นในตลาดไทยเพิ่มขึ้นจาก 4.7 พันล้านดอลลาร์
สรอ. เป็น 7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ขณะที่ในตลาดมาเลเซียลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 9.5 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. เป็น
1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. (กรุงเทพธุรกิจ)
4. ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือน ม.ค.49 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ผอ.สำนักงาน
เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือน ม.ค.49 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี
โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการคลังล่าสุดพบว่า ภาษีฐานรายได้ที่จัดเก็บจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ขยายตัวดี โดยขยายตัวที่ร้อยละ 13.3 ต่อปี เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 ต่อปีในปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงรายได้
ของภาคธุรกิจและประชาชนขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ในขณะที่ภาษีฐานการบริโภคจากภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวดีขึ้นที่ร้อยละ
15.8 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 14.6 ต่อปี ในเดือน ธ.ค.48 ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้ดี
เช่นกัน โดยภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ภาคบริการเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
ประกอบกับการจ้างงานในภาคบริการที่ขยายตัวดีขึ้นที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยในเดือน ธ.ค.48 หลังจากที่หดตัวร้อยละ
1.0 ในเดือน พ.ย.48 ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากความกังวลการเมือง แต่การบริโภคภาคเอกชน
ในเดือน ม.ค.49 ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งสะท้อนได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายในประเทศที่ขยายตัวสูงขึ้น
ร้อยละ 19.5 ต่อปีในเดือนม.ค.49 (สยามรัฐ, แนวหน้า)
5. ธ.ออมสินจะร่วมทุนกับสถาบันการเงินต่างประเทศออกบัตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 49 ผอ.ธ.ออมสิน
เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ธนาคารจะเปิดให้บริการบัตรเครดิตแก่ลูกค้าของธนาคารได้ โดยธนาคารจะใช้วิธี
การตั้งบริษัทลูกขึ้นมาและร่วมทุนกับสถาบันการเงินอื่นเพื่อบริหารพอร์ตบัตรเครดิตทั้งหมด ทั้งนี้ การทำธุรกิจบัตรเครดิต
ในรูปแบบนี้จะสามารถลดต้นทุนของธนาคารและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารได้มีการ
เจรจากับสถาบันการเงินต่างประเทศ 2-3 แห่ง ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน และจะสามารถสรุปผลการเจรจา
และรุกแบบการทำธุรกิจได้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 4 ตามแผนงานที่วางไว้
(ผู้จัดการรายวัน, สยามรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่าเศรษฐกิจ สรอ. ในไตรมาส 4 ปี 48 จะลดลงอย่างรุนแรงรายงานจากกรุงนิวยอร์ค ประเทศ
สรอ. เมื่อวันที่ 27 ก.พ.49 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทคาดว่า
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ สรอ. ในไตรมาส 4 ปี 48 จะลดลงอย่างรุนแรงเหลือเพียงร้อยละ 1.6 จากที่เติบโต
ร้อยละ 4.1 ในไตรมาส 3 แต่ดีขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.1 โดยสาเหตุหลักของการปรับตัว
เลขเพิ่มขึ้นในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสินค้าในร้าน ซึ่งในไตรมาส 3 มีการสต็อกสินค้าไว้เป็นจำนวนมากเนื่องจากผู้ผลิตประมาณ
ความต้องการของผู้บริโภคสูงเกินไป ในขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวกลับคืนในช่วงเริ่มต้นของปี
49 แต่อาจจะชะลอลงอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 49 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์จาก
ราคาบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนจากวอลล์สตรีทยังจับตามองอย่างใกล้ชิดสำหรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในดัชนี
ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ( core personal consumption expenditures index - core PCE)
เนื่องจาก ธ.กลาง สรอ. มักให้น้ำหนัก core PCE ในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อและเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลง
ของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจากระดับภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน ธ.กลาง สรอ. จะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้ง ในเดือน มี.ค.49 และอาจจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือน พ.ค.49 ก่อนที่จะหยุดลง
ชั่วคราว (รอยเตอร์)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ขณะที่ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ
3.1 เทียบต่อเดือน รายงานจากโตเกียวเมื่อ 28 ก.พ.49 The Ministry of Economy, Trade and Industry
(METI) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ร้อยละ 0.3 เทียบ
ต่อเดือน แต่ต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 โดย METI ได้คาดการณ์ผลผลิต
โรงงานซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผลผลิตอุตสาหกรรม ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน ก.พ.49 และจะลดลงร้อยละ
0.7 ในเดือน มี.ค.49 เทียบต่อเดือนตามลำดับ นอกจากนี้ METI เปิดเผยตัวเลขยอดขายปลีกในเดือน ม.ค.49
ว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เทียบต่อเดือน ซึ่งมีสาเหตุจากยอดขายเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวและเครื่องทำความร้อนเพิ่มขึ้น
อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในช่วงฤดูหนาว ขณะที่เมื่อเทียบต่อปียอดขายปลีกลดลงร้อยละ 0.2 แต่
ยังคงถือว่าอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง (รอยเตอร์)
3. คาดว่าในปีนี้การค้าระหว่างประเทศของจีนจะขยายตัวระหว่างร้อยละ 15 — 20 รายงานจากปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 49 รมว. กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนจะขยายตัวได้ระหว่าง
ร้อยละ 15-20 ในปีนี้ แม้ว่าจะมีข้อโต้แย้งทางการค้ารอบใหม่ก็ตาม โดยคาดว่าจะมียอดการค้าโดยรวมระหว่าง
1.63 — 1.7 ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วจีนส่งออกสินค้ามูลค่า 762 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ขณะที่
การนำเข้าอยู่ที่ระดับ 660 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้า 102 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. คาดว่าปีนี้
จีนจะเกินดุลการค้าเป็นจำนวนมากอีกครั้ง แต่ลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากความไม่สมดุลด้านการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก
ความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้น การขาดดุลการค้าของ สรอ. รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่แน่นอน นอกเหนือจากข้อโต้แย้ง
ทางการค้าระหว่างจีน สหภาพยุโรป และสรอ. ในสินค้าสิ่งทอ ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์
จากเหล็กและเหล็กกล้า เนื่องจากมีการผลิตจำนวนมากเกินไปในเชิงอุตสาหกรรมทำให้บริษัทจำเป็นต้องหาตลาดเพื่อจำหน่าย
ยังต่างประเทศ ทำให้ผู้ส่งออกของจีนต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาการทุ่มตลาด และการอุดหนุนจากภาครัฐ มูลค่ามากกว่า 5 พัน
ล. ดอลลาร์ สรอ. ในปีนี้อย่างไรก็ตามการค้าระหว่างประเทศก็ยังคงเป็นตัวจักรสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
(รอยเตอร์)
4. รอยเตอร์คาดว่ายอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 จะขยายตัวดีกว่าเดือนก่อนรายงานจากโซล
เมื่อ 27 ก.พ.49 ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่ายอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 จะขยายตัวร้อยละ 14.9 เมื่อ
เทียบกับปีก่อน หลังจากขยายตัวเพียงร้อยละ 3.8 ต่อปีในเดือน ม.ค.49 ในขณะที่คาดว่ายอดนำเข้าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.0
ต่อปีในเดือน ก.พ.49 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3 ในเดือน ม.ค.49 จากตัวเลขข้างต้นจึงคาดว่ายอดส่งออกและยอดนำเข้า
ทั้งเดือน ม.ค.และ ก.พ.49 รวมกันจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 และ 20.2 ต่อปีตามลำดับ ชะลอตัวลงจากร้อยละ 11.4 และ
14.6 ในไตรมาสสุดท้ายปี 48 โดยคาดว่าเป็นผลจากค่าเงินวอนที่สูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สรอ.เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและความต้องการในตลาดโลกที่ชะลอตัวลงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ สรอ.และความพยายามลด
ความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนทำให้การส่งออกชะลอตัวลง ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและ
การนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าสำหรับผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยนักเศรษฐศาสตร์และ
เจ้าหน้าที่รัฐนิยมนำตัวเลขของเดือน ม.ค.และ ก.พ.มารวมกันเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนของทุกปีมักตกอยู่ใน 2 เดือนนี้ และ
มีส่วนทำให้ตัวเลขการค้าของเดือนนั้น ๆ บิดเบือนไป ทั้งนี้ ก.พาณิชย์ของเกาหลีใต้มีกำหนดจะประกาศตัวเลขการค้าในเดือน
ก.พ.49 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มี.ค.49 นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งนักวิเคราะห์จะให้ความสนใจติดตามเนื่องจากเป็น
ประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่รายงานตัวเลขดังกล่าวจึงเป็นตัวชี้แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 28 ก.พ. 49 27 ก.พ. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อ
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.31 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1601/39.4465 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.34047 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 753.10/ 29.33 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,300/10,400 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 56.94 58.38 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 22 ก.พ. 49 26.44*/24.69* 26.44*/24.69* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ออกหนังสือเวียนกำหนดแนวนโยบายการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญา รายงานข่าว
จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ผู้ว่าการ ธปท.ได้ลงนามในหนังสือเวียนที่แจ้งไปยัง ธพ.ไทย
และสาขาธนาคารต่างประเทศ เรื่องของแนวนโยบายการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญา เพื่อให้ ธพ.ใช้
เป็นแนวทางในการบริหารความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญา และส่งเสริมระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตที่ดี
และเพื่อให้ ธพ.มีระบบในการป้องกันความเสี่ยงของประเทศคู่สัญญาและความเสี่ยงจากการโอนเงินของคู่สัญญา
รวมทั้งยังให้มีการกันเงินสำรองอย่างเพียงพอและเหมาะสม เพื่อรองรับผลที่อาจเกิดขึ้นจากธุรกรรมกับกับคู่สัญญา
ที่มีภูมิลำเนาในต่างประเทศ (ผู้จัดการรายวัน)
2. ธปท.ออกหนังสือเวียนให้สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินสามารถประกอบธุรกิจเพิ่มเติมได้ รายงานข่าว
จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกหนังสือเวียนไปยัง ธพ.จดทะเบียนในประเทศทุก
ธนาคารให้ทราบว่า รมว.คลังได้เห็นชอบให้สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินสามารถประกอบธุรกิจได้เพิ่มเติมเป็นการ
ทั่วไปได้ เนื่องจากต้องการส่งเสริมให้ ธพ.เพิ่มช่องทางให้บริการกับประชาชนให้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับ
ธุรกิจที่สามารถทำได้เพิ่มเติมได้แก่ การให้บริการรับส่งเอกสารและข้อมูลระหว่างลูกค้าและส่วนงานต่าง ๆ ของ
ธพ.แห่งนั้น รวมทั้งการให้บริการโอนเงินภายในประเทศ โดยผู้โอนเงินและผู้รับเงินปลายทางไม่จำเป็นต้องมีบัญชี
กับ ธพ. อย่างไรก็ตาม สำนักแลกเปลี่ยนเงินไม่สามารถให้บริการถอนเงินฝาก หักทอนบัญชีหรือโอนเงินจากบัญชี
ของลูกค้าได้ ขณะเดียวกัน หาก ธพ.ต้องการให้บริการเพิ่มเติมในสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินจะต้องกำหนดนโยบาย
และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ รวมทั้งจัดระบบควบคุมภายใน ระบบการรักษาความปลอดภัยใน
ทรัพย์สิน และระบบบริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน (เดลินิวส์)
3. ก.คลัง และ เฟดร่วมเปิดเผยข้อมูลการลงทุนของนักลงทุน สรอ.ในตลาดหุ้นเอเชียช่วง 10 ปี
ก.คลัง และ ธ.กลาง สรอ.ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลการลงทุนของนักลงทุน สรอ.ในตลาดหุ้นเอเชียช่วง 10 ปี ระหว่าง
ปี 37-47 ผ่านสำนักข่าวดีพีเอของเยอรมนีวานนี้ (27 ก.พ.49) ระบุว่า สถิติการลงทุนของนักลงทุน สรอ.ใน
ตลาดหุ้นทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชียรวมทั้งไทย พบว่า มีความคล่องตัวมากขึ้น พิจารณาและเปรียบเทียบได้จากจำนวน
เงินลงทุน โดยนักลงทุน สรอ.เข้าไปถือครองลงทุนระยะยาวในหลักทรัพย์ต่างประเทศพุ่งขึ้นจาก 8.71 แสนล้าน
ดอลลาร์ สรอ.ในเดือน มี.ค.37 เป็น 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.47 นอกจากนี้ ในช่วง 10 ปี
ระหว่างปี 37-47 พบว่า นักลงทุน สรอ.ลงทุนยาวเข้าไปซื้อหุ้นในตลาดไทยเพิ่มขึ้นจาก 4.7 พันล้านดอลลาร์
สรอ. เป็น 7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ขณะที่ในตลาดมาเลเซียลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 9.5 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. เป็น
1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ สรอ. (กรุงเทพธุรกิจ)
4. ภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือน ม.ค.49 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ผอ.สำนักงาน
เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังโดยรวมในเดือน ม.ค.49 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี
โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการคลังล่าสุดพบว่า ภาษีฐานรายได้ที่จัดเก็บจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
ขยายตัวดี โดยขยายตัวที่ร้อยละ 13.3 ต่อปี เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 13.1 ต่อปีในปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงรายได้
ของภาคธุรกิจและประชาชนขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ในขณะที่ภาษีฐานการบริโภคจากภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวดีขึ้นที่ร้อยละ
15.8 ต่อปี เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 14.6 ต่อปี ในเดือน ธ.ค.48 ซึ่งสะท้อนถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้ดี
เช่นกัน โดยภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ภาคบริการเริ่มปรับตัวดีขึ้นจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ
ประกอบกับการจ้างงานในภาคบริการที่ขยายตัวดีขึ้นที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี โดยในเดือน ธ.ค.48 หลังจากที่หดตัวร้อยละ
1.0 ในเดือน พ.ย.48 ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงจากความกังวลการเมือง แต่การบริโภคภาคเอกชน
ในเดือน ม.ค.49 ยังขยายตัวได้ดี ซึ่งสะท้อนได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายในประเทศที่ขยายตัวสูงขึ้น
ร้อยละ 19.5 ต่อปีในเดือนม.ค.49 (สยามรัฐ, แนวหน้า)
5. ธ.ออมสินจะร่วมทุนกับสถาบันการเงินต่างประเทศออกบัตรเครดิตในไตรมาส 4 ปี 49 ผอ.ธ.ออมสิน
เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ธนาคารจะเปิดให้บริการบัตรเครดิตแก่ลูกค้าของธนาคารได้ โดยธนาคารจะใช้วิธี
การตั้งบริษัทลูกขึ้นมาและร่วมทุนกับสถาบันการเงินอื่นเพื่อบริหารพอร์ตบัตรเครดิตทั้งหมด ทั้งนี้ การทำธุรกิจบัตรเครดิต
ในรูปแบบนี้จะสามารถลดต้นทุนของธนาคารและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารได้มีการ
เจรจากับสถาบันการเงินต่างประเทศ 2-3 แห่ง ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีน และไต้หวัน และจะสามารถสรุปผลการเจรจา
และรุกแบบการทำธุรกิจได้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 4 ตามแผนงานที่วางไว้
(ผู้จัดการรายวัน, สยามรัฐ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่าเศรษฐกิจ สรอ. ในไตรมาส 4 ปี 48 จะลดลงอย่างรุนแรงรายงานจากกรุงนิวยอร์ค ประเทศ
สรอ. เมื่อวันที่ 27 ก.พ.49 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีทคาดว่า
อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของ สรอ. ในไตรมาส 4 ปี 48 จะลดลงอย่างรุนแรงเหลือเพียงร้อยละ 1.6 จากที่เติบโต
ร้อยละ 4.1 ในไตรมาส 3 แต่ดีขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.1 โดยสาเหตุหลักของการปรับตัว
เลขเพิ่มขึ้นในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสินค้าในร้าน ซึ่งในไตรมาส 3 มีการสต็อกสินค้าไว้เป็นจำนวนมากเนื่องจากผู้ผลิตประมาณ
ความต้องการของผู้บริโภคสูงเกินไป ในขณะที่ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวกลับคืนในช่วงเริ่มต้นของปี
49 แต่อาจจะชะลอลงอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 49 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์จาก
ราคาบ้านที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ นักลงทุนจากวอลล์สตรีทยังจับตามองอย่างใกล้ชิดสำหรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในดัชนี
ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ( core personal consumption expenditures index - core PCE)
เนื่องจาก ธ.กลาง สรอ. มักให้น้ำหนัก core PCE ในการคำนวณอัตราเงินเฟ้อและเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลง
ของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจากระดับภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบัน ธ.กลาง สรอ. จะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 1 ครั้ง ในเดือน มี.ค.49 และอาจจะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือน พ.ค.49 ก่อนที่จะหยุดลง
ชั่วคราว (รอยเตอร์)
2. ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ขณะที่ยอดขายปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ
3.1 เทียบต่อเดือน รายงานจากโตเกียวเมื่อ 28 ก.พ.49 The Ministry of Economy, Trade and Industry
(METI) เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ม.ค.49 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนที่ร้อยละ 0.3 เทียบ
ต่อเดือน แต่ต่ำกว่าความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 โดย METI ได้คาดการณ์ผลผลิต
โรงงานซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผลผลิตอุตสาหกรรม ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในเดือน ก.พ.49 และจะลดลงร้อยละ
0.7 ในเดือน มี.ค.49 เทียบต่อเดือนตามลำดับ นอกจากนี้ METI เปิดเผยตัวเลขยอดขายปลีกในเดือน ม.ค.49
ว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เทียบต่อเดือน ซึ่งมีสาเหตุจากยอดขายเสื้อผ้าสำหรับฤดูหนาวและเครื่องทำความร้อนเพิ่มขึ้น
อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นผิดปกติในช่วงฤดูหนาว ขณะที่เมื่อเทียบต่อปียอดขายปลีกลดลงร้อยละ 0.2 แต่
ยังคงถือว่าอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง (รอยเตอร์)
3. คาดว่าในปีนี้การค้าระหว่างประเทศของจีนจะขยายตัวระหว่างร้อยละ 15 — 20 รายงานจากปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 49 รมว. กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า การค้าระหว่างประเทศของจีนจะขยายตัวได้ระหว่าง
ร้อยละ 15-20 ในปีนี้ แม้ว่าจะมีข้อโต้แย้งทางการค้ารอบใหม่ก็ตาม โดยคาดว่าจะมียอดการค้าโดยรวมระหว่าง
1.63 — 1.7 ล้าน ล้าน ดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วจีนส่งออกสินค้ามูลค่า 762 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ขณะที่
การนำเข้าอยู่ที่ระดับ 660 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้า 102 พัน ล. ดอลลาร์ สรอ. คาดว่าปีนี้
จีนจะเกินดุลการค้าเป็นจำนวนมากอีกครั้ง แต่ลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากความไม่สมดุลด้านการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก
ความขัดแย้งทางการค้าที่เพิ่มขึ้น การขาดดุลการค้าของ สรอ. รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่แน่นอน นอกเหนือจากข้อโต้แย้ง
ทางการค้าระหว่างจีน สหภาพยุโรป และสรอ. ในสินค้าสิ่งทอ ชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์เคมี ผลิตภัณฑ์
จากเหล็กและเหล็กกล้า เนื่องจากมีการผลิตจำนวนมากเกินไปในเชิงอุตสาหกรรมทำให้บริษัทจำเป็นต้องหาตลาดเพื่อจำหน่าย
ยังต่างประเทศ ทำให้ผู้ส่งออกของจีนต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาการทุ่มตลาด และการอุดหนุนจากภาครัฐ มูลค่ามากกว่า 5 พัน
ล. ดอลลาร์ สรอ. ในปีนี้อย่างไรก็ตามการค้าระหว่างประเทศก็ยังคงเป็นตัวจักรสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน
(รอยเตอร์)
4. รอยเตอร์คาดว่ายอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 จะขยายตัวดีกว่าเดือนก่อนรายงานจากโซล
เมื่อ 27 ก.พ.49 ผลสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่ายอดส่งออกของเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 จะขยายตัวร้อยละ 14.9 เมื่อ
เทียบกับปีก่อน หลังจากขยายตัวเพียงร้อยละ 3.8 ต่อปีในเดือน ม.ค.49 ในขณะที่คาดว่ายอดนำเข้าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.0
ต่อปีในเดือน ก.พ.49 หลังจากเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.3 ในเดือน ม.ค.49 จากตัวเลขข้างต้นจึงคาดว่ายอดส่งออกและยอดนำเข้า
ทั้งเดือน ม.ค.และ ก.พ.49 รวมกันจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.5 และ 20.2 ต่อปีตามลำดับ ชะลอตัวลงจากร้อยละ 11.4 และ
14.6 ในไตรมาสสุดท้ายปี 48 โดยคาดว่าเป็นผลจากค่าเงินวอนที่สูงขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 8 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์
สรอ.เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและความต้องการในตลาดโลกที่ชะลอตัวลงจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ สรอ.และความพยายามลด
ความร้อนแรงทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนทำให้การส่งออกชะลอตัวลง ในขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและ
การนำเข้าเครื่องจักรและสินค้าสำหรับผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว โดยนักเศรษฐศาสตร์และ
เจ้าหน้าที่รัฐนิยมนำตัวเลขของเดือน ม.ค.และ ก.พ.มารวมกันเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนของทุกปีมักตกอยู่ใน 2 เดือนนี้ และ
มีส่วนทำให้ตัวเลขการค้าของเดือนนั้น ๆ บิดเบือนไป ทั้งนี้ ก.พาณิชย์ของเกาหลีใต้มีกำหนดจะประกาศตัวเลขการค้าในเดือน
ก.พ.49 อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มี.ค.49 นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งนักวิเคราะห์จะให้ความสนใจติดตามเนื่องจากเป็น
ประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียที่รายงานตัวเลขดังกล่าวจึงเป็นตัวชี้แนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 28 ก.พ. 49 27 ก.พ. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข้อ
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 39.31 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 39.1601/39.4465 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.34047 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 753.10/ 29.33 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,300/10,400 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 56.94 58.38 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 22 ก.พ. 49 26.44*/24.69* 26.44*/24.69* 19.69/14.59 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--