กรุงเทพ--24 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เสนอชื่อ ดร. สายสุรี จุติกุล เพื่อสมัครเข้ารับตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกประติบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Committee on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women-CEDAW) วาระปี 2550-2553 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในระหว่างการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ ในวันที่ 23 มิถุนายน 2549 ที่นครนิวยอร์ก ซึ่งจะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 12 ตำแหน่ง และขณะนี้มีผู้สมัครจากประเทศต่างๆ แล้ว 23 ประเทศ
ในการนี้ ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อแนะนำตัว ดร. สายสุรี จุติกุล ผู้สมัครของไทยต่อคณะทูตประเทศต่างๆ ในวันที่ 23 มีนาคม 2549 ณ ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ดร. สายสุรี จุติกุล เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านเด็กและสตรีเป็นอย่างดี โดยได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศมาโดยตลอด เช่น เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบในเรื่องเด็กและสตรีในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน และปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิงซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติ นอกจากนั้น ดร. สายสุรีฯ ยังเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ โดยเคยลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะกรรมการสิทธิเด็ก ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child-CRC) สำหรับวาระปี 2544-2548
อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกประติบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women-CEDAW) เป็นหนึ่งในอนุสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชนในกรอบสหประชาชาติ ได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2522 โดยในขณะนี้มีประเทศที่เป็นภาคีอนุสัญญาฯ ทั้งสิ้นจำนวน 181 ประเทศ โดยไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าวโดยการภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2528 และอนุสัญญาฯ นี้มีผลบังคับใช้กับไทยตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2528
คณะกรรมการ CEDAW เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 17 ของอนุสัญญา CEDAW เพื่อติดตามตรวจสอบการดำเนินงานตามอนุสัญญา CEDAW ของรัฐภาคี ประกอบด้วยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสตรีจากภูมิภาคต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 23 คน ทั้งนี้ กรรมการ CEDAW จะต้องได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐภาคีอนุสัญญาฯ แต่เมื่อได้รับการเลือกตั้งแล้วจะทำงานในฐานะส่วนบุคคล (personal capacity) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี
ไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี รวมทั้งอนุสัญญา CEDAW และได้รายงานการปฏิบัติตามพันธกรณีมาเป็นลำดับ โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 คณะผู้แทนไทยได้เดินทางไปนำเสนอรายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญา CEDAW ฉบับที่ 4 และ 5 (ฉบับรวม) ต่อคณะกรรมการ CEDAW ที่นครนิวยอร์ก โดยมีนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหัวหน้าคณะ ทั้งนี้ ไทยมีกำหนดที่จะต้องนำเสนอรายงานฉบับที่ 6 และ 7 (ฉบับรวม) ต่อคณะกรรมการ CEDAW ในปี 2553 ปัจจุบันไม่มีคนไทยดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนฉบับใด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เสนอชื่อ ดร. สายสุรี จุติกุล เพื่อสมัครเข้ารับตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกประติบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Committee on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women-CEDAW) วาระปี 2550-2553 ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในระหว่างการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ ในวันที่ 23 มิถุนายน 2549 ที่นครนิวยอร์ก ซึ่งจะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 12 ตำแหน่ง และขณะนี้มีผู้สมัครจากประเทศต่างๆ แล้ว 23 ประเทศ
ในการนี้ ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองเพื่อแนะนำตัว ดร. สายสุรี จุติกุล ผู้สมัครของไทยต่อคณะทูตประเทศต่างๆ ในวันที่ 23 มีนาคม 2549 ณ ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ดร. สายสุรี จุติกุล เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านเด็กและสตรีเป็นอย่างดี โดยได้ปฏิบัติภารกิจเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศมาโดยตลอด เช่น เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบในเรื่องเด็กและสตรีในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน และปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการประสานการแก้ไขปัญหาการค้าเด็กและหญิงซึ่งเป็นคณะกรรมการระดับชาติ นอกจากนั้น ดร. สายสุรีฯ ยังเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ โดยเคยลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะกรรมการสิทธิเด็ก ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child-CRC) สำหรับวาระปี 2544-2548
อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกประติบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination Against Women-CEDAW) เป็นหนึ่งในอนุสัญญาหลักด้านสิทธิมนุษยชนในกรอบสหประชาชาติ ได้รับการรับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2522 โดยในขณะนี้มีประเทศที่เป็นภาคีอนุสัญญาฯ ทั้งสิ้นจำนวน 181 ประเทศ โดยไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าวโดยการภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2528 และอนุสัญญาฯ นี้มีผลบังคับใช้กับไทยตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2528
คณะกรรมการ CEDAW เป็นคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 17 ของอนุสัญญา CEDAW เพื่อติดตามตรวจสอบการดำเนินงานตามอนุสัญญา CEDAW ของรัฐภาคี ประกอบด้วยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสตรีจากภูมิภาคต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 23 คน ทั้งนี้ กรรมการ CEDAW จะต้องได้รับการเสนอชื่อโดยรัฐภาคีอนุสัญญาฯ แต่เมื่อได้รับการเลือกตั้งแล้วจะทำงานในฐานะส่วนบุคคล (personal capacity) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี
ไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี รวมทั้งอนุสัญญา CEDAW และได้รายงานการปฏิบัติตามพันธกรณีมาเป็นลำดับ โดยเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2549 คณะผู้แทนไทยได้เดินทางไปนำเสนอรายงานการปฏิบัติตามอนุสัญญา CEDAW ฉบับที่ 4 และ 5 (ฉบับรวม) ต่อคณะกรรมการ CEDAW ที่นครนิวยอร์ก โดยมีนายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นหัวหน้าคณะ ทั้งนี้ ไทยมีกำหนดที่จะต้องนำเสนอรายงานฉบับที่ 6 และ 7 (ฉบับรวม) ต่อคณะกรรมการ CEDAW ในปี 2553 ปัจจุบันไม่มีคนไทยดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนฉบับใด
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-