ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เตรียมเปลี่ยนเครื่องมือส่งสัญญาณนโยบายการเงินจากใช้อาร์พี 14 วัน เป็นอาร์พี 1 วันตั้งแต่ปีหน้า ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังศึกษาที่จะเปลี่ยนแปลงเครื่องมือนโยบายการเงิน จากปัจจุบันที่ใช้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืน
พันธบัตร (อาร์พี) ระยะ 14 วัน เป็นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อพันธบัตรระยะ 1 วันแทน อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาว่ารูปแบบใดเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เพราะในต่างประเทศก็มีทั้งที่ใช้ดอกเบี้ยซื้อคืน 14 วัน และ 1 วัน โดยอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืน 1 วัน เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ ธปท.สามารถดูแล
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น เพราะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สะท้อนถึงภาวะการปรับสภาพคล่องได้ดีที่สุด ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย
อาร์พี 14 วัน ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 5 ส่วนอัตราดอกเบี้ยระยะ 1 วัน วานนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.875 ลดลงเมื่อเทียบกับวันที่ 23 พ.ย.ที่อยู่ระดับร้อยละ
4.90 อย่างไรก็ตาม แผนการปฏิรูปกรอบนโยบายการเงินดังกล่าว จะต้องให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาก่อนจึงจะสามารถ
ดำเนินการได้ โดยคาดว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ในการประชุม กนง. ครั้งแรกของปี 50 (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้,
โพสต์ทูเดย์, เดลินิวส์, บ้านเมือง, แนวหน้า)
2. ธปท.เผยสาเหตุเงินบาทแข็งค่าเนื่องจากต่างชาติเก็งกำไร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ระดับของค่าเงินบาทในขณะนี้แข็งค่าขึ้นเร็วเกินไป ซึ่งเป็นการแข็งค่าขึ้นเร็วกว่าปัจจัยพื้นฐานของ
เศรษฐกิจไทย โดยเงินทุนที่ไหลเข้ามาส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ทำให้ ธปท.เริ่มกังวลกับเงินทุนไหลเข้าดังกล่าว
โดยค่าเงินบาทวานนี้ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเก็งกำไรค่าเงินของนักลงทุนต่างชาติซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่ค่าเงินดอลลาร์
สรอ. อยู่ในช่วงอ่อนค่าลงโดยเปิดตลาดที่ระดับ 36.04-36.09 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. และปิดตลาดที่ระดับ 35.96-35.98 บาทต่อดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าสุดของวัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันค่าเงินบาทได้ถูกเข้าแทรกแซงทำให้เงินบาทชะลอการแข็งค่า ทำให้การแข็งค่า
เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, มติชน, สยามรัฐ, ข่าวสด)
3. ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.49 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจในเดือน ต.ค.49 ว่า ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยในด้านอุปสงค์ ดัชนีการบริโภค
ขยายตัวร้อยละ 1.3 จากปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 2.0 เนื่องจากผลกระทบด้านน้ำท่วมที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จนกระทบกับ
รายได้ของประชาชน แต่ในด้านความเชื่อมั่นก็มีการปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่วนดัชนีการลงทุนภาคเอกชนในเดือน
ต.ค.ขยายตัวร้อยละ 1.0 จากปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 1.5 ซึ่งการชะลอตัวเนื่องมาจากนักลงทุนยังรอดูนโยบายของ
รัฐบาลอยู่ เพราะแม้จะได้รัฐบาลชุดใหม่ แต่ยังไม่มีการประกาศนโยบายในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนก็ยังคงขยายตัวได้จากการที่
แนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวลดลง อัตราดอกเบี้ยทรงตัว และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนนี้อยู่ที่ระดับ
44.6 ซึ่งเป็นระดับที่ยังแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ไม่ดี แต่ก็มีระดับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 43.5 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นในระยะ 3 เดือนข้างหน้าที่อยู่ที่ระดับ 53
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ประกอบการมีความมั่นใจในเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทรงตัวขณะเดียวกัน
หากพิจารณาด้านอุปทาน ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ย.ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 5.4 ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว
ร้อยละ 5.7 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากร้อยละ 73.6 ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 72.6 (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีของสรอ.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. รายงานจากวอชิงตัน
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 49 ผลการสำรวจของบริษัทสินเชื่อจำนอง Freddie Mac ชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสรอ.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วลดลงอย่าง
ต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.14 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค.ที่อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.18
เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 15 ปีอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 5.87 ลดลงจากร้อยละ 5.91 รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา
1 ปีที่ปรับได้ (ARM) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 5.46 ลดลงจากร้อยละ 5.49 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา 30 ปี 15 ปี และ ARM อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.26 5.81 และ 5.16 ตามลำดับ ซึ่งนาย
Frank Nothaft รองประธานบริษัทสินเชื่อจำนอง Freddie Mac กล่าวว่าคำขอสินเชื่อซื้อบ้านในเดือนพ.ย. ยังคงขยายตัวส่วนใหญ่เนื่องจาก
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ลดลงและราคาบ้านลดลงในบางท้องถิ่น.(รอยเตอร์)
2. คาดว่าอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 5.0 ในเดือน ธ.ค.49 รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.49 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ไว้ที่ระดับร้อยละ 5.0 ในการประชุมเดือน ธ.ค.49 และอาจจะคงอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวและ
อัตราเงินเฟ้อลดลง แต่หากมีสัญญาณการปรับขึ้นค่าจ้างก็อาจกระตุ้นให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 50 อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการ
ติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรกปีหน้าหรือไม่ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีมุมมองว่า
ธ.กลาง สรอ. อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ร้อยละ 32 ของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 5.25 ภาย
ในสิ้นเดือน มี.ค.50 ขณะที่ร้อยละ 34 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ในระดับปัจจุบันในเดือน มี.ค. ไปจนถึงกลางปี 50 (รอยเตอร์)
3. จำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือน พ.ย.49 ลดลงต่ำกว่า 4 ล้านคน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี รายงานจาก
กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 30 พ.ย.49 รายงานของทางการเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือน พ.ย.49
ลดลงเหลือ 3.995 ล้านคน จาก 4.071 ล้านคน ในเดือน ต.ค.49 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 4 ล้านคน นับตั้งแต่เดือน ต.ค.45
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงยอดรวมที่ปรับตัวเลขแล้วสำหรับช่วง 8 เดือน ลดลง 86,000 คน อยู่ที่ระดับ 4.245 ล้านคน คิดเป็น
อัตราการว่างงานร้อยละ 10.2 ลดลงต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มากว่าจะลดลงเพียง 30,000 คน ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็น
ของบริษัท 2,025 แห่ง ชี้ว่า ร้อยละ 28.8 ของบริษัทที่ถูกสำรวจกล่าวว่าจะจ้างงานเพิ่มขึ้นในปี 50 ขณะที่ร้อยละ 18.2 มีแผนที่จะปรับลดพนักงาน
ลง (รอยเตอร์)
4. เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวเพิ่มขึ้นทำให้คาดว่าธ.กลางอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
รายงานจากกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 49 ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวร้อยละ 1.1
เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 0.8 และร้อยละ 1.2 ในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 1 ตามลำดับ และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว
เพียงร้อยละ 0.9 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวร้อยละ 4.8 (ตัวเลขที่ปรับแล้ว) ชะลอตัวจากร้อยละ 5.3
และร้อยละ 6.1 ในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสแรก ตามลำดับ ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเห็นว่า ธ.กลางมีความวิตกเรื่องการขยายตัวอย่างร้อน
แรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่นที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการเงิน และภาคครัวเรือน ดังนั้นการที่ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ
ไตรมาสที่ 3 ที่ดีขึ้นจะทำให้ ธ.กลางไม่ต้องวิตกมากนักหากจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดกั้นความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อ
มีความจำเป็น ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงเดือน ต.ค.ปีที่แล้วถึงเดือน ส.ค.ปีนี้ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 5 ครั้งส่งผลให้
อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันเป็นร้อยละ 4.50 สูงที่สุดในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตามทั้ง ธ.กลาง และรมว.คลังต่างมีความเห็นสอดคล้องกันว่า
เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปีหน้าจะชะลอตัว หลังจากขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.0 เมื่อปีที่แล้ว (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 1 ธ.ค. 49 30 พ.ย. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อม
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 36.019 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 35.8471/36.1467 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.06/21.80 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,900/11,000 10,800/10,900 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 60.21 58.59 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 14 พ.ย. 49 25.69*/23.84 25.69*/23.84 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.เตรียมเปลี่ยนเครื่องมือส่งสัญญาณนโยบายการเงินจากใช้อาร์พี 14 วัน เป็นอาร์พี 1 วันตั้งแต่ปีหน้า ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังศึกษาที่จะเปลี่ยนแปลงเครื่องมือนโยบายการเงิน จากปัจจุบันที่ใช้อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืน
พันธบัตร (อาร์พี) ระยะ 14 วัน เป็นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อพันธบัตรระยะ 1 วันแทน อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาว่ารูปแบบใดเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เพราะในต่างประเทศก็มีทั้งที่ใช้ดอกเบี้ยซื้อคืน 14 วัน และ 1 วัน โดยอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืน 1 วัน เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ ธปท.สามารถดูแล
ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอัตราดอกเบี้ยประเภทอื่น เพราะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สะท้อนถึงภาวะการปรับสภาพคล่องได้ดีที่สุด ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย
อาร์พี 14 วัน ขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 5 ส่วนอัตราดอกเบี้ยระยะ 1 วัน วานนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.875 ลดลงเมื่อเทียบกับวันที่ 23 พ.ย.ที่อยู่ระดับร้อยละ
4.90 อย่างไรก็ตาม แผนการปฏิรูปกรอบนโยบายการเงินดังกล่าว จะต้องให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาก่อนจึงจะสามารถ
ดำเนินการได้ โดยคาดว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ในการประชุม กนง. ครั้งแรกของปี 50 (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โลกวันนี้,
โพสต์ทูเดย์, เดลินิวส์, บ้านเมือง, แนวหน้า)
2. ธปท.เผยสาเหตุเงินบาทแข็งค่าเนื่องจากต่างชาติเก็งกำไร ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ระดับของค่าเงินบาทในขณะนี้แข็งค่าขึ้นเร็วเกินไป ซึ่งเป็นการแข็งค่าขึ้นเร็วกว่าปัจจัยพื้นฐานของ
เศรษฐกิจไทย โดยเงินทุนที่ไหลเข้ามาส่วนหนึ่งเป็นเงินทุนที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ทำให้ ธปท.เริ่มกังวลกับเงินทุนไหลเข้าดังกล่าว
โดยค่าเงินบาทวานนี้ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการเก็งกำไรค่าเงินของนักลงทุนต่างชาติซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มที่ค่าเงินดอลลาร์
สรอ. อยู่ในช่วงอ่อนค่าลงโดยเปิดตลาดที่ระดับ 36.04-36.09 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. และปิดตลาดที่ระดับ 35.96-35.98 บาทต่อดอลลาร์
สรอ. ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าสุดของวัน อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันค่าเงินบาทได้ถูกเข้าแทรกแซงทำให้เงินบาทชะลอการแข็งค่า ทำให้การแข็งค่า
เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป (กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน, โพสต์ทูเดย์, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, มติชน, สยามรัฐ, ข่าวสด)
3. ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.49 ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจในเดือน ต.ค.49 ว่า ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยในด้านอุปสงค์ ดัชนีการบริโภค
ขยายตัวร้อยละ 1.3 จากปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 2.0 เนื่องจากผลกระทบด้านน้ำท่วมที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง จนกระทบกับ
รายได้ของประชาชน แต่ในด้านความเชื่อมั่นก็มีการปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่วนดัชนีการลงทุนภาคเอกชนในเดือน
ต.ค.ขยายตัวร้อยละ 1.0 จากปีก่อน ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 1.5 ซึ่งการชะลอตัวเนื่องมาจากนักลงทุนยังรอดูนโยบายของ
รัฐบาลอยู่ เพราะแม้จะได้รัฐบาลชุดใหม่ แต่ยังไม่มีการประกาศนโยบายในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนก็ยังคงขยายตัวได้จากการที่
แนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวลดลง อัตราดอกเบี้ยทรงตัว และความเชื่อมั่นนักลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนนี้อยู่ที่ระดับ
44.6 ซึ่งเป็นระดับที่ยังแสดงถึงความเชื่อมั่นที่ไม่ดี แต่ก็มีระดับความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 43.5 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นในระยะ 3 เดือนข้างหน้าที่อยู่ที่ระดับ 53
ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ประกอบการมีความมั่นใจในเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันที่ทรงตัวขณะเดียวกัน
หากพิจารณาด้านอุปทาน ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.ย.ขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 5.4 ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว
ร้อยละ 5.7 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากร้อยละ 73.6 ในเดือนก่อน มาอยู่ที่ร้อยละ 72.6 (กรุงเทพธุรกิจ)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีของสรอ.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. รายงานจากวอชิงตัน
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 49 ผลการสำรวจของบริษัทสินเชื่อจำนอง Freddie Mac ชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองของสรอ.เมื่อสัปดาห์ที่แล้วลดลงอย่าง
ต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 30 ปีอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.14 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ม.ค.ที่อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.18
เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะ 15 ปีอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 5.87 ลดลงจากร้อยละ 5.91 รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา
1 ปีที่ปรับได้ (ARM) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วอยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 5.46 ลดลงจากร้อยละ 5.49 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองระยะเวลา 30 ปี 15 ปี และ ARM อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 6.26 5.81 และ 5.16 ตามลำดับ ซึ่งนาย
Frank Nothaft รองประธานบริษัทสินเชื่อจำนอง Freddie Mac กล่าวว่าคำขอสินเชื่อซื้อบ้านในเดือนพ.ย. ยังคงขยายตัวส่วนใหญ่เนื่องจาก
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ลดลงและราคาบ้านลดลงในบางท้องถิ่น.(รอยเตอร์)
2. คาดว่าอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 5.0 ในเดือน ธ.ค.49 รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.49 สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ไว้ที่ระดับร้อยละ 5.0 ในการประชุมเดือน ธ.ค.49 และอาจจะคงอยู่ในระดับนี้ไปจนถึงปีหน้า เนื่องจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวและ
อัตราเงินเฟ้อลดลง แต่หากมีสัญญาณการปรับขึ้นค่าจ้างก็อาจกระตุ้นให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 50 อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องมีการ
ติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรกปีหน้าหรือไม่ เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวที่มีมุมมองว่า
ธ.กลาง สรอ. อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ร้อยละ 32 ของนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 5.25 ภาย
ในสิ้นเดือน มี.ค.50 ขณะที่ร้อยละ 34 คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงที่ในระดับปัจจุบันในเดือน มี.ค. ไปจนถึงกลางปี 50 (รอยเตอร์)
3. จำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือน พ.ย.49 ลดลงต่ำกว่า 4 ล้านคน เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี รายงานจาก
กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 30 พ.ย.49 รายงานของทางการเยอรมนีเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานของเยอรมนีในเดือน พ.ย.49
ลดลงเหลือ 3.995 ล้านคน จาก 4.071 ล้านคน ในเดือน ต.ค.49 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 4 ล้านคน นับตั้งแต่เดือน ต.ค.45
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงยอดรวมที่ปรับตัวเลขแล้วสำหรับช่วง 8 เดือน ลดลง 86,000 คน อยู่ที่ระดับ 4.245 ล้านคน คิดเป็น
อัตราการว่างงานร้อยละ 10.2 ลดลงต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้มากว่าจะลดลงเพียง 30,000 คน ในขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็น
ของบริษัท 2,025 แห่ง ชี้ว่า ร้อยละ 28.8 ของบริษัทที่ถูกสำรวจกล่าวว่าจะจ้างงานเพิ่มขึ้นในปี 50 ขณะที่ร้อยละ 18.2 มีแผนที่จะปรับลดพนักงาน
ลง (รอยเตอร์)
4. เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวเพิ่มขึ้นทำให้คาดว่าธ.กลางอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
รายงานจากกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 49 ธ.กลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจเกาหลีใต้ขยายตัวร้อยละ 1.1
เพิ่มขึ้นจากที่ขยายตัวร้อยละ 0.8 และร้อยละ 1.2 ในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 1 ตามลำดับ และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว
เพียงร้อยละ 0.9 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาสที่ 3 ขยายตัวร้อยละ 4.8 (ตัวเลขที่ปรับแล้ว) ชะลอตัวจากร้อยละ 5.3
และร้อยละ 6.1 ในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสแรก ตามลำดับ ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์หลายคนเห็นว่า ธ.กลางมีความวิตกเรื่องการขยายตัวอย่างร้อน
แรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในท้องถิ่นที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการเงิน และภาคครัวเรือน ดังนั้นการที่ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ
ไตรมาสที่ 3 ที่ดีขึ้นจะทำให้ ธ.กลางไม่ต้องวิตกมากนักหากจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดกั้นความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์เมื่อ
มีความจำเป็น ซึ่งที่ผ่านมาในช่วงเดือน ต.ค.ปีที่แล้วถึงเดือน ส.ค.ปีนี้ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 5 ครั้งส่งผลให้
อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันเป็นร้อยละ 4.50 สูงที่สุดในรอบ 5 ปี อย่างไรก็ตามทั้ง ธ.กลาง และรมว.คลังต่างมีความเห็นสอดคล้องกันว่า
เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในปีหน้าจะชะลอตัว หลังจากขยายตัวร้อยละ 5.0 ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.0 เมื่อปีที่แล้ว (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 1 ธ.ค. 49 30 พ.ย. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อม
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 36.019 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 35.8471/36.1467 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.06/21.80 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,900/11,000 10,800/10,900 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 60.21 58.59 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 14 พ.ย. 49 25.69*/23.84 25.69*/23.84 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--