เคยเขียนเรื่องหวยบนดินเมื่อครั้งตั้งรัฐบาลใหม่ๆ โดยขณะนั้นปลัดกระทรวงยุติธรรมได้จุดประเด็นเรื่องการยกเลิกรางวัลใหญ่ (แจ๊กพอต) ขึ้นมา ผมได้ชี้ว่า ปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับหวยจะทำให้รัฐบาลต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่สำคัญในเชิงนโยบาย มาถึงวันนี้ หลังจากที่คณะ กรรมการกฤษฎีกาตีความว่า การออกหวยบนดินที่ผ่านมาผิดกฎหมาย และรัฐบาลได้กล่าวโทษผู้เกี่ยวข้องพร้อมๆกับพยายามผลักดันกฎหมายเพื่อรองรับหวยบนดิน แต่เมื่อฟังเสียงคัดค้านจากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ก็ได้ตัดสินใจถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกมาเพื่อปรับปรุงแก้ไข ประเด็นหวยบนดินคงจะเป็นที่ถกเถียงกันต่อไป และเป็นบททดสอบรัฐบาลอีกครั้ง
การถอนร่างกฎหมายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลใส่ใจต่อเสียงท้วงติง และเป็นโอกาสดีที่จะได้สะสางปัญหาต่างๆที่ควรจะมีความชัดเจน โดยเฉพาะแง่มุมต่างๆที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
๑. ประเด็นความชอบด้วยกฎหมายและความเหมาะสมของสลากประเภทต่างๆ ในส่วนของกฎหมายนั้น รัฐบาลควรทำความชัดเจนในเรื่องของหวยตู้ หรือ หวยออนไลน์ ว่าสถานะทางกฎหมายที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะหากรัฐบาลไม่มีอำนาจจะให้สัมปทานตั้งแต่ต้น ก็ต้องนำมาทบทวนกันใหม่หมด และต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้อนุมัติ รวมทั้งหาข้อยุติเรื่องสิทธิของคู่สัญญาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เพราะการเดินหน้าโครงการนี้ โดยเฉพาะหากอนุญาตให้บริษัทที่รับสัมปทานขายเลข ๒ ตัว ๓ ตัวได้ จะทำให้การลดการเล่นหวย หรือ การป้องกันเด็ก และเยาวชน ไม่ให้เล่นหวยเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นอกจากนี้ ยังมีกรณีสลากของธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งทำให้มีการเพิ่มงวดหวยไปในตัว รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้จัดระเบียบการออกสลากของทุกหน่วยงาน โดยอาจใช้วิธีการออกเลขร่วมกัน
๒.ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างหวยบนดินกับหวยใต้ดิน เหตุผลที่ถูกนำมาอ้างบ่อยที่สุดในการออกหวยบนดินก็คือ เพื่อปราบปรามหวยใต้ดิน แม้แต่การผลักดันกฎหมายในช่วงแรก ก็มีการอ้างว่า หากไม่มีหวยบนดินจะทำให้คน ๓๐ ล้านคนไปเล่นหวยใต้ดิน ทั้งๆที่โดยตรรกะ และจากข้อมูลงานวิจัย หรือจากพื้นที่ไม่ได้ยืนยันเช่นนั้น
การทำหวยให้ถูกกฎหมายนั้น ได้เพิ่มคนเล่นหวยขึ้นมาอีกกลุ่มใหญ่ ซึ่งจำนวนมาก คือ คนที่ไม่ต้องการทำผิดกฎหมาย แต่หากเป็นการเล่นแบบถูกกฎหมายก็พร้อมจะเล่น อีกส่วนหนึ่งคือ คนที่พร้อมจะเล่นหวยใต้ดิน แต่ก็เล่นไม่มากนัก เพราะรู้ว่าหากเกิดการโกงกัน ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายได้ การยกเลิกหวยบนดินจึงมีผลให้คนเล่นหวยน้อยลงอย่างแน่นอน และถ้าเราเชื่อว่าการเล่นหวยไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับใครก็ตาม ชีวิตของคนเหล่านี้ก็จะดีขึ้น ผู้ที่เดือดร้อนจากการยกเลิกจึงเป็นกลุ่มผู้ขายมากกว่า ซึ่งรัฐก็ควรจะหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้
ในทางกลับกัน การมีหวยบนดินไม่ได้ทำให้หวยใต้ดินหมดไป และการยกเลิกก็จะมีผลให้หวยใต้ดินขยายตัวบ้าง ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสที่จะทดสอบประสิทธิภาพของตำรวจในการปราบปราบหวยใต้ดิน
๓.การปราบปรามหวยใต้ดิน จะอย่างไรก็ตามรัฐบาลควรเพิ่มกลไกและมาตรการในการ
ปราบปรามหวยใต้ดิน เช่น การแก้กฎหมายให้ใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ การยึดทรัพย์ การมีสินบนนำจับเจ้ามือ ควบคู่ไปกับข้อเสนออื่นๆของปลัดกระทรวงยุติธรรม เช่น การลดงวดสลากกินแบ่ง การปรับโครงสร้างรางวัล
๔.ปัญหาการนิรโทษกรรม หากรัฐบาลตัดสินใจเดินหน้าหวยบนดิน โดยพยายาม
แก้ปัญหาต่างๆให้เกิดความรัดกุม เช่น ปัญหาการนำส่งรายได้ และมีแนวทางในการลดการเล่นหวยลงแล้ว ก็จะยังเกิดปัญหาต่อไปว่า การตรากฎหมายเช่นนี้ จะเป็นการนิรโทษกรรมผู้อนุมัติหวยบนดิน (และอาจรวมถึงหวยตู้) ด้วยหรือไม่ หากรัฐบาลยืนยันที่จะเอาผิดกับผู้ที่ตนกล่าวโทษก็ต้องระบุในกฎหมายให้ชัดว่า การตรากฎหมายไม่เป็นการลบล้างความผิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
๕. ปัญหาคุณธรรม/ประชาธิปไตย กับประชานิยม สิ่งหนึ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นจากปัญหากฎหมายฉบับนี้ก็คือ คุณค่าของกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย แม้รัฐบาล และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล้วนมาจากการแต่งตั้ง แต่การทำงานในเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นถึง คุณค่าของการถ่วงดุล และการมีเวทีระดมความคิดเห็น รัฐบาลและสนช. ควรยึดถือแนวทางการทำงานเช่นนี้ในทุกๆเรื่อง รวมทั้งในกรณีที่มีการนำเรื่องนี้กลับเข้ามาอีก การตัดสินใจในเชิงนโยบายสำคัญๆนั้น ไม่ควรมองว่า ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นปัญหา ทั้งในเรื่องความล่าช้า หรือ ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับฝ่ายบริหาร แต่การเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือ ข้อเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายควรได้รับการเคารพ และถูกใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างสร้างสรรค์สำหรับสังคมโดยรวม
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่รัฐบาลเคยอ้างว่า หากไม่ดำเนินการเรื่องหวยบนดินต่อนั้น จะทำให้คน ๓๐ ล้านคนไม่สนับสนุนรัฐบาล หรือไปสนับสนุนรัฐบาลเก่า ไม่ควรจะมีการหยิบยกขึ้นมาอีก เช่นเดียวกับ ความอยากของรัฐบาลที่หลงเหลืออยู่ในเรื่องของรายได้จากหวย เพราะ หากเป้าหมายหลักคือการ สนับสนุนค่านิยมที่ดี หรือคุณธรรม ก็ต้องส่งสัญญาณให้ชัดว่า ไม่ใช่สิ่งที่ คะแนนเสียง หรือ เงิน จะมาแลกได้ มิฉะนั้น ต่อไป การแก้ปัญหาการพนันฟุตบอล การค้าประเวณี บ่อนชายแดน ก็จะมาอ้างอิงเรื่องหวยบนดินเป็นตัวอย่างต่อไป
การเดินหน้าเรื่องนี้โดยเปิดใจกว้าง และแสดงออกถึงความจริงใจในการนำสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ยังจะเป็นการแสดงออกถึงความแตกต่างจากรัฐบาลเก่า แม้หวยจะไม่ใช่หนึ่งในสี่เหตุผลที่คณะรัฐประหารหยิบยกมาใช้ในการล้มล้างรัฐบาลเก่า แต่หากรัฐบาลใช้หลักนิติธรรม คุณธรรม และธรรมาภิบาล ในเรื่องนี้ ก็จะช่วยให้ประชาชนมองเห็นความเลวร้าย และความเสียหายที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ได้ไม่มากก็น้อย
***********************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ธ.ค. 2549--จบ--
การถอนร่างกฎหมายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลใส่ใจต่อเสียงท้วงติง และเป็นโอกาสดีที่จะได้สะสางปัญหาต่างๆที่ควรจะมีความชัดเจน โดยเฉพาะแง่มุมต่างๆที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
๑. ประเด็นความชอบด้วยกฎหมายและความเหมาะสมของสลากประเภทต่างๆ ในส่วนของกฎหมายนั้น รัฐบาลควรทำความชัดเจนในเรื่องของหวยตู้ หรือ หวยออนไลน์ ว่าสถานะทางกฎหมายที่แท้จริงเป็นอย่างไร เพราะหากรัฐบาลไม่มีอำนาจจะให้สัมปทานตั้งแต่ต้น ก็ต้องนำมาทบทวนกันใหม่หมด และต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้อนุมัติ รวมทั้งหาข้อยุติเรื่องสิทธิของคู่สัญญาว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร เพราะการเดินหน้าโครงการนี้ โดยเฉพาะหากอนุญาตให้บริษัทที่รับสัมปทานขายเลข ๒ ตัว ๓ ตัวได้ จะทำให้การลดการเล่นหวย หรือ การป้องกันเด็ก และเยาวชน ไม่ให้เล่นหวยเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
นอกจากนี้ ยังมีกรณีสลากของธนาคารออมสิน และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ซึ่งทำให้มีการเพิ่มงวดหวยไปในตัว รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้จัดระเบียบการออกสลากของทุกหน่วยงาน โดยอาจใช้วิธีการออกเลขร่วมกัน
๒.ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างหวยบนดินกับหวยใต้ดิน เหตุผลที่ถูกนำมาอ้างบ่อยที่สุดในการออกหวยบนดินก็คือ เพื่อปราบปรามหวยใต้ดิน แม้แต่การผลักดันกฎหมายในช่วงแรก ก็มีการอ้างว่า หากไม่มีหวยบนดินจะทำให้คน ๓๐ ล้านคนไปเล่นหวยใต้ดิน ทั้งๆที่โดยตรรกะ และจากข้อมูลงานวิจัย หรือจากพื้นที่ไม่ได้ยืนยันเช่นนั้น
การทำหวยให้ถูกกฎหมายนั้น ได้เพิ่มคนเล่นหวยขึ้นมาอีกกลุ่มใหญ่ ซึ่งจำนวนมาก คือ คนที่ไม่ต้องการทำผิดกฎหมาย แต่หากเป็นการเล่นแบบถูกกฎหมายก็พร้อมจะเล่น อีกส่วนหนึ่งคือ คนที่พร้อมจะเล่นหวยใต้ดิน แต่ก็เล่นไม่มากนัก เพราะรู้ว่าหากเกิดการโกงกัน ก็ไม่สามารถเรียกร้องสิทธิตามกฎหมายได้ การยกเลิกหวยบนดินจึงมีผลให้คนเล่นหวยน้อยลงอย่างแน่นอน และถ้าเราเชื่อว่าการเล่นหวยไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับใครก็ตาม ชีวิตของคนเหล่านี้ก็จะดีขึ้น ผู้ที่เดือดร้อนจากการยกเลิกจึงเป็นกลุ่มผู้ขายมากกว่า ซึ่งรัฐก็ควรจะหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของคนกลุ่มนี้
ในทางกลับกัน การมีหวยบนดินไม่ได้ทำให้หวยใต้ดินหมดไป และการยกเลิกก็จะมีผลให้หวยใต้ดินขยายตัวบ้าง ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสที่จะทดสอบประสิทธิภาพของตำรวจในการปราบปราบหวยใต้ดิน
๓.การปราบปรามหวยใต้ดิน จะอย่างไรก็ตามรัฐบาลควรเพิ่มกลไกและมาตรการในการ
ปราบปรามหวยใต้ดิน เช่น การแก้กฎหมายให้ใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ การยึดทรัพย์ การมีสินบนนำจับเจ้ามือ ควบคู่ไปกับข้อเสนออื่นๆของปลัดกระทรวงยุติธรรม เช่น การลดงวดสลากกินแบ่ง การปรับโครงสร้างรางวัล
๔.ปัญหาการนิรโทษกรรม หากรัฐบาลตัดสินใจเดินหน้าหวยบนดิน โดยพยายาม
แก้ปัญหาต่างๆให้เกิดความรัดกุม เช่น ปัญหาการนำส่งรายได้ และมีแนวทางในการลดการเล่นหวยลงแล้ว ก็จะยังเกิดปัญหาต่อไปว่า การตรากฎหมายเช่นนี้ จะเป็นการนิรโทษกรรมผู้อนุมัติหวยบนดิน (และอาจรวมถึงหวยตู้) ด้วยหรือไม่ หากรัฐบาลยืนยันที่จะเอาผิดกับผู้ที่ตนกล่าวโทษก็ต้องระบุในกฎหมายให้ชัดว่า การตรากฎหมายไม่เป็นการลบล้างความผิดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
๕. ปัญหาคุณธรรม/ประชาธิปไตย กับประชานิยม สิ่งหนึ่งซึ่งสะท้อนให้เห็นจากปัญหากฎหมายฉบับนี้ก็คือ คุณค่าของกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย แม้รัฐบาล และ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ล้วนมาจากการแต่งตั้ง แต่การทำงานในเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นถึง คุณค่าของการถ่วงดุล และการมีเวทีระดมความคิดเห็น รัฐบาลและสนช. ควรยึดถือแนวทางการทำงานเช่นนี้ในทุกๆเรื่อง รวมทั้งในกรณีที่มีการนำเรื่องนี้กลับเข้ามาอีก การตัดสินใจในเชิงนโยบายสำคัญๆนั้น ไม่ควรมองว่า ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นปัญหา ทั้งในเรื่องความล่าช้า หรือ ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับฝ่ายบริหาร แต่การเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือ ข้อเสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายควรได้รับการเคารพ และถูกใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างสร้างสรรค์สำหรับสังคมโดยรวม
อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่รัฐบาลเคยอ้างว่า หากไม่ดำเนินการเรื่องหวยบนดินต่อนั้น จะทำให้คน ๓๐ ล้านคนไม่สนับสนุนรัฐบาล หรือไปสนับสนุนรัฐบาลเก่า ไม่ควรจะมีการหยิบยกขึ้นมาอีก เช่นเดียวกับ ความอยากของรัฐบาลที่หลงเหลืออยู่ในเรื่องของรายได้จากหวย เพราะ หากเป้าหมายหลักคือการ สนับสนุนค่านิยมที่ดี หรือคุณธรรม ก็ต้องส่งสัญญาณให้ชัดว่า ไม่ใช่สิ่งที่ คะแนนเสียง หรือ เงิน จะมาแลกได้ มิฉะนั้น ต่อไป การแก้ปัญหาการพนันฟุตบอล การค้าประเวณี บ่อนชายแดน ก็จะมาอ้างอิงเรื่องหวยบนดินเป็นตัวอย่างต่อไป
การเดินหน้าเรื่องนี้โดยเปิดใจกว้าง และแสดงออกถึงความจริงใจในการนำสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ยังจะเป็นการแสดงออกถึงความแตกต่างจากรัฐบาลเก่า แม้หวยจะไม่ใช่หนึ่งในสี่เหตุผลที่คณะรัฐประหารหยิบยกมาใช้ในการล้มล้างรัฐบาลเก่า แต่หากรัฐบาลใช้หลักนิติธรรม คุณธรรม และธรรมาภิบาล ในเรื่องนี้ ก็จะช่วยให้ประชาชนมองเห็นความเลวร้าย และความเสียหายที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ได้ไม่มากก็น้อย
***********************************
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 3 ธ.ค. 2549--จบ--