ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.อนุญาตให้ ธพ.ขยายขอบเขตการให้บริการด้านงานสนับสนุนแก่บุคคลอื่นได้ ผอส.ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศถึง ธพ.ทุกแห่ง ยกเว้นกิจการวิเทศธนกิจให้สามารถขยายขอบเขตการ
ให้บริการด้านงานสนับสนุนแก่บุคคลอื่นได้ พร้อมทั้งให้ยกเลิกประกาศฉบับเก่าของ ธปท. ในเรื่องการอนุญาตให้ ธพ.ให้บริการด้านงานสนับสนุน
แก่บุคคลอื่น ลงวันที่ 20 ม.ค.47 ด้วย ทั้งนี้ ในประกาศฉบับใหม่ได้อนุญาตให้ ธพ.ให้บริการด้านงานสนับสุนนเพิ่มเติมแก่บุคคลอื่นได้ ทั้งนิติบุคคล
เฉพาะกิจที่เกี่ยวกับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่รับโอนสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรับโอน
สินทรัพย์จากผู้ขายสินทรัพย์และออกหลักทรัพย์ขายแก่ผู้ลงทุนที่ ธพ.หรือนิติบุคคลอื่นอาจจัดตั้งขึ้นได้ รวมทั้งบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของ ธพ.
หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงินอื่นตามที่ ธพ.ได้รับอนุญาตจัดตั้งกลุ่มธุรกิจทางการเงินตามหลักเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่ม
(ผู้จัดการรายวัน, แนวหน้า)
2. ยอดการใช้น้ำมันเดือน พ.ย. 49 เพิ่มขึ้นทั้งเบนซินและดีเซล เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานจากรมธุรกิจพลังงาน
(ธพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การใช้น้ำมันในรอบ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.49) ว่า การใช้น้ำมันทั้งดีเซล และเบนซิน เดือน พ.ย.49 เทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปี 48 มีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น โดยการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในเดือน พ.ย.อยู่ที่วันละ
17.199 ล้านลิตร และ 51.085 ล้านลิตร ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจาก พ.ย.ปีก่อนร้อยละ 5.1 และ 9.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมัน
ขายปลีกในช่วง ส.ค.-พ.ย.มีการปรับตัวลดลง ประกอบกับกำลังเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ จึงมีผลให้เกิดการใช้ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมัน
11 เดือนแรกปี 49 ภาพรวมยังลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ปริมาณการใช้อยู่ที่ระดับเฉลี่ยวันละ 50.075 ล้านลิตร
ลดลงวันละ 3,430 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.4 ส่วนน้ำมันเบนซินใช้เฉลี่ยวันละ 19.711 ล้านลิตร ลดลง 0.119 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.6
แต่เมื่อแยกแก๊สโซฮอล์ออกพบว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 ลดลงวันละ 1.912 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.5 ทั้งนี้ การใช้น้ำมันที่ลดลง
เป็นผลจากราคาที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของภาครัฐ (ผู้จัดการรายวัน, โพสต์ทูเดย์)
3. สศก.คาดการณ์การเจริญเติบโตภาคเกษตรปี 50 จะอยู่ที่ร้อยละ 4-5 รายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)
ก.เกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์การเจริญเติบโตภาคเกษตรปี 50 จะอยู่ที่ร้อยละ 4-5 แยกเป็นสาขาพืชโตร้อยละ 3.0-3.2 ปศุสัตว์ร้อยละ
4.0-4.5 ประมงร้อยละ 6.7 ป่าไม้ร้อยละ 0.7-0.9 และบริการทางภาคการเกษตรร้อยละ 1.1-1.5 ขณะที่การขยายตัวทางการผลิตของพืช
และสัตว์สำคัญ ได้แก่ ข้าว ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.6 ยางพาราร้อยละ 1.7 ปาล์มน้ำมันร้อยละ 7.2 มันสำปะหลังร้อยละ 7 อ้อยร้อยละ 6.7
กุ้งร้อยละ 5.9 ไก่ร้อยละ 4.9 และ โคร้อยละ 7.9 สาเหตุจากนโยบายการแทรกแซงราคาของรัฐบาลอยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้
สภาพภูมิอากาศทั้งฝนแล้งและโรค ทำให้ผลผลิตลดน้อยลง รวมทั้งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ก็ส่งผลดีต่อราคาสินค้าเกษตรด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน
ค่าเงินบาทก็ทำให้ความสามารถในการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศลดลง (โพสต์ทูเดย์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ดัชนีราคาผู้บริโภคของสรอ. ในเดือน พ.ย.ไม่เปลี่ยนแปลง รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 49 ก. แรงงาน สรอ.
เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภค รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของ สรอ. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน เนื่องจากต้นทุนพลังงาน
ลดลง ส่งผลให้ความวิตกเรื่องภาวะเงินเฟ้อผ่อนคลายลง ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์ก่อนหน้านั้นคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภครวมทั้งดัชนีราคา
ผู้บริโภคพื้นฐานของสรอ. ในเดือน พ.ย. จะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธ.กลาง สรอ. จะยัง
ไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนื้แต่อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างเต็มที่ (รอยเตอร์)
2. Output gap ของญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ระดับ -0.1รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 49 ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า
Output gap ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ระดับ -0.1 ปรับลดลงจาก
ตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ระดับ +0.4 เนื่องจากมีการทบทวนตัวเลข GDP .ในไตรมาสที่ 3 ที่ปรับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 0.2 จากตัวเลขเบื้องต้น
ก่อนปรับร้อยละ 0.5 ทั้งนี้ตัวเลข Output gap ที่เป็นลบหมายความว่า มีอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับลดราคาลง (รอยเตอร์)
3. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนในรอบ 11 เดือนปี 49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14 เทียบต่อปี รายงานจากปักกิ่ง เมื่อ
15 ธ.ค.49 ก.พาณิชย์จีน เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนในรอบ 11 เดือนของปี 49 (ม.ค.-พ.ย.) เพิ่มขึ้นจำนวน
54.26 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และหากคิดเฉพาะเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นจำนวน
5.68 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.59 เมื่อเทียบกับเดือนเดือนกันของปีก่อนสำหรับสัญญาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ในรอบ 11 เดือนปี 49 เพิ่มขึ้นจำนวน 167.46 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 0.15 แต่เฉพาะเดือน พ.ย.กลับลดลงร้อยละ 6.36
ที่จำนวน 20.72 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากโดยตรงจากต่างประเทศโดยรวมทั้งปี 48 ที่ผ่านมาลดลงอยู่ที่จำนวน
60.3 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จากจำนวน 60.6 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในปี 47 (รอยเตอร์)
4. ดัชนีค้าปลีกของสิงคโปร์ในเดือน ต.ค. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.3 รายงานจาก สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 49
สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.ดัชนีค้าปลีกของสิงคโปร์ลดลงร้อยละ 1.3 จากเดือน ก.ย. (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล)
แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้วยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เนื่องจากยอดขายที่ห้างสรรพสินค้า และSuper market สูงขึ้นแต่ก็ยังน้อยกว่า
ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 ในเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว และต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านั้นว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.4 ทั้งนี้ในเดือน ต.ค. ปีนี้ยอดขายน้ำมัน
ณ จุดบริการน้ำมันลดลงถึงร้อยละ 4.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่สินค้าเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจลดลงร้อยละ 5.6 ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์
3 คนได้คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกในเดือน ต.ค. เทียบต่อเดือนจะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 0.4 ถึงร้อยละ 3.0 เนื่องจากเห็นว่าในเดือน ต.ค.
จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลดีต่อ ภัตตาคาร และโรงแรม รวมทั้งยอดขายของห้างสรรพสินค้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 18 ธ.ค. 49 15 ธ.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 35.245 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 35.0612/35.3551 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.1225 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 736.29/11.36 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,400/10,500 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.83 58.49 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับ เมื่อ 2 ธ.ค. 49 ** ปรับ เมื่อ 16 ธ.ค. 49 26.09*/23.34** 26.09*/23.74** 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.อนุญาตให้ ธพ.ขยายขอบเขตการให้บริการด้านงานสนับสนุนแก่บุคคลอื่นได้ ผอส.ฝ่ายนโยบายความเสี่ยง
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศถึง ธพ.ทุกแห่ง ยกเว้นกิจการวิเทศธนกิจให้สามารถขยายขอบเขตการ
ให้บริการด้านงานสนับสนุนแก่บุคคลอื่นได้ พร้อมทั้งให้ยกเลิกประกาศฉบับเก่าของ ธปท. ในเรื่องการอนุญาตให้ ธพ.ให้บริการด้านงานสนับสนุน
แก่บุคคลอื่น ลงวันที่ 20 ม.ค.47 ด้วย ทั้งนี้ ในประกาศฉบับใหม่ได้อนุญาตให้ ธพ.ให้บริการด้านงานสนับสุนนเพิ่มเติมแก่บุคคลอื่นได้ ทั้งนิติบุคคล
เฉพาะกิจที่เกี่ยวกับการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือบริษัทที่รับโอนสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรับโอน
สินทรัพย์จากผู้ขายสินทรัพย์และออกหลักทรัพย์ขายแก่ผู้ลงทุนที่ ธพ.หรือนิติบุคคลอื่นอาจจัดตั้งขึ้นได้ รวมทั้งบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของ ธพ.
หรือบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงินอื่นตามที่ ธพ.ได้รับอนุญาตจัดตั้งกลุ่มธุรกิจทางการเงินตามหลักเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่ม
(ผู้จัดการรายวัน, แนวหน้า)
2. ยอดการใช้น้ำมันเดือน พ.ย. 49 เพิ่มขึ้นทั้งเบนซินและดีเซล เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายงานจากรมธุรกิจพลังงาน
(ธพ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การใช้น้ำมันในรอบ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.49) ว่า การใช้น้ำมันทั้งดีเซล และเบนซิน เดือน พ.ย.49 เทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปี 48 มีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น โดยการใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในเดือน พ.ย.อยู่ที่วันละ
17.199 ล้านลิตร และ 51.085 ล้านลิตร ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจาก พ.ย.ปีก่อนร้อยละ 5.1 และ 9.6 ตามลำดับ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาน้ำมัน
ขายปลีกในช่วง ส.ค.-พ.ย.มีการปรับตัวลดลง ประกอบกับกำลังเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ จึงมีผลให้เกิดการใช้ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมัน
11 เดือนแรกปี 49 ภาพรวมยังลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ปริมาณการใช้อยู่ที่ระดับเฉลี่ยวันละ 50.075 ล้านลิตร
ลดลงวันละ 3,430 ล้านลิตร หรือร้อยละ 6.4 ส่วนน้ำมันเบนซินใช้เฉลี่ยวันละ 19.711 ล้านลิตร ลดลง 0.119 ล้านลิตร หรือร้อยละ 0.6
แต่เมื่อแยกแก๊สโซฮอล์ออกพบว่าน้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ 95 ลดลงวันละ 1.912 ล้านลิตร หรือร้อยละ 10.5 ทั้งนี้ การใช้น้ำมันที่ลดลง
เป็นผลจากราคาที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับมาตรการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนของภาครัฐ (ผู้จัดการรายวัน, โพสต์ทูเดย์)
3. สศก.คาดการณ์การเจริญเติบโตภาคเกษตรปี 50 จะอยู่ที่ร้อยละ 4-5 รายงานจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)
ก.เกษตรและสหกรณ์ คาดการณ์การเจริญเติบโตภาคเกษตรปี 50 จะอยู่ที่ร้อยละ 4-5 แยกเป็นสาขาพืชโตร้อยละ 3.0-3.2 ปศุสัตว์ร้อยละ
4.0-4.5 ประมงร้อยละ 6.7 ป่าไม้ร้อยละ 0.7-0.9 และบริการทางภาคการเกษตรร้อยละ 1.1-1.5 ขณะที่การขยายตัวทางการผลิตของพืช
และสัตว์สำคัญ ได้แก่ ข้าว ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 2.6 ยางพาราร้อยละ 1.7 ปาล์มน้ำมันร้อยละ 7.2 มันสำปะหลังร้อยละ 7 อ้อยร้อยละ 6.7
กุ้งร้อยละ 5.9 ไก่ร้อยละ 4.9 และ โคร้อยละ 7.9 สาเหตุจากนโยบายการแทรกแซงราคาของรัฐบาลอยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้
สภาพภูมิอากาศทั้งฝนแล้งและโรค ทำให้ผลผลิตลดน้อยลง รวมทั้งเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ก็ส่งผลดีต่อราคาสินค้าเกษตรด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน
ค่าเงินบาทก็ทำให้ความสามารถในการแข่งขันการค้าระหว่างประเทศลดลง (โพสต์ทูเดย์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. ดัชนีราคาผู้บริโภคของสรอ. ในเดือน พ.ย.ไม่เปลี่ยนแปลง รายงานจากวอชิงตัน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 49 ก. แรงงาน สรอ.
เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภค รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของ สรอ. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อน เนื่องจากต้นทุนพลังงาน
ลดลง ส่งผลให้ความวิตกเรื่องภาวะเงินเฟ้อผ่อนคลายลง ขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์ก่อนหน้านั้นคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภครวมทั้งดัชนีราคา
ผู้บริโภคพื้นฐานของสรอ. ในเดือน พ.ย. จะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ธ.กลาง สรอ. จะยัง
ไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนื้แต่อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างเต็มที่ (รอยเตอร์)
2. Output gap ของญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ระดับ -0.1รายงานจากโตเกียว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 49 ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า
Output gap ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ระดับ -0.1 ปรับลดลงจาก
ตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ระดับ +0.4 เนื่องจากมีการทบทวนตัวเลข GDP .ในไตรมาสที่ 3 ที่ปรับลดลงอยู่ที่ร้อยละ 0.2 จากตัวเลขเบื้องต้น
ก่อนปรับร้อยละ 0.5 ทั้งนี้ตัวเลข Output gap ที่เป็นลบหมายความว่า มีอุปสงค์น้อยกว่าอุปทาน ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับลดราคาลง (รอยเตอร์)
3. การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนในรอบ 11 เดือนปี 49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14 เทียบต่อปี รายงานจากปักกิ่ง เมื่อ
15 ธ.ค.49 ก.พาณิชย์จีน เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศของจีนในรอบ 11 เดือนของปี 49 (ม.ค.-พ.ย.) เพิ่มขึ้นจำนวน
54.26 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.14 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และหากคิดเฉพาะเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นจำนวน
5.68 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20.59 เมื่อเทียบกับเดือนเดือนกันของปีก่อนสำหรับสัญญาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ในรอบ 11 เดือนปี 49 เพิ่มขึ้นจำนวน 167.46 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. หรือร้อยละ 0.15 แต่เฉพาะเดือน พ.ย.กลับลดลงร้อยละ 6.36
ที่จำนวน 20.72 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. อย่างไรก็ตาม การลงทุนจากโดยตรงจากต่างประเทศโดยรวมทั้งปี 48 ที่ผ่านมาลดลงอยู่ที่จำนวน
60.3 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จากจำนวน 60.6 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในปี 47 (รอยเตอร์)
4. ดัชนีค้าปลีกของสิงคโปร์ในเดือน ต.ค. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.3 รายงานจาก สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 49
สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค.ดัชนีค้าปลีกของสิงคโปร์ลดลงร้อยละ 1.3 จากเดือน ก.ย. (ตัวเลขหลังปรับฤดูกาล)
แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้วยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 เนื่องจากยอดขายที่ห้างสรรพสินค้า และSuper market สูงขึ้นแต่ก็ยังน้อยกว่า
ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 ในเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว และต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านั้นว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.4 ทั้งนี้ในเดือน ต.ค. ปีนี้ยอดขายน้ำมัน
ณ จุดบริการน้ำมันลดลงถึงร้อยละ 4.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่สินค้าเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจลดลงร้อยละ 5.6 ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์
3 คนได้คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกในเดือน ต.ค. เทียบต่อเดือนจะเพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 0.4 ถึงร้อยละ 3.0 เนื่องจากเห็นว่าในเดือน ต.ค.
จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลดีต่อ ภัตตาคาร และโรงแรม รวมทั้งยอดขายของห้างสรรพสินค้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 18 ธ.ค. 49 15 ธ.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 35.245 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 35.0612/35.3551 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.1225 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 736.29/11.36 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,250/10,350 10,400/10,500 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.83 58.49 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับ เมื่อ 2 ธ.ค. 49 ** ปรับ เมื่อ 16 ธ.ค. 49 26.09*/23.34** 26.09*/23.74** 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--