สำนักงานเศรษฐกิจการคลังให้ความเห็นว่า หากสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ยังไม่นิ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศได้โดยสรุป ดังนี้ 1. การลงทุนและการบริโภคจะชะลอตัวลงโดยผู้ประกอบธุรกิจจะรอดูความชัดเจนทางการเมือง 2. การเจรจาการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ต้องชะลอตัวออกไป 3. ตลาดทุนมีความผันผวน แต่คาดว่านักลงทุนต่างประเทศจะยังไม่ลดการลงทุนในตลาดหุ้น แต่เป็นเพียงการชะลอการลงทุน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความเห็นว่า ความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพราะขณะนี้การส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยยังคงขยายตัวการลงทุนในภาคเอกชนของไทยยังคงขยายตัวในอัตราร้อยละ 10 จึงยังไม่ส่งสัญญาณของการชะลอตัวด้านการชะลอตัวการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจค) จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในปี 2550 มากกว่า บริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกมีความเห็นว่า ภาวะวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน อาจส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ และหากความวุ่นวายทางการเมืองยังยืดเยื้อ ก็จำเป็นต้องทบทวนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ ประเด็นวิเคราะห์: ในขณะนี้การเมืองของประเทศไทยยังคงอยู่ในภาวะที่ขาดความชัดเจน ส่งผลให้นักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติติดตามและต้องการความมั่นใจในทิศทางของนโยบายทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจก่อน ที่มา: http://www.depthai.go.th