ห้องเย็นอ่วมสัมปทานประมงอินโดฯ พ่นพิษ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 10, 2006 14:20 —กรมส่งเสริมการส่งออก

นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ นายกสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทยให้ความเห็นว่า กฎเกณฑ์การทำประมงฉบับใหม่ของประเทศอินโดนีเซียขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อการส่งกลับวัตถุดิบสัตว์น้ำมายังประเทศไทยลดลงกว่าร้อยละ 80 ของปริมาณสัตว์น้ำที่เคยนำเข้าปกติประมาณ 750 ตันต่อวัน เนื่องจากมีขั้นตอนขออนุญาตค่อนข้างนาน โดยกระทรวงกิจการทางทะเลและการประมงอินโดนีเซียได้ออกประกาศกระทรวงฉบับใหม่ เพื่อใช้กับกองเรือต่างชาติที่เข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำของอินโดนีเซีย โดยบังคับให้ต้องดำเนินการใน 2 ลักษณะคือ การร่วมทุนทำอุตสาหกรรมต่อเนื่องบนชายฝั่ง หรือให้ภาคเอกชนของอินโดนีเซียที่มีอุตสาหกรรมเช่าเรือ โดยบังคับให้มีผลบังคับใช้สำหรับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา โดยในระบบการร่วมทุน มีขั้นตอนสำคัญคือ เรือประมงไทยต้องถอนสัญชาติไปจดทะเบียนเป็นเรืออินโดนีเซีย โดยชักธงอินโดฯ ในการทำประมง ต้องยื่นขอโควต้าจำนวนเรือที่จะเข้าไปทำประมง รวมถึงต้องยื่นแผนลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่องบนชายฝั่งต่อกระทรวงกิจการทางทะเลฯ กรณีให้บริษัทเอกชนของอินโดนีเซียต้องส่งข้อมูลเหตุผลการทำประมงของบริษัท กำลังการผลิตของโรงงาน ปริมาณวัตถุดิบที่จะใช้ โดยทั้งสองระบบจะใช้เวลา 2-3 เดือน จึงจะได้รับการพิจารณาอนุมัติให้นำเรือออกทำประมงได้ เรือประมงของไทยในอินโดฯ ต้องหยุดทำประมงชั่วคราวจนกว่าแผนงานจะได้รับอนุมัติ ส่งผลถึงวัตถุดิบสัตว์น้ำนำกลับประเทศเกิดความขาดแคลนและกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง เพราะวัตถุดิบได้หายไปจากระบบกว่าร้อยละ 80ประเด็นวิเคราะห์: วัตถุดิบที่หายไปในเวลานี้ได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานแปรรูปอาหารทะเล (ห้องเย็น) ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มที่ผลิตปลา ปลาหมึกแช่แข็ง หากรายใดไม่มีการสต๊อกวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก และคงต้องหาวัตถุดิบจากแหล่งอื่นทดแทน เช่น พม่า เป็นต้น ที่มา: http://www.depthai.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ