ประเทศฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการนำเข้า ส่งออก และจำหน่ายอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก
รวมทั้งไทยด้วย เนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองท่าปลอดภาษี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่ง
หนึ่งในภูมิภาคเอเซีย โดยในปี 2546 ฮ่องกงนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอันดับ 5 ของไทย ด้วยส่วนแบ่ง
ตลาดร้อยละ 5.28 ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด หรือมีมูลค่าการส่งออกเท่ากับ 5,522.8
ล้านบาท รองจากสหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ อิสราเอล และเบลเยี่ยม ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2547 พบ
ว่ามูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยไปฮ่องกงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงมากถึงร้อยละ 49.28 เมื่อ
เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2546 และมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 6.88 ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่อง
ประดับทั้งหมด อัญมณีและเครื่องประดับที่ฮ่องกงนิยมนำเข้าจากไทยมากที่สุด คือ อัญมณี ได้แก่ เพชร พลอย และ
ไข่มุก รองลงมา คือ เครื่องประดับแท้ ทองคำยังไม่ขึ้นรูป และอัญมณีสังเคราะห์ ตามลำดับ (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 แสดงมูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยไปยังประเทศฮ่องกง
ปี 2544-2547(ม.ค-มิ.ย)
หน่วย: ล้านบาท
สินค้า 2544 2545 2546 2546 2547
(ม.ค.-มิ.ย) (ม.ค.-มิ.ย)
อัญมณี 3,550.60 3,589.20 3,425.20 1,480.20 2,190.70
เครื่องประดับแท้ 932.1 870.4 1,279.60 682.2 587.3
ทองคำยังไม่ขึ้นรูป 181.2 11.5 652.7 12.4 461.9
อัญมณีสังเคราะห์ 43.4 110.7 124.4 53.4 55
โลหะมีค่าและของที่หุ้มด้วยโลหะมีค่าอื่น ๆ 30.3 6.3 26.5 2.6 45.2
เครื่องประดับอัญมณีเทียม 37.2 17 14.4 11.3 6.9
รวม 4,774.80 4,605.10 5,522.80 2,242.10 3,347.00
อัตราการเติบโตรวม(%) -3.55 19.93 49.28
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
จากข้อมูลการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปฮ่องกง จะเห็นได้ว่าตลาดฮ่องกงเป็นตลาดที่สำคัญใน
อันดับต้นๆ ของไทย และมีแนวโน้มของอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้า
อัญมณีและเครื่องประดับของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี ต้องศึกษาข้อมูล กฎระเบียบ และพฤติกรรมผู้บริโภคใน
ประเทศฮ่องกงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดอัญมณีและเครื่อง
ประดับในฮ่องกง มีดังนี้
1. อัตราภาษี ฮ่องกงเป็นเมืองท่าปลอดภาษีทำให้การนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในฮ่องกงไม่
ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มใดๆ รวมทั้งไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากทางการฮ่องกง
2. กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
2.1 The Trade Descriptions (Marking) (Gold and Gold Alloy) /
(Platinum) Orders เป็นกฎระเบียบที่กำหนดให้สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและแพลททินัมหรือมี
ส่วนผสมจากทองคำและแพลททินัม ต้องประทับตราเพื่อแสดงปริมาณความบริสุทธิ์ (Fineness) ของเนื้อโลหะต่อ
น้ำหนัก โดยความบริสุทธิ์ของทองคำ/แพลททินัมต้องไม่ต่ำกว่าที่ได้ประทับตราระบุไว้ โดยฮ่องกงกำหนดให้เครื่อง
ประดับทองคำ/แพลทินัมที่มีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 8 กะรัต ต้องประทับตราเครื่องหมายแสดงปริมาณความบริสุทธิ์
สำหรับการระบุความบริสุทธิ์สามารถทำได้ดังนี้คือ ความบริสุทธิ์ของทองคำ/แพลทินัมอาจระบุเป็นหน่วยกะรัตด้วยตัวเลข
อารบิก หรือตัวเลขอารบิกพร้อมตัวอักษร k, c หรือ ct อาทิ การประทับตรา “14K” เพื่อรับรองว่าทำมาจาก
ทองคำ 14 กะรัต หรืออาจระบุความบริสุทธิ์ของทองคำ/แพลทินัมเป็นตัวเลขอารบิกในหน่วย parts per
thousand อาทิ การประทับตรา “333” เพื่อรับรองว่าทำมาจากทองคำ 33.3% หรือ 8 กะรัต หรืออาจระบุความ
บริสุทธิ์ของทองคำด้วยคำในภาษาจีน “Chuk Kam” เมื่อแสดงความบริสุทธิ์ของทองคำที่ไม่ต่ำกว่า “990” เป็นต้น
2.2 Kimberley Process (KP) Certification Scheme ฮ่องกงเป็นหนึ่งใน
จำนวน 50 กว่าประเทศ (รวมทั้งไทย) ที่ให้สัตยาบันต่อข้อตกลง Kimberley Process ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อป้องกันการ
ค้าเพชรที่มาจากแหล่งผิดกฎหมายหรือจากประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย โดยตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2546 ทาง
การฮ่องกงประกาศให้ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกเพชรดิบในฮ่องกงต้องแสดงใบรับรอง Kimberley Process (KP)
Certificate หรือใบรับรองการนำเข้าหรือส่งออกเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน (Rough Diamond) หรือเพชรดิบ
สำหรับการนำเข้าและส่งออกทุกครั้ง โดยทั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยสามารถยื่นขอ Kimberley Process Certificate
ได้จากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อยื่นต่อกรมศุลกากรในการดำเนินพิธีการส่งออก พร้อมส่งเอกสาร
ต่างๆ ให้ผู้ซื้อในฮ่องกงเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการนำเข้าต่อไป
3. กลุ่มผู้บริโภคและรสนิยม แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
กลุ่มผู้บริโภคชาวฮ่องกง แบ่งเป็นหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มแม่บ้านที่แต่งงานแล้วและมีการศึกษาไม่สูงนักมัก
นิยมเครื่องประดับทองคำที่มีน้ำหนักเบา มีดีไซน์เรียบง่าย กลุ่มชายโสดที่มีรายได้สูงนิยมเครื่องประดับทองคำที่มีขนาด
ใหญ่และมีความโก้หรู ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมมักซื้อเครื่องประดับทองคำเพื่อการลงทุนเป็นสำคัญ กลุ่มวัยกลางคนถึงสูง
อายุหันมานิยมเครื่องประดับทองคำที่ประทับตรา “Chuk Kam” ที่มีดีไซน์ทันสมัยสามารถใส่เป็นเครื่องประดับในการ
แต่งกายมากขึ้นโดยหยกยังเป็นที่นิยม ส่วนหนุ่มสาวนิยมเครื่องประดับประเภททองคำขาว เพชร เงิน ไข่มุก หินเทียม
และทองคำ 18K
กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนแผ่นดินใหญ่ (55% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งหมด) นิยมซื้อเครื่องประดับทองคำที่ประทับตรา “Chuk Kam” ที่มีราคาต่อหน่วยประมาณ 100-150 ดอลลาร์
สหรัฐ และชุดเครื่องเพชร (เกรดต่ำ) ส่วนชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูงนิยมซื้อเพชร พลอยรัตนชาติ และไข่มุก เป็นต้น
และนอกจากนี้ฮ่องกงยังมีงานแสดงสินค้าในฮ่องกง ฮ่องกงมีการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นประจำ
ทุกปี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งการเข้าร่วมแสดงสินค้าดังกล่าวจะช่วยให้ผู้
ส่งออกไทยมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำเข้าชาวฮ่องกงได้โดยตรง
เมื่อผู้ประกอบการทราบรายละเอียดข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในฮ่องกง คง
ไม่เป็นการยากที่เราจะขยายตลาดอัญมณีและเครื่องประดับไปฮ่องกงให้มากขึ้นโดยมีการพัฒนาปรับปรุงสินค้าให้ได้
คุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวฮ่องกงต่อไป
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-
รวมทั้งไทยด้วย เนื่องจากฮ่องกงเป็นเมืองท่าปลอดภาษี รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการท่องเที่ยวที่สำคัญแห่ง
หนึ่งในภูมิภาคเอเซีย โดยในปี 2546 ฮ่องกงนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอันดับ 5 ของไทย ด้วยส่วนแบ่ง
ตลาดร้อยละ 5.28 ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับทั้งหมด หรือมีมูลค่าการส่งออกเท่ากับ 5,522.8
ล้านบาท รองจากสหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ อิสราเอล และเบลเยี่ยม ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2547 พบ
ว่ามูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยไปฮ่องกงมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงมากถึงร้อยละ 49.28 เมื่อ
เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2546 และมีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 6.88 ของมูลค่าการส่งออกอัญมณีและเครื่อง
ประดับทั้งหมด อัญมณีและเครื่องประดับที่ฮ่องกงนิยมนำเข้าจากไทยมากที่สุด คือ อัญมณี ได้แก่ เพชร พลอย และ
ไข่มุก รองลงมา คือ เครื่องประดับแท้ ทองคำยังไม่ขึ้นรูป และอัญมณีสังเคราะห์ ตามลำดับ (ตารางที่ 1)
ตารางที่ 1 แสดงมูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยไปยังประเทศฮ่องกง
ปี 2544-2547(ม.ค-มิ.ย)
หน่วย: ล้านบาท
สินค้า 2544 2545 2546 2546 2547
(ม.ค.-มิ.ย) (ม.ค.-มิ.ย)
อัญมณี 3,550.60 3,589.20 3,425.20 1,480.20 2,190.70
เครื่องประดับแท้ 932.1 870.4 1,279.60 682.2 587.3
ทองคำยังไม่ขึ้นรูป 181.2 11.5 652.7 12.4 461.9
อัญมณีสังเคราะห์ 43.4 110.7 124.4 53.4 55
โลหะมีค่าและของที่หุ้มด้วยโลหะมีค่าอื่น ๆ 30.3 6.3 26.5 2.6 45.2
เครื่องประดับอัญมณีเทียม 37.2 17 14.4 11.3 6.9
รวม 4,774.80 4,605.10 5,522.80 2,242.10 3,347.00
อัตราการเติบโตรวม(%) -3.55 19.93 49.28
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
จากข้อมูลการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับไปฮ่องกง จะเห็นได้ว่าตลาดฮ่องกงเป็นตลาดที่สำคัญใน
อันดับต้นๆ ของไทย และมีแนวโน้มของอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้า
อัญมณีและเครื่องประดับของไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอี ต้องศึกษาข้อมูล กฎระเบียบ และพฤติกรรมผู้บริโภคใน
ประเทศฮ่องกงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ โดยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดอัญมณีและเครื่อง
ประดับในฮ่องกง มีดังนี้
1. อัตราภาษี ฮ่องกงเป็นเมืองท่าปลอดภาษีทำให้การนำเข้าสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในฮ่องกงไม่
ต้องเสียภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มใดๆ รวมทั้งไม่ต้องขออนุญาตนำเข้าจากทางการฮ่องกง
2. กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
2.1 The Trade Descriptions (Marking) (Gold and Gold Alloy) /
(Platinum) Orders เป็นกฎระเบียบที่กำหนดให้สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ทำจากทองคำและแพลททินัมหรือมี
ส่วนผสมจากทองคำและแพลททินัม ต้องประทับตราเพื่อแสดงปริมาณความบริสุทธิ์ (Fineness) ของเนื้อโลหะต่อ
น้ำหนัก โดยความบริสุทธิ์ของทองคำ/แพลททินัมต้องไม่ต่ำกว่าที่ได้ประทับตราระบุไว้ โดยฮ่องกงกำหนดให้เครื่อง
ประดับทองคำ/แพลทินัมที่มีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 8 กะรัต ต้องประทับตราเครื่องหมายแสดงปริมาณความบริสุทธิ์
สำหรับการระบุความบริสุทธิ์สามารถทำได้ดังนี้คือ ความบริสุทธิ์ของทองคำ/แพลทินัมอาจระบุเป็นหน่วยกะรัตด้วยตัวเลข
อารบิก หรือตัวเลขอารบิกพร้อมตัวอักษร k, c หรือ ct อาทิ การประทับตรา “14K” เพื่อรับรองว่าทำมาจาก
ทองคำ 14 กะรัต หรืออาจระบุความบริสุทธิ์ของทองคำ/แพลทินัมเป็นตัวเลขอารบิกในหน่วย parts per
thousand อาทิ การประทับตรา “333” เพื่อรับรองว่าทำมาจากทองคำ 33.3% หรือ 8 กะรัต หรืออาจระบุความ
บริสุทธิ์ของทองคำด้วยคำในภาษาจีน “Chuk Kam” เมื่อแสดงความบริสุทธิ์ของทองคำที่ไม่ต่ำกว่า “990” เป็นต้น
2.2 Kimberley Process (KP) Certification Scheme ฮ่องกงเป็นหนึ่งใน
จำนวน 50 กว่าประเทศ (รวมทั้งไทย) ที่ให้สัตยาบันต่อข้อตกลง Kimberley Process ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อป้องกันการ
ค้าเพชรที่มาจากแหล่งผิดกฎหมายหรือจากประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย โดยตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2546 ทาง
การฮ่องกงประกาศให้ผู้นำเข้าหรือผู้ส่งออกเพชรดิบในฮ่องกงต้องแสดงใบรับรอง Kimberley Process (KP)
Certificate หรือใบรับรองการนำเข้าหรือส่งออกเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน (Rough Diamond) หรือเพชรดิบ
สำหรับการนำเข้าและส่งออกทุกครั้ง โดยทั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยสามารถยื่นขอ Kimberley Process Certificate
ได้จากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อยื่นต่อกรมศุลกากรในการดำเนินพิธีการส่งออก พร้อมส่งเอกสาร
ต่างๆ ให้ผู้ซื้อในฮ่องกงเพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการนำเข้าต่อไป
3. กลุ่มผู้บริโภคและรสนิยม แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ
กลุ่มผู้บริโภคชาวฮ่องกง แบ่งเป็นหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มแม่บ้านที่แต่งงานแล้วและมีการศึกษาไม่สูงนักมัก
นิยมเครื่องประดับทองคำที่มีน้ำหนักเบา มีดีไซน์เรียบง่าย กลุ่มชายโสดที่มีรายได้สูงนิยมเครื่องประดับทองคำที่มีขนาด
ใหญ่และมีความโก้หรู ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมมักซื้อเครื่องประดับทองคำเพื่อการลงทุนเป็นสำคัญ กลุ่มวัยกลางคนถึงสูง
อายุหันมานิยมเครื่องประดับทองคำที่ประทับตรา “Chuk Kam” ที่มีดีไซน์ทันสมัยสามารถใส่เป็นเครื่องประดับในการ
แต่งกายมากขึ้นโดยหยกยังเป็นที่นิยม ส่วนหนุ่มสาวนิยมเครื่องประดับประเภททองคำขาว เพชร เงิน ไข่มุก หินเทียม
และทองคำ 18K
กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนแผ่นดินใหญ่ (55% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งหมด) นิยมซื้อเครื่องประดับทองคำที่ประทับตรา “Chuk Kam” ที่มีราคาต่อหน่วยประมาณ 100-150 ดอลลาร์
สหรัฐ และชุดเครื่องเพชร (เกรดต่ำ) ส่วนชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูงนิยมซื้อเพชร พลอยรัตนชาติ และไข่มุก เป็นต้น
และนอกจากนี้ฮ่องกงยังมีงานแสดงสินค้าในฮ่องกง ฮ่องกงมีการจัดงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับเป็นประจำ
ทุกปี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งการเข้าร่วมแสดงสินค้าดังกล่าวจะช่วยให้ผู้
ส่งออกไทยมีโอกาสได้พบปะกับผู้นำเข้าชาวฮ่องกงได้โดยตรง
เมื่อผู้ประกอบการทราบรายละเอียดข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในฮ่องกง คง
ไม่เป็นการยากที่เราจะขยายตลาดอัญมณีและเครื่องประดับไปฮ่องกงให้มากขึ้นโดยมีการพัฒนาปรับปรุงสินค้าให้ได้
คุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้บริโภคชาวฮ่องกงต่อไป
--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม--
-พห-