ไทย-โลก : ไทยขาดดุลการค้า 1,341.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนไทยเกินดุล 202.0 ล้านเหรียญสหรัฐ
การค้าของไทย ช่วง เดือนแรก (ม.ค.) ของปี 2548 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 22.0 จาก 14,006.3 เป็น 17,094.1 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกรวม ร้อยละ 10.9 และการนำเข้ารวม ร้อยละ 33.5 ทำให้ประเทศไทยขาดดุลคิดเป็นมูลค่า 1,3410.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ระยะเดียวกันของปีก่อนไทยเกินดุล 202.0 ล้านเหรียญสหรัฐ
ไทย-เอเปค : ไทยขาดดุลการค้า 808.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนไทยเกินดุล 473.0 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออก 5,647.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.6 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เคมีภัณฑ์ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และน้ำตาลทราย เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 6,455.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 35.2 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรม แผงวงจรไฟฟ้าเหล็กและเหล็กกล้า เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช หลอดภาพโทรทัศน์และส่วนประกอบ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม ของเล่นเครื่องเล่นกีฬาและเครื่องเล่นเกม เป็นต้น
ไทย-อาเซียน : ไทยเกินดุลการค้า 26.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 95.3
มูลค่าการส่งออก 1,764.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 5.7 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และ เม็ดพลาสติก สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน ข้าว มอเตอร์และเครื่องกำเนิด เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 1,738.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 57.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ก๊าซธรรมชาติ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ หลอดภาพโทรทัศน์และส่วนประกอบ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ ลวดและสายเคเบิล สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ เป็นต้น
ไทย-ญี่ปุ่น : ไทยขาดดุลการค้า 843.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 49.2
มูลค่าการส่งออก 1,106.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.9 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 1,950.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้า แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบรวมทั้งโครงรถและตัวถัง เคมีภัณฑ์ และ เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ ไดโอด ทรานซิสเตอร์และอุปกรณ์กึ่งตัวนำ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ ฟิล์มถ่ายรูป ถ่ายภาพยนตร์ รถยนต์นั่ง รถยนต์โดยสารและรถบรรทุก กล้อง เลนส์และอุปกรณ์การถ่ายรูป ถ่ายภาพยนตร์ เป็นต้น
ไทย-สหรัฐอเมริกา : ไทยเกินดุลการค้า 474.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 16.9
มูลค่าการส่งออก 1,230.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน ยางพารา กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง ส่วนประกอบอากาศยานและอุปกรณ์การบิน เครื่องวีดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 756.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.8 ทั้งนี้เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ วงจรพิมพ์ ผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
ไทย-สหภาพยุโรป : ไทยเกินดุลการค้า 288.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 13.9
มูลค่าการส่งออก 1,148.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.7 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ และ ผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องปรับ อากาศและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ และส่วนประกอบ รองเท้าและชิ้นส่วน ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เครื่องโทรสาร โทรพิมพ์ โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารในครัวและบ้านเรือน เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 859.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.1 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และผลิตภัณฑ์โลหะ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ สินค้าทุนอื่น ๆ อาหารปรุงแต่งสำหรับใช้เลี้ยงทารก เครื่องใช้และเครื่องตกแต่งภายในบ้านเรือน เป็นต้น
ประเทศที่ไทยเปิดตลาดเสรีการค้า
ไทย-สมาคมการค้าเสรียุโรป (EFTA) : ไทยขาดดุลการค้า 58.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุล เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.2
มูลค่าการส่งออก 51.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ นาฬิกาและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ข้าว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แก้วและกระจก หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ รองเท้าและชิ้นส่วน เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 110.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 21.9 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เครื่องใช้เบ็ดเตล็ด และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ นาฬิกาและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม กระจก แก้ว และผลิตภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เป็นต้น
ไทย-กลุ่มอนุทวีป (BIMST-EC) : ไทยขาดดุลการค้า 45.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 104.7
มูลค่าการส่งออก 218.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 51.9 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันดิบ เม็ดพลาสติก ยางพารา ผ้าผืน เคมีภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ สินค้าส่งออกที่ลดลงได้แก่ ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์พลาสติก เส้นใยประดิษฐ์ หม้อแบตเตอรี่และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 264.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 59.1 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ เคมีภัณฑ์ น้ำมันดิบไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ด้ายและเส้นใย สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ผ้าผืน เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น
ไทย-จีน :ไทยขาดดุลการค้า 228.0 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลเพิ่มขึ้นร้อยละ 727.0
มูลค่าการส่งออก 599.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.9 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และ เส้นใยประดิษฐ์ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง น้ำมันดิบ ข้าว น้ำมันสำเร็จรูป เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผ้าผืน เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 827.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 40.7 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็กและเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และผ้าผืน ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องดนตรี ของเล่น เครื่องกีฬา และเครื่องเล่นเกม พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช นาฬิกาและส่วนประกอบ เป็นต้น
ไทย-ออสเตรเลีย : ทยขาดดุลการค้า 85.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ไทยเกินดุล 16.0 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออก 196.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.8 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับ อากาศและส่วนประกอบ เหล็กเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันดิบ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ อาหารสัตว์เลี้ยง ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบเป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 282.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 88.9 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ น้ำมันดิบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ นมและผลิตภัณฑ์นม สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ด้ายและเส้นใย เคมีภัณฑ์ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้เครื่องมือ เครื่องใช้ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
ไทย-อินเดีย : ไทยขาดดุลการค้า 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลลดลงร้อยละ 97.0
มูลค่าการส่งออก 122.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 125.4 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ น้ำมันดิบ เม็ดพลาสติก ยางพารา เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ ผ้าผืน เส้นใยประดิษฐ์ แก้วและกระจก ของเบ็ดเตล็ดทำด้วยโลหะสามัญ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับจุดระเบิดเครื่องยนต์ และส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 123.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 25.4 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เคมีภัณฑ์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ด้ายและเส้นใย สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ผ้าผืน เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น
ไทย-แอฟริกาใต้ : ไทยเกินดุลการค้า 12.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 277.9
มูลค่าการส่งออก 47.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 46.8 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าว รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง แก้วและกระจก เครื่องวิดีโอ เครื่องเสียงอุปกรณ์และส่วนประกอบผลไม้กระป๋องและแปรรูป เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 34.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 19.6 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้น ของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะ และผลิตภัณฑ์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์โลหะ ด้ายและเส้นใย ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ และน้ำมันสำเร็จรูป เป็นต้น
ไทย-นิวซีแลนด์ : ไทยเกินดุลการค้า 9.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 585.2
มูลค่าการส่งออก 30.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 36.4 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับ อากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและสำเร็จรูป เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ สิ่งปรุงรสอาหาร และผ้าผืน เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 20.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ อาหารปรุงแต่งสำหรับใช้เลี้ยงทารก สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ นมและผลิตภัณฑ์นม ด้ายและเส้นใย สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น
ไทย-บาห์เรน : ดุลการค้าสมดุล เปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนไทยขาดดุล 11.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
มูลค่าการส่งออก 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 11.1 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ ผ้าผืน และผลิตภัณฑ์พลาสติก สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ แก้วและกระจก ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 79.2 สินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ผ้าผืน เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆเศษโลหะ และผลิตภัณฑ์ กระดาษ และผลิตภัณฑ์กระดาษ เป็นต้น
ไทย-เปรู : ไทยขาดดุลการค้า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขาดดุลลดลงร้อยละ 23.3
มูลค่าการส่งออก 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 375.0 สินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ ได้แก่ เม็ดพลาสติก รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ หลอดไฟฟ้า ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ สินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ยาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น
มูลค่าการนำเข้า 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.5 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของการนำเข้าสินค้าสำคัญ ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ และเศษโลหะ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผักผลไม้ และเคมีภัณฑ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลง ได้แก่ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-