Q สิ่งทอเทคนิคคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร
A สิ่งทอเทคนิค (Technical Textile) หมายถึงผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีคุณสมบัติและรูปแบบเฉพาะตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยทั่วไปสามารถจำแนกเป็น 12 ประเภท ได้แก่
1. สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร (Agrotech)
2. สิ่งทอเทคนิคทางการก่อสร้าง (Buildtech)
3. สิ่งทอเทคนิคทางธรณี (Geotech)
4. สิ่งทอเทคนิคทางอุตสาหกรรม (Indutech)
5. สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ (Medtech)
6. สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์(Mobitech)
7. สิ่งทอเทคนิคในบรรจุภัณฑ์(Packtech)
8. สิ่งทอเทคนิคเพื่อการป้องกัน (Protech)
9. สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ (Sporttech)
10. สิ่ทอเทคนิคสำหรับเครื่องเรือน (Hometech)
11. สิ่งทอเทคนิคเพื่อการรักษาสิ่งวแดลบ้อม (Oekotech)
12. สิ่งทอเทคนิคสำหรับเครื่องนุ่งห่ม (Clothtech) ปัจจุบันตลาดสิ่งทอเทคนิคของโลกมีมูลค่าราว 127,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีปริมาณการใช้สูงถึง 20 ล้านตัน/ปี
ทั้งนี้ ภายหลังการยกเลิกโควตาสิ่งทอตามกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (Multifibre Arrangement:MFA) ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization:WTO) ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเสรีการค้าสิ่งทอโลก ส่งผลให้ผู้ผลิตสิ่งทอไทยประสบกับภาวการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ของโลก ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งปรับตัวด้วยการพัฒนานวัตกรรมการผลิตสิ่งทอให้มีความหลากหลายและแตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งนี้ในบรรดากลยุทธ์การปรับตัวดังกล่าว การพัฒนาการผลิตสิ่งทอเทคนิคนับเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาและเสริมสร้างศักยภาพการส่งออกสิ่งทอไทยได้เป็นอย่างดีเนื่องจาก
1. สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัวและสอดคล้องกับความต้องการสินค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน สิ่งทอเทคนิคมีลักษณะการใช้งานเฉพาะกลุ่มและเจาะจงในแต่ละตลาด อาทิ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร เช่น วัสดุคลุมดินและรั้วตาข่าย สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเกษตรกรตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงเจ้าของกิจการฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ ปัจจุบันสิ่งทอเทคนิคของไทยที่การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ ประเภทพรมและผ้าหุ้มเบาะ
2. เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สิ่งทอเทคนิคส่วนใหญ่เกิดจากการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ ให้มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด จึงเป็นสินค้าที่มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นในแต่ละช่วงเวลา อาทิ การพัฒนาสิ่งทอให้สามารถย่อยสลายตัวเองได้ ซึ่งสอดรับกับกระแสห่วงใยสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน การพัฒนาผ้าทอกันไฟและผ้าทอกันน้ำ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค เหล่านี้นับเป็นตัวอย่างของสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้สูงตามความจำเป็นในการใช้งาน
3. การผลิตไม่ขึ้นอยู่กับแฟชั่นหรือสมัยนิยม สิ่งทอเทคนนิคส่วนมากเป็นสินค้าเพื่อการใช้งานที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ผู้ผลิตจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือสีสันภายนอกตามสมัยนิยม ยกเว้นในกรณีที่มีนวัตกรรมใหม่ก้าวหน้ากว่าเข้ามาแทนที่
ปัจจุบันภาครัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันด้วยการเร่งพัฒนานวัตกรรมของสินค้าประเภทต่างๆ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งส่งทอเทคนิค โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอมีโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งทอเทคนิค เพื่อเป็นการนำร่องรวม 5 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร และสิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ โครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาสินค้าไทยให้สามารถไต่ระดับขึ้นไปแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อีกขั้นหนึ่ง
Q อยากทราบธรรมเนียมปฏิบัติเบื้องต้นในการติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซีย
A รัสเซียเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและไม่เหมือนชาติอื่นในโลก ดังนั้นการเรียนรู้ถึงธรรมเนียมปฏิบัตต่างๆ โดยเฉพาะในแง่ของการทำธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องตามธรรมเนียมของสังคมรัสเซียนับเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การเจรจาธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดี
สำหรับธรรมเนียปฏิบัติในการติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซียที่ควรทราบมีดังนี้
1. การเริ่มต้นติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซีย ควรมีการนัดหมายล่วงหน้าก่อนที่จะเดินทางไปติดต่อธุรกิจ โดยส่วนใหญ่นิยมติดต่อทางแฟกซ์หรืออีเมล ทั้งนี้ ไม่ควรนัดหมายในช่วยเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมเนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดประจำชาติหลายวัน
2. การนัดหมาย ควรไปถึงช้ากว่าเวลาที่นัดดหมายเล็กน้อยประมาณ 5-10 นาที ยกเว้นมีการตกลงกันแน่นอน เนื่องจากชาวรัสเซียไม่เคร่งครัดเรื่องเวลามากนัก และการไปถึงก่อนเวลานัดหมายจะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างมากเพระเสมือนเป็นการเร่งผู้ที่นัดหมายไว้
3. การแต่งการผู้ชายควรสวมสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีสว่างส่วนผู้หญิงควรสวมกระโปรงยาว หลีกเลี่ยงการใส่น้ำหอมและเครื่องประดับที่มีขนาดใหญ่
4. การทักทาย ผู้ชายควรทักทายด้วยการจับมือกันโดยการบีบมือแรงๆ เพื่อแสดงถึงความจริงใจและมิตรภาพที่ดีต่อกัน ส่วนผู้หญิงจะทักทายด้วยการก้มศีรษะลงเล็กน้อย แต่หากเป็นการทักทายด้วยการจับมือกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ผู้หญิงจะต้องยื่นมือให้ผู้ชายจับก่อนแต่ไม่ต้องบีบมือนอกจากนี้ การพบปะกันต้องการแลกเปลี่ยนนามบัตรและมีของขวัญติดมือไปด้วย ซึ่งของขวัญควรมีตราสัญญลักษณ์ของบริษัทหรือเป็นของที่ระลึกประจำชาติ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าคนรัสเซียมักไม่ค่อยยิ้มและดูไม่เป็นมิตร แต่ในความเป็นจริงชาวรัสเซียยินดีที่จะพบปะและสร้างความสัมพันธ์ด้วย นอกจากนี้ ชาวรัสเซียยังเป็นคนใจดีและชอบการคบหาสมาคม
5. การเจรจาธุรกิจ ไม่ควรเริ่มพูดด้วยเรื่องธุรกิจทันที ควรพูดเกริ่นนำเรื่องอื่นก่อนเช่น เรื่องครอบครัวหรือเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยการเจรจาธุรกิจกับชาวรัสเซียนั้นต้องตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย และระหว่างสนทนาไม่ควรเอามือล้วงกระเป๋าและห้ามแสดงอาการไม่พอใจโดยเด็ดขาด เพราะชาวรัสเซียให้ความสำคัญต่อบุคลิกภาพของคู่สนทนาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เนื่องจากชาวรัสเซียส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ ดังนั้น ก่อนเจรจาธุรกิจควรศึกษาก่อนว่าคู่เจรจาของตนสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้หรือไม่ หากไม่ได้จะต้องเตรียมล่ามไปด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจทราบถึงธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ก่อนเข้าไปติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซียสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.communicaid.com/russian-business-culture.asp
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2549--
-พห-
A สิ่งทอเทคนิค (Technical Textile) หมายถึงผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีคุณสมบัติและรูปแบบเฉพาะตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยทั่วไปสามารถจำแนกเป็น 12 ประเภท ได้แก่
1. สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร (Agrotech)
2. สิ่งทอเทคนิคทางการก่อสร้าง (Buildtech)
3. สิ่งทอเทคนิคทางธรณี (Geotech)
4. สิ่งทอเทคนิคทางอุตสาหกรรม (Indutech)
5. สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ (Medtech)
6. สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์(Mobitech)
7. สิ่งทอเทคนิคในบรรจุภัณฑ์(Packtech)
8. สิ่งทอเทคนิคเพื่อการป้องกัน (Protech)
9. สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ (Sporttech)
10. สิ่ทอเทคนิคสำหรับเครื่องเรือน (Hometech)
11. สิ่งทอเทคนิคเพื่อการรักษาสิ่งวแดลบ้อม (Oekotech)
12. สิ่งทอเทคนิคสำหรับเครื่องนุ่งห่ม (Clothtech) ปัจจุบันตลาดสิ่งทอเทคนิคของโลกมีมูลค่าราว 127,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีปริมาณการใช้สูงถึง 20 ล้านตัน/ปี
ทั้งนี้ ภายหลังการยกเลิกโควตาสิ่งทอตามกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (Multifibre Arrangement:MFA) ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization:WTO) ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดเสรีการค้าสิ่งทอโลก ส่งผลให้ผู้ผลิตสิ่งทอไทยประสบกับภาวการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับจีนซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ของโลก ดังนั้นผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งปรับตัวด้วยการพัฒนานวัตกรรมการผลิตสิ่งทอให้มีความหลากหลายและแตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งนี้ในบรรดากลยุทธ์การปรับตัวดังกล่าว การพัฒนาการผลิตสิ่งทอเทคนิคนับเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาและเสริมสร้างศักยภาพการส่งออกสิ่งทอไทยได้เป็นอย่างดีเนื่องจาก
1. สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัวและสอดคล้องกับความต้องการสินค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน สิ่งทอเทคนิคมีลักษณะการใช้งานเฉพาะกลุ่มและเจาะจงในแต่ละตลาด อาทิ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร เช่น วัสดุคลุมดินและรั้วตาข่าย สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเกษตรกรตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงเจ้าของกิจการฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ ปัจจุบันสิ่งทอเทคนิคของไทยที่การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ ประเภทพรมและผ้าหุ้มเบาะ
2. เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง สิ่งทอเทคนิคส่วนใหญ่เกิดจากการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่างๆ ให้มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด จึงเป็นสินค้าที่มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นในแต่ละช่วงเวลา อาทิ การพัฒนาสิ่งทอให้สามารถย่อยสลายตัวเองได้ ซึ่งสอดรับกับกระแสห่วงใยสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน การพัฒนาผ้าทอกันไฟและผ้าทอกันน้ำ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค เหล่านี้นับเป็นตัวอย่างของสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้สูงตามความจำเป็นในการใช้งาน
3. การผลิตไม่ขึ้นอยู่กับแฟชั่นหรือสมัยนิยม สิ่งทอเทคนนิคส่วนมากเป็นสินค้าเพื่อการใช้งานที่มีความจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ผู้ผลิตจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือสีสันภายนอกตามสมัยนิยม ยกเว้นในกรณีที่มีนวัตกรรมใหม่ก้าวหน้ากว่าเข้ามาแทนที่
ปัจจุบันภาครัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันด้วยการเร่งพัฒนานวัตกรรมของสินค้าประเภทต่างๆ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งส่งทอเทคนิค โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอมีโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งทอเทคนิค เพื่อเป็นการนำร่องรวม 5 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร และสิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ โครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาสินค้าไทยให้สามารถไต่ระดับขึ้นไปแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อีกขั้นหนึ่ง
Q อยากทราบธรรมเนียมปฏิบัติเบื้องต้นในการติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซีย
A รัสเซียเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและไม่เหมือนชาติอื่นในโลก ดังนั้นการเรียนรู้ถึงธรรมเนียมปฏิบัตต่างๆ โดยเฉพาะในแง่ของการทำธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องตามธรรมเนียมของสังคมรัสเซียนับเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้การเจรจาธุรกิจประสบความสำเร็จด้วยดี
สำหรับธรรมเนียปฏิบัติในการติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซียที่ควรทราบมีดังนี้
1. การเริ่มต้นติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซีย ควรมีการนัดหมายล่วงหน้าก่อนที่จะเดินทางไปติดต่อธุรกิจ โดยส่วนใหญ่นิยมติดต่อทางแฟกซ์หรืออีเมล ทั้งนี้ ไม่ควรนัดหมายในช่วยเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคมเนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดประจำชาติหลายวัน
2. การนัดหมาย ควรไปถึงช้ากว่าเวลาที่นัดดหมายเล็กน้อยประมาณ 5-10 นาที ยกเว้นมีการตกลงกันแน่นอน เนื่องจากชาวรัสเซียไม่เคร่งครัดเรื่องเวลามากนัก และการไปถึงก่อนเวลานัดหมายจะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างมากเพระเสมือนเป็นการเร่งผู้ที่นัดหมายไว้
3. การแต่งการผู้ชายควรสวมสูทสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีสว่างส่วนผู้หญิงควรสวมกระโปรงยาว หลีกเลี่ยงการใส่น้ำหอมและเครื่องประดับที่มีขนาดใหญ่
4. การทักทาย ผู้ชายควรทักทายด้วยการจับมือกันโดยการบีบมือแรงๆ เพื่อแสดงถึงความจริงใจและมิตรภาพที่ดีต่อกัน ส่วนผู้หญิงจะทักทายด้วยการก้มศีรษะลงเล็กน้อย แต่หากเป็นการทักทายด้วยการจับมือกันระหว่างผู้หญิงและผู้ชาย ผู้หญิงจะต้องยื่นมือให้ผู้ชายจับก่อนแต่ไม่ต้องบีบมือนอกจากนี้ การพบปะกันต้องการแลกเปลี่ยนนามบัตรและมีของขวัญติดมือไปด้วย ซึ่งของขวัญควรมีตราสัญญลักษณ์ของบริษัทหรือเป็นของที่ระลึกประจำชาติ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าคนรัสเซียมักไม่ค่อยยิ้มและดูไม่เป็นมิตร แต่ในความเป็นจริงชาวรัสเซียยินดีที่จะพบปะและสร้างความสัมพันธ์ด้วย นอกจากนี้ ชาวรัสเซียยังเป็นคนใจดีและชอบการคบหาสมาคม
5. การเจรจาธุรกิจ ไม่ควรเริ่มพูดด้วยเรื่องธุรกิจทันที ควรพูดเกริ่นนำเรื่องอื่นก่อนเช่น เรื่องครอบครัวหรือเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยการเจรจาธุรกิจกับชาวรัสเซียนั้นต้องตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย และระหว่างสนทนาไม่ควรเอามือล้วงกระเป๋าและห้ามแสดงอาการไม่พอใจโดยเด็ดขาด เพราะชาวรัสเซียให้ความสำคัญต่อบุคลิกภาพของคู่สนทนาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เนื่องจากชาวรัสเซียส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ ดังนั้น ก่อนเจรจาธุรกิจควรศึกษาก่อนว่าคู่เจรจาของตนสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้หรือไม่ หากไม่ได้จะต้องเตรียมล่ามไปด้วย
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจทราบถึงธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ก่อนเข้าไปติดต่อธุรกิจกับชาวรัสเซียสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.communicaid.com/russian-business-culture.asp
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2549--
-พห-