กุ้งเป็นสินค้าในกลุ่มสร้างรายได้จากการส่งออก ซึ่งในแต่ละปีสามารถนำเงินตราเข้าประเทศหลายหมื่นล้านบาท โดยล่าสุดปี 2548 ประเทศไทยสามารถส่งออกกุ้งคิดเป็นมูลค่า 70,364.42 ล้านบาท และในปี 2549 ภาครัฐบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งเป้าหมายว่ากุ้งจะเป็นตัวช่วยผลักดันการส่งออกโดยรวมของประเทศให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 17.5 ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ภาครัฐบาลและเอกชนได้ร่วมกันจัดทำ 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ - การเพิ่มศักยภาพพื้นที่การเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์ : เพิ่มศักยภาพพื้นที่การผลิต โดยการแบ่งโซนการเลี้ยงกุ้ง - การเพิ่มศักยภาพการเลี้ยง โดยจะมีการจัดตั้งหน่วยควบคุมและเฝ้าระวังการเกิดโรคระบาดให้ครอบคลุมพื้นที่เลี้ยงกุ้งทั้ง 28 จังหวัด - การเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยจะพัฒนาโรงงานแปรรูปเข้าสู่มาตรฐานข้อปฏิบัติสุขอนามัยของโรงงาน - การเพิ่มศักยภาพตลาด โดยการจัดตั้งองค์กรดูแลสินค้ากุ้งแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะมีการจัดตั้งสำนักงานกุ้งแห่งชาติ 1 แห่งและจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร 1 ชุด เพื่อทำการตลาดเชิงลุกประเด็นวิเคราะห์: การเพิ่มศักยภาพสินค้ากุ้งไทยโดยเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการเพาะเลี้ยงไปจนถึงกระบวนการสุดท้ายคือการส่งเสริมด้านการตลาด หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการได้ตามกลยุทย์ทั้ง 4 ข้างต้นและอยู่ในเงื่อนไขกำหนดเวลาที่กำหนด สินค้ากุ้งไทยก็จะเป็นตัวช่วยนำเงินตราเข้าสู่ประเทศไทย ได้ตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน เนื่องจากปัญหาใหญ่ของกุ้งไทยในขณะนี้คือ คุณภาพมาตรฐานสินค้าและการใช้ยาปฏิชีวนะต่างๆ ซึ่งทำให้ผู้ซื้อขาดความมั่นใจเกี่ยวกับสุขอนามัยของสินค้า จึงมีความเข้มงวดในการนำเข้ามากขึ้น ดังนั้นการดำเนินมาตรการที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ จะสร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้า และสินค้ากุ้งไทยจะได้เปรียบเชิงขีดความสามารถทางการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง ที่มา: http://www.depthai.go.th