นักลงทุนไทยให้ความสนใจงาน Roadshow การลงทุนของกัมพูชาอย่างคับคั่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 24, 2006 13:37 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549  ที่ผ่านมา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายเกริกไกร  จีระแพทย์) เป็นประธานเปิดงาน Roadshow การลงทุนของกัมพูชา ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของกัมพูชา (นายจอม  ประสิทธิ์) เป็นผู้นำคณะนักธุรกิจจำนวน 40 คน มานำเสนอสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปตและสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนไทย โดยรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาได้ย้ำว่า กัมพูชามีชายแดนติดกับไทย การตั้งโรงงานในกัมพูชาก็เหมือนกับตั้งโรงงานในไทยและสามารถขนส่งมายังแหลมฉบังและกรุงเทพฯ ได้ในระยะทางที่ไม่ต่างกัน แต่ลงทุนในกัมพูชาจะได้เปรียบในด้านต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะค่าแรง วัตถุดิบ ค่าเช่าที่ดิน และสิทธิ GSP ทั้งนี้ยังได้มีการหารือระหว่างรัฐมนตรีจอม ประสิทธิ์กับคณะผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาธุรกิจ ACMECs 
นายวินิจฉัย กล่าวต่อว่า สาขาการผลิตที่ภาคเอกชนไทยแสดงความสนใจเข้าไปลงทุนในกัมพูชา ได้แก่ การเกษตรและเกษตรแปรรูป เช่น การทำ contact farming อ้อย มันสำปะหลัง และพืชสบู่ดำ เพื่อการผลิต ethanol การแปรรูปผลไม้และน้ำผลไม้ การขุดเจาะแร่ การผลิตเครื่องดื่ม การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาแจ้งว่า กฎหมายการลงทุนของกัมพูชาให้สิทธิต่างชาติเข้าไปจดทะเบียนประกอบกิจการได้ 100% ให้สิทธิการเช่าที่ดินเพื่อประกอบธุรกิจนานถึง 99 ปี ทั้งนี้ต้องการเห็นบริษัทไทยเข้าไปลงทุนแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อส่งออกไปประเทศที่สาม ซึ่งจะสามารถใช้สิทธิ GSP ส่งออกสินค้าไปประเทศพัฒนาโดยไม่เสียภาษี และคาดว่าประมาณปี 2008 โครงการขุดเจาะน้ำมันและแก๊สธรรมชาติจะสำเร็จ กัมพูชาก็จะมีแหล่งพลังงานในประเทศเพื่อป้อนแก่อุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มขึ้น
สำหรับประเด็นที่ภาคเอกชนไทยเห็นว่ายังเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการค้า การลงทุนของไทย คือ การปลอมแปลงลอกเลียนแบบตราบรรจุภัณฑ์สินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และสุขอนามัยของประชาชน ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และขอให้เจ้าของสินค้าที่พบว่ามีการปลอมแปลงแจ้งให้ทราบ จะให้มีการตรวจจับตั้งแต่ด่านตรวจสินค้านำเข้า
ในด้านสาขาการผลิตที่ต้องการเชิญชวนนักลงทุนไทยย้ายฐานเข้าไปในกัมพูชา ได้แก่ การผลิตน้ำตาล การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ โดยย้ำว่านโยบายส่งเสริมการลงทุนในระยะต่อไปจะให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้กัมพูชา ยังสนับสนุนให้มีการเปิดด่านถาวร ณ จุดผ่านแดนต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยว เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดปัญหาสังคม การลักลอบผ่านแดนเพื่อหางานทำของทั้งสองประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้มีการแบ่งกลุ่มหารือธุรกิจ ระหว่างภาคเอกชน 4 กลุ่ม คือ การค้า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การขนส่งและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งต่างฝ่ายก็ได้ซักถามในประเด็นที่สนใจเพื่อร่วมค้าขายหรือร่วมทุนในกิจกรรมต่างๆ โดยนักธุรกิจของไทยยังได้หารือเรื่องการขนส่งสินค้าเข้ากัมพูชากับเจ้าหน้าที่ธุรกิจขนส่งของกัมพูชาด้วย
ทั้งนี้ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ศกนี้ เอกชนไทยในกลุ่มสาขาธุรกิจ ACMECs เตรียมจัดคณะนักลงทุนไทยเดินทางไปเยี่ยมชมและหารือกับคู่ค้าที่เขตเศรษฐกิจพิเศษปอยเปต รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมเตรียมจัดคณะนักธุรกิจที่พร้อมลงทุนเดินทางไปเจรจาธุรกิจกับหอการค้าของกัมพูชาในเร็วๆนี้ ธุรกิจที่มีโอกาส เช่น การขายปุ๋ยแลกกับแร่ การร่วมทุนทำ contact farming และการแปรรูปสินค้าเกษตร
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ