นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและแนวโน้มในระยะต่อไป เพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้
ในไตรมาสที่ 2 และเดือนกรกฎาคม 2549 เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้แม้ว่าอัตราการขยายตัวจะชะลอลงจากการใช้จ่ายภายในประเทศ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าการชะลอตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศจะเป็นไปอีกระยะหนึ่ง แต่คงไม่กระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมในระยะต่อไปมากนัก เนื่องจากภาคการส่งออกยังดีอยู่
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้นจากที่อัตราเงินเฟ้อลดลงและดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล แม้ราคาน้ำมันลดลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่และเป็นความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังต่อไป
คณะกรรมการฯ เห็นว่า เศรษฐกิจสามารถปรับตัวได้ดีทั้งด้านเสถียรภาพและการเจริญเติบโต แต่ความเสี่ยงทางด้านอัตราเงินเฟ้อยังมีอยู่ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันเหมาะสม จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันไว้ที่ร้อยละ 5.00 ต่อปี
ข้อมูลเพิ่มเติม : คุณจิตตาภา ประจวบเหมาะ โทร 0 2356 7872 e-mail: [email protected]
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
ในไตรมาสที่ 2 และเดือนกรกฎาคม 2549 เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวได้แม้ว่าอัตราการขยายตัวจะชะลอลงจากการใช้จ่ายภายในประเทศ คณะกรรมการฯ ประเมินว่าการชะลอตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศจะเป็นไปอีกระยะหนึ่ง แต่คงไม่กระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวมในระยะต่อไปมากนัก เนื่องจากภาคการส่งออกยังดีอยู่
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจดีขึ้นจากที่อัตราเงินเฟ้อลดลงและดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล แม้ราคาน้ำมันลดลงบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่และเป็นความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังต่อไป
คณะกรรมการฯ เห็นว่า เศรษฐกิจสามารถปรับตัวได้ดีทั้งด้านเสถียรภาพและการเจริญเติบโต แต่ความเสี่ยงทางด้านอัตราเงินเฟ้อยังมีอยู่ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันเหมาะสม จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วันไว้ที่ร้อยละ 5.00 ต่อปี
ข้อมูลเพิ่มเติม : คุณจิตตาภา ประจวบเหมาะ โทร 0 2356 7872 e-mail: [email protected]
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--