ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท ผอ.ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินไม่ให้ออก
และขายตั๋วแลกเงินสกุลเงินบาทกับผู้ที่อยู่นอกประเทศในทุกอายุสัญญาจากเดิมที่ห้ามเฉพาะสัญญาที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน โดยมาตรการดังกล่าวกำหนด
ขึ้น เพราะเป็นห่วงว่าจะมีการตั๋วแลกเงินให้กับผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non resident) ในตลาดรองเพราะตั๋วแลกเงินเป็นตราสารที่มีสภาพ
คล่องสูง ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รักษาการผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.พร้อมจะดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนจนกระทบการส่งออก แต่จะ
ไม่ฝืนกลไกตลาด ขณะเดียวกันก็พร้อมจะเข้าดูแลความผันผวนของเงินไหลเข้า-ออกที่จะยังมีมากในระยะต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้,
ข่าวสด, ไทยรัฐ, มติชน, สยามรํฐ, แนวหน้า)
2. ธปท.เผยภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ในไตรมาส 4 ปี 49 ส่งสัญญาณกระเตื้องขึ้น ผอส.สำนักงานภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจและการเงินในภาคใต้ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี49 ว่า เศรษฐกิจภาคใต้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน
โดยภาคเกษตรกรรมรายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 18.3 ซึ่งชะลอตัวค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่เร่งตัวขึ้นร้อยละ 78.9
เป็นผลจากระดับราคาสินค้าเกษตรลดลง ขณะเดียวกันไตรมาสที่ 3 ผลผลิตหลักโดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ชะลอลงจากร้อยละ
8.7 ในไตรมาสก่อน ส่วนราคาพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 ชะลอจากไตรมาสก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.3 ด้านภาคอุตสาหกรรมโดยรวมขยายตัว
ในอัตราชะลอลงจากไตรมาสที่ 2 การอุปโภคบริโภคมีอัตราการชะลอตัวจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาส
3 ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะด้านการก่อสร้าง มีพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนซึ่งมีพื้นที่การก่อสร้าง
ลดลง สาเหตุจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันและราคายางที่อยู่ในระดับสูง สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 4 รวมถึงปี 50 คาดว่า
จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายได้ของเกษตรกรที่อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่กำลัง
เข้าสู่ไฮซีซันในช่วงปลายปีด้วย (กรุงเทพธุรกิจ)
3. กองทุนฟื้นฟูฯ นำหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท. 52 บริษัทออกจำหน่าย รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ได้นำหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ 56 สถาบันการเงิน ผู้ล้มละลาย 41 บริษัท และกรรมสิทธิ์ของกองทุน 11 บริษัท รวม 52 บริษัท ออกจำหน่ายด้วย
วิธียื่นซองเสนอราคาเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ เนื่องจากกรมบังคับคดีได้ขยายเวลาให้กองทุนฟื้นฟูฯ ดำเนินการจำหน่ายหลักทรัพย์อีก 6 เดือน โดย
หลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่นำออกขายครั้งนี้เป็นหลักทรัพย์ที่เคยเสนอขายแล้วกลางปีที่ผ่านมา แต่ได้ราคาไม่ดี จึงนำมาเสนอขายใหม่ ทั้งนี้ กองทุนฟื้นฟูฯ
ได้กำหนดให้เสนอราคาระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย.49 เวลา 8.30-16.30 น. โดยผู้ประสงค์จะเสนอซื้อหลักทรัพย์สามารถยื่นซองได้ด้วยตนเองที่
ธปท. หรือยื่นซองผ่านไปรษณียภัณฑ์ลงทะเบียน (เดลินิวส์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. IEA คาดว่าราคาน้ำมันอาจสูงถึง 130.30 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลในปี 73 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 7 พ.ย.49 สนง.
พลังงานระหว่างประเทศหรือ IEA คาดว่าราคาน้ำมันอาจสูงถึง 130.30 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลในปี 73 หากการลงทุนในการสำรวจ
ขุดเจาะน้ำมันและสร้างโรงกลั่นต่ำเกินไป โดย IEA คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 4.3 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.เพื่อใช้ในการสำรวจ
ขุดเจาะน้ำมันและสร้างโรงกลั่นจึงจะทำให้มีน้ำมันพอกับความต้องการใช้ในปี 73 และทำให้ราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ 97.30 ดอลลาร์ สรอ.
ต่อบาร์เรล แต่จากตัวเลขการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา มีการลงทุนประมาณ 100 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ในแต่ละปี ในขณะที่เพื่อให้มีน้ำมันพอกับ
ความต้องการใช้ในปี 73 จะต้องมีการลงทุนในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 164 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยในจำนวนนี้เป็นการลงทุนเพื่อสำรวจและขุดเจาะ
น้ำมันประมาณ 125 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อใช้ในการสร้างโรงกลั่น โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การลงทุนต่ำ
กว่าที่ควรจะเป็นคือ การหวงแหนทรัพยากรของชาติในหลายประเทศอย่างเวเนซูเอล่าและรัสเซียซึ่งทำให้บริษัทที่ดำเนินกิจการสำรวจและขุดเจาะ
น้ำมันมีต้นทุนในการดำเนินการสูงขึ้นและถูกควบคุมเข้มงวดขึ้นจากประเทศเจ้าของแหล่งน้ำมัน (รอยเตอร์)
2. ยอดค้าปลีกของยูโรโซนในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าที่คาดไว้ รายงานจากบรัสเซลเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 49 สำนักงานสถิติของสหภาพ
ยุโรปเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของ 12 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรโซนในเดือน ก.ย. ลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.6 แต่เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 น้อยกว่าผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ที่คาดไว้ว่ายอดค้าปลีกในเดือน ก.ย. เทียบต่อเดือนจะ
ลดลงร้อยละ 0.5 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบต่อปี ทั้งนี้ยอดค้าปลีกเป็นเครื่องชี้วัดอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ดีและนักเศรษฐศาสตร์ใช้ตัวเลข
ดังกล่าวเพื่อดูว่า ธ.กลางยุโรปจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรเพื่อควบคุมระดับเงินเฟ้อ ซึ่งการบริโภคภาคเอกชนเป็นจุดอ่อนของเศรษฐกิจ
ยูโรโซนมาเป็นเวลาเนิ่นนาน เนื่องจากการขยายตัวของค่าจ้างเป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี และการว่างงานได้ส่งผล
ต่อการใช้จ่ายครัวเรือน ทั้งนี้นาย Sandra Petcov นักเศรษฐศาสตร์จาก Lehman Brothers ในยุโรปกล่าวว่า แผนการจัดเก็บภาษีมูลค่า
เพิ่มอัตราใหม่ในเดือน ม.ค. ปีหน้าของเยอรมนีนั้นไม่ได้ทำให้ยอดค้าปลีกในปีนี้แข็งแกร่งขึ้นเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ธ.กลางยุโรปมีกำหนดที่จะ
ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 3.50 อนึ่ง ยอดค้าปลีกของ
สมาชิกสหภาพยุโรป 25 ชาติในเดือน ก.ย. ลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าแต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ
2.4 (รอยเตอร์)
3. ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ย.49 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 7 พ.ย.49 ก.เศรษฐกิจ
เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือน ก.ย.49 ลดลงร้อยละ 0.3 เทียบต่อเดือน ตรงข้ามกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 ทั้งนี้
การลดลงของผลผลิตโรงงานในเดือน ก.ย.49 เป็นผลจากการลดลงของผลผลิตทั้ง 3 ภาคการผลิตซึ่งเป็นส่วนประกอบผลผลิตอุตสาหกรรม ได้แก่
ผลผลิตโรงงาน การก่อสร้าง และพลังงาน ซึ่งลดลงร้อยละ 0.3, 0.1 และ 1.4 เทียบต่อเดือน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรม
ของเยอรมนียังคงถือว่าแข็งแกร่งแม้จะชะลอตัวในเดือน ก.ย. เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 ปี 49 ผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.0
สูงสุดในรอบปี เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานและการก่อสร้างเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
4. รายได้ครัวเรือนของเกาหลีใต้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 49 ขยายตัวต่ำสุดในรอบปี รายงานจากโซลเมื่อ 7 พ.ย.49 The National Statistical Office เปิดเผยว่า รายได้ครัวเรือนของเกาหลีใต้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 49 ขยายตัวร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี ชะลอลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 และ 3.8 ในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสแรก ตามลำดับ และเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบปีนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 48 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.0 ทั้งนี้ การที่รายได้ครัวเรือนของเกาหลีใต้ขยายตัวชะลอลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อาจต้องอาศัยปัจจัยขับเคลื่อนด้านการส่งออกแทน แต่ผลจากการที่เศรษฐกิจ สรอ.ชะลอตัว อาจส่งผลให้การส่งออกของเกาหลีใต้ไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ดังนั้น ทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกล้วนเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ได้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8 พ.ย. 49 7 พ.ย. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 36.664 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 36.4775/36.7609 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 738.90/21.45 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,750/10,850 10,750/10,850 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 55.08 55.55 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลดลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 3 พ.ย. 49 25.29*/23.84* 25.29*/23.84* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท ผอ.ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกประกาศปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินไม่ให้ออก
และขายตั๋วแลกเงินสกุลเงินบาทกับผู้ที่อยู่นอกประเทศในทุกอายุสัญญาจากเดิมที่ห้ามเฉพาะสัญญาที่มีอายุต่ำกว่า 3 เดือน โดยมาตรการดังกล่าวกำหนด
ขึ้น เพราะเป็นห่วงว่าจะมีการตั๋วแลกเงินให้กับผู้มีถิ่นที่อยู่นอกประเทศ (non resident) ในตลาดรองเพราะตั๋วแลกเงินเป็นตราสารที่มีสภาพ
คล่องสูง ด้านนางธาริษา วัฒนเกส รักษาการผู้ว่าการ ธปท. เปิดเผยว่า ธปท.พร้อมจะดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนจนกระทบการส่งออก แต่จะ
ไม่ฝืนกลไกตลาด ขณะเดียวกันก็พร้อมจะเข้าดูแลความผันผวนของเงินไหลเข้า-ออกที่จะยังมีมากในระยะต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้,
ข่าวสด, ไทยรัฐ, มติชน, สยามรํฐ, แนวหน้า)
2. ธปท.เผยภาวะเศรษฐกิจภาคใต้ในไตรมาส 4 ปี 49 ส่งสัญญาณกระเตื้องขึ้น ผอส.สำนักงานภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจและการเงินในภาคใต้ช่วงไตรมาสที่ 3 ปี49 ว่า เศรษฐกิจภาคใต้ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน
โดยภาคเกษตรกรรมรายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 18.3 ซึ่งชะลอตัวค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่เร่งตัวขึ้นร้อยละ 78.9
เป็นผลจากระดับราคาสินค้าเกษตรลดลง ขณะเดียวกันไตรมาสที่ 3 ผลผลิตหลักโดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 ชะลอลงจากร้อยละ
8.7 ในไตรมาสก่อน ส่วนราคาพืชผลหลักเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.1 ชะลอจากไตรมาสก่อนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 63.3 ด้านภาคอุตสาหกรรมโดยรวมขยายตัว
ในอัตราชะลอลงจากไตรมาสที่ 2 การอุปโภคบริโภคมีอัตราการชะลอตัวจากไตรมาสก่อนเล็กน้อย ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนในไตรมาส
3 ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะด้านการก่อสร้าง มีพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนซึ่งมีพื้นที่การก่อสร้าง
ลดลง สาเหตุจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันและราคายางที่อยู่ในระดับสูง สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 4 รวมถึงปี 50 คาดว่า
จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายได้ของเกษตรกรที่อยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่กำลัง
เข้าสู่ไฮซีซันในช่วงปลายปีด้วย (กรุงเทพธุรกิจ)
3. กองทุนฟื้นฟูฯ นำหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท. 52 บริษัทออกจำหน่าย รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ได้นำหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
(ตลท.) ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ 56 สถาบันการเงิน ผู้ล้มละลาย 41 บริษัท และกรรมสิทธิ์ของกองทุน 11 บริษัท รวม 52 บริษัท ออกจำหน่ายด้วย
วิธียื่นซองเสนอราคาเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ เนื่องจากกรมบังคับคดีได้ขยายเวลาให้กองทุนฟื้นฟูฯ ดำเนินการจำหน่ายหลักทรัพย์อีก 6 เดือน โดย
หลักทรัพย์ส่วนหนึ่งที่นำออกขายครั้งนี้เป็นหลักทรัพย์ที่เคยเสนอขายแล้วกลางปีที่ผ่านมา แต่ได้ราคาไม่ดี จึงนำมาเสนอขายใหม่ ทั้งนี้ กองทุนฟื้นฟูฯ
ได้กำหนดให้เสนอราคาระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย.49 เวลา 8.30-16.30 น. โดยผู้ประสงค์จะเสนอซื้อหลักทรัพย์สามารถยื่นซองได้ด้วยตนเองที่
ธปท. หรือยื่นซองผ่านไปรษณียภัณฑ์ลงทะเบียน (เดลินิวส์)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. IEA คาดว่าราคาน้ำมันอาจสูงถึง 130.30 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลในปี 73 รายงานจากลอนดอนเมื่อ 7 พ.ย.49 สนง.
พลังงานระหว่างประเทศหรือ IEA คาดว่าราคาน้ำมันอาจสูงถึง 130.30 ดอลลาร์ สรอ.ต่อบาร์เรลในปี 73 หากการลงทุนในการสำรวจ
ขุดเจาะน้ำมันและสร้างโรงกลั่นต่ำเกินไป โดย IEA คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 4.3 ล้านล้านดอลลาร์ สรอ.เพื่อใช้ในการสำรวจ
ขุดเจาะน้ำมันและสร้างโรงกลั่นจึงจะทำให้มีน้ำมันพอกับความต้องการใช้ในปี 73 และทำให้ราคาน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ 97.30 ดอลลาร์ สรอ.
ต่อบาร์เรล แต่จากตัวเลขการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา มีการลงทุนประมาณ 100 พันล้านดอลลาร์ สรอ.ในแต่ละปี ในขณะที่เพื่อให้มีน้ำมันพอกับ
ความต้องการใช้ในปี 73 จะต้องมีการลงทุนในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 164 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยในจำนวนนี้เป็นการลงทุนเพื่อสำรวจและขุดเจาะ
น้ำมันประมาณ 125 พันล้านดอลลาร์ สรอ.และประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์ สรอ. เพื่อใช้ในการสร้างโรงกลั่น โดยสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การลงทุนต่ำ
กว่าที่ควรจะเป็นคือ การหวงแหนทรัพยากรของชาติในหลายประเทศอย่างเวเนซูเอล่าและรัสเซียซึ่งทำให้บริษัทที่ดำเนินกิจการสำรวจและขุดเจาะ
น้ำมันมีต้นทุนในการดำเนินการสูงขึ้นและถูกควบคุมเข้มงวดขึ้นจากประเทศเจ้าของแหล่งน้ำมัน (รอยเตอร์)
2. ยอดค้าปลีกของยูโรโซนในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าที่คาดไว้ รายงานจากบรัสเซลเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 49 สำนักงานสถิติของสหภาพ
ยุโรปเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของ 12 ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรโซนในเดือน ก.ย. ลดลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.6 แต่เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 น้อยกว่าผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ที่คาดไว้ว่ายอดค้าปลีกในเดือน ก.ย. เทียบต่อเดือนจะ
ลดลงร้อยละ 0.5 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบต่อปี ทั้งนี้ยอดค้าปลีกเป็นเครื่องชี้วัดอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ดีและนักเศรษฐศาสตร์ใช้ตัวเลข
ดังกล่าวเพื่อดูว่า ธ.กลางยุโรปจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรเพื่อควบคุมระดับเงินเฟ้อ ซึ่งการบริโภคภาคเอกชนเป็นจุดอ่อนของเศรษฐกิจ
ยูโรโซนมาเป็นเวลาเนิ่นนาน เนื่องจากการขยายตัวของค่าจ้างเป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเยอรมนี และการว่างงานได้ส่งผล
ต่อการใช้จ่ายครัวเรือน ทั้งนี้นาย Sandra Petcov นักเศรษฐศาสตร์จาก Lehman Brothers ในยุโรปกล่าวว่า แผนการจัดเก็บภาษีมูลค่า
เพิ่มอัตราใหม่ในเดือน ม.ค. ปีหน้าของเยอรมนีนั้นไม่ได้ทำให้ยอดค้าปลีกในปีนี้แข็งแกร่งขึ้นเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม ธ.กลางยุโรปมีกำหนดที่จะ
ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ร้อยละ 3.50 อนึ่ง ยอดค้าปลีกของ
สมาชิกสหภาพยุโรป 25 ชาติในเดือน ก.ย. ลดลงร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าแต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ
2.4 (รอยเตอร์)
3. ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงร้อยละ 0.3 ในเดือน ก.ย.49 รายงานจากเบอร์ลินเมื่อ 7 พ.ย.49 ก.เศรษฐกิจ
เปิดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือน ก.ย.49 ลดลงร้อยละ 0.3 เทียบต่อเดือน ตรงข้ามกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ขณะที่เมื่อเทียบต่อปีผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 ทั้งนี้
การลดลงของผลผลิตโรงงานในเดือน ก.ย.49 เป็นผลจากการลดลงของผลผลิตทั้ง 3 ภาคการผลิตซึ่งเป็นส่วนประกอบผลผลิตอุตสาหกรรม ได้แก่
ผลผลิตโรงงาน การก่อสร้าง และพลังงาน ซึ่งลดลงร้อยละ 0.3, 0.1 และ 1.4 เทียบต่อเดือน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ผลผลิตอุตสาหกรรม
ของเยอรมนียังคงถือว่าแข็งแกร่งแม้จะชะลอตัวในเดือน ก.ย. เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 ปี 49 ผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.0
สูงสุดในรอบปี เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าโรงงานและการก่อสร้างเพิ่มขึ้น (รอยเตอร์)
4. รายได้ครัวเรือนของเกาหลีใต้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 49 ขยายตัวต่ำสุดในรอบปี รายงานจากโซลเมื่อ 7 พ.ย.49 The National Statistical Office เปิดเผยว่า รายได้ครัวเรือนของเกาหลีใต้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 49 ขยายตัวร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี ชะลอลงจากที่ขยายตัวร้อยละ 4.5 และ 3.8 ในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสแรก ตามลำดับ และเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบปีนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 48 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.0 ทั้งนี้ การที่รายได้ครัวเรือนของเกาหลีใต้ขยายตัวชะลอลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในประเทศ (จีดีพี) ที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์มีความเห็นว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้อาจต้องอาศัยปัจจัยขับเคลื่อนด้านการส่งออกแทน แต่ผลจากการที่เศรษฐกิจ สรอ.ชะลอตัว อาจส่งผลให้การส่งออกของเกาหลีใต้ไม่ขยายตัวเท่าที่ควร ดังนั้น ทั้งการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกล้วนเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ได้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 8 พ.ย. 49 7 พ.ย. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 36.664 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 36.4775/36.7609 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 738.90/21.45 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,750/10,850 10,750/10,850 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 55.08 55.55 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลดลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 3 พ.ย. 49 25.29*/23.84* 25.29*/23.84* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--