แท็ก
อุตสาหกรรม
คำถาม : สิ่งทอเทคนิคคืออะไร และสำคัญอย่างไร
คำตอบ : สิ่งทอเทคนิค(Technical Textile) หมายถึง ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีคุณสมบัติและรูปแบบเฉพาะตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยทั่วไปสามารถจำแนกเป็น 12 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร(Agrotech) สิ่งทอเทคนิคทางการก่อสร้าง(Buildtech) สิ่งทอเทคนิคทางธรณี (Geotech) สิ่งทอเทคนิค ทางอุตสาหกรรม(Indutech) สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์(Medtech) สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ (Mobitech) สิ่งทอเทคนิคในบรรจุภัณฑ์ (Packtech) สิ่งทอเทคนิคเพื่อการป้องกัน (Protech)สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ (Sporttech)สิ่งทอเทคนิคสำหรับเครื่องเรือน(Hometech) สิ่งทอเทคนิคเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม(Oekotech)และสิ่งทอเทคนิคสำหรับเครื่องนุ่งห่ม(Clothtech) ปัจจุบันตลาดสิ่งทอเทคนิคของโลกมีมูลค่าราว 127,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปริมาณการใช้สูงถึง 20 ล้านตันต่อปี
ทั้งนี้ ภายหลังการยกเลิกโควตาสิ่งทอตามกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (Multifibre Arrangement : MFA) ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปิดเสรีการค้าสิ่งทอโลก ส่งผลให้ผู้ผลิตสิ่งทอไทยประสบกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ของโลก ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ด้วยการพัฒนานวัตกรรมการผลิตสิ่งทอให้มีความหลากหลายและแตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งนี้ ในบรรดากลยุทธ์ การปรับตัวดังกล่าว การพัฒนาการผลิตสิ่งทอเทคนิคนับเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาและเสริมสร้างศักยภาพการส่งออกสิ่งทอไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก
สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัวและสอดคล้องกับความต้องการสินค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน : สิ่งทอเทคนิคมีลักษณะการใช้งานเฉพาะกลุ่มและเจาะจงในแต่ละตลาด อาทิ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร เช่น วัสดุคลุมดินและรั้วตาข่ายสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเกษตรกรตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงเจ้าของกิจการฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ ปัจจุบันสิ่งทอเทคนิคของไทยที่การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ ประเภทพรม และผ้าหุ้มเบาะ
เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง : สิ่งทอเทคนิคส่วนใหญ่เกิดจากการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่าง ๆให้มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด จึงเป็นสินค้าที่มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรม อย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นในแต่ละช่วงเวลา อาทิ การพัฒนาสิ่งทอ ให้สามารถย่อยสลายตัวเองได้ สอดรับกับกระแสห่วงใยสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน การพัฒนาผ้าทอกันไฟและผ้าทอกันน้ำ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค เหล่านี้นับเป็นตัวอย่างของสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้สูงตามความจำเป็นในการใช้งาน
การผลิตไม่ขึ้นอยู่กับแฟชั่นหรือสมัยนิยม : สิ่งทอเทคนิคส่วนมากเป็นสินค้าเพื่อการใช้งานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ผู้ผลิตจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือสีสันภายนอกตามสมัยนิยม ยกเว้นในกรณีที่มีนวัตกรรมใหม่ก้าวหน้ากว่าเข้ามาแทนที่
ปัจจุบันภาครัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขัน ด้วยการเร่งพัฒนานวัตกรรมของสินค้าประเภทต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ่งทอเทคนิค โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอมีโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งทอเทคนิคเพื่อเป็นการนำร่องรวม 5 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคทางการก่อสร้างสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร และสิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ โครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาสินค้าไทยให้สามารถไต่ระดับขึ้นไปแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อีกขั้นหนึ่ง
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2549--
-พห-
คำตอบ : สิ่งทอเทคนิค(Technical Textile) หมายถึง ผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่มีคุณสมบัติและรูปแบบเฉพาะตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน โดยทั่วไปสามารถจำแนกเป็น 12 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร(Agrotech) สิ่งทอเทคนิคทางการก่อสร้าง(Buildtech) สิ่งทอเทคนิคทางธรณี (Geotech) สิ่งทอเทคนิค ทางอุตสาหกรรม(Indutech) สิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์(Medtech) สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ (Mobitech) สิ่งทอเทคนิคในบรรจุภัณฑ์ (Packtech) สิ่งทอเทคนิคเพื่อการป้องกัน (Protech)สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ (Sporttech)สิ่งทอเทคนิคสำหรับเครื่องเรือน(Hometech) สิ่งทอเทคนิคเพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อม(Oekotech)และสิ่งทอเทคนิคสำหรับเครื่องนุ่งห่ม(Clothtech) ปัจจุบันตลาดสิ่งทอเทคนิคของโลกมีมูลค่าราว 127,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีปริมาณการใช้สูงถึง 20 ล้านตันต่อปี
ทั้งนี้ ภายหลังการยกเลิกโควตาสิ่งทอตามกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม (Multifibre Arrangement : MFA) ขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปิดเสรีการค้าสิ่งทอโลก ส่งผลให้ผู้ผลิตสิ่งทอไทยประสบกับภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มรายใหญ่ของโลก ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ด้วยการพัฒนานวัตกรรมการผลิตสิ่งทอให้มีความหลากหลายและแตกต่างจากคู่แข่ง ทั้งนี้ ในบรรดากลยุทธ์ การปรับตัวดังกล่าว การพัฒนาการผลิตสิ่งทอเทคนิคนับเป็นทางเลือกใหม่ ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาและเสริมสร้างศักยภาพการส่งออกสิ่งทอไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก
สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มได้อย่างลงตัวและสอดคล้องกับความต้องการสินค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน : สิ่งทอเทคนิคมีลักษณะการใช้งานเฉพาะกลุ่มและเจาะจงในแต่ละตลาด อาทิ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร เช่น วัสดุคลุมดินและรั้วตาข่ายสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเกษตรกรตั้งแต่รายเล็กไปจนถึงเจ้าของกิจการฟาร์มเกษตรขนาดใหญ่ ปัจจุบันสิ่งทอเทคนิคของไทยที่การส่งออกมีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ ประเภทพรม และผ้าหุ้มเบาะ
เป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง : สิ่งทอเทคนิคส่วนใหญ่เกิดจากการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์สิ่งทอต่าง ๆให้มีคุณสมบัติตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด จึงเป็นสินค้าที่มีการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรม อย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มตามนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นในแต่ละช่วงเวลา อาทิ การพัฒนาสิ่งทอ ให้สามารถย่อยสลายตัวเองได้ สอดรับกับกระแสห่วงใยสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน การพัฒนาผ้าทอกันไฟและผ้าทอกันน้ำ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภค เหล่านี้นับเป็นตัวอย่างของสินค้าที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้สูงตามความจำเป็นในการใช้งาน
การผลิตไม่ขึ้นอยู่กับแฟชั่นหรือสมัยนิยม : สิ่งทอเทคนิคส่วนมากเป็นสินค้าเพื่อการใช้งานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ผู้ผลิตจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบหรือสีสันภายนอกตามสมัยนิยม ยกเว้นในกรณีที่มีนวัตกรรมใหม่ก้าวหน้ากว่าเข้ามาแทนที่
ปัจจุบันภาครัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขัน ด้วยการเร่งพัฒนานวัตกรรมของสินค้าประเภทต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ่งทอเทคนิค โดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอมีโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งทอเทคนิคเพื่อเป็นการนำร่องรวม 5 ประเภท ได้แก่ สิ่งทอเทคนิคทางการก่อสร้างสิ่งทอเทคนิคทางการแพทย์ สิ่งทอเทคนิคทางกีฬาและนันทนาการ สิ่งทอเทคนิคทางการเกษตร และสิ่งทอเทคนิคในยานยนต์ โครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีส่วนช่วยพัฒนาสินค้าไทยให้สามารถไต่ระดับขึ้นไปแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อีกขั้นหนึ่ง
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธันวาคม 2549--
-พห-