ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.เตรียมออกมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวภายหลังการหารือ
ร่วมกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง ว่า มีความจำเป็นที่ต้องศึกษาหามาตรการในการดูแลเงินทุนนำเข้าระยะสั้นเพิ่มเติม
อีก จากมาตรการผ่อนคลายการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศที่ได้ศึกษาไว้แล้ว และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาประกาศใช้ของ ก.คลัง โดยได้
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศึกษาเพิ่มเติมมาตรการในการดูแลเงินทุนนำเข้าระยะสั้นในช่องทางต่างๆ ที่ ธปท.พบว่ามีการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ด้าน
น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาว่า
ธปท.พบพฤติกรรมการเก็งกำไรที่ผิดปกติ ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วมากเกินไป (ผู้จัดการรายวัน 4, ไทยโพสต์ 2, ผู้จัดการรายวัน 2,
กรุงเทพธุรกิจ 2, ข่าวสด 2)
2. ภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 ปี 49 ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
รายงานภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 ว่า ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่ดินที่มีมูลค่า
145,343 ล.บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.7% และจำนวนรายการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วประเทศที่มีจำนวน
198,701 รายการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.6% เช่นเดียวกับยอดการขอสินเชื่อบ้านของธนาคารโดยรวมก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
(กรุงเทพธุรกิจ, มติชน)
3. เงินเฟ้อเดือน พ.ย.49 ลดลง 0.1% เทียบต่อเดือน ปลัด ก.พาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ)
เดือน พ.ย.49 ว่า เงินเฟ้อมีค่าเท่ากับ 115.4 ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.49 แต่เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.48 สูงขึ้น 3.5% และ
เงินเฟ้อเฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.49) สูงขึ้น 4.8% ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยที่ปรับลดลงจากเงินเฟ้อในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุ
ที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน พ.ย.ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่
อาหารเครื่องดื่มลดลง 0.1% เนื่องจากภัยน้ำท่วมที่เริ่มคลี่คลาย น้ำมันเบนซินและดีเซลลดลงถึงชนิดละ 1 ครั้งตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก
สำหรับอัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 3.5% เนื่องจากฐานเงินเฟ้อเดือน พ.ย.48 มีอัตราต่ำผิดปกติ
ส่วนเงินเฟ้อทั้งปีคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4.6-4.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดัชนีราคาสินค้าทั่วไปไม่ได้เคลื่อนไหวรุนแรง ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อปีหน้า
คาดว่าจะปรับลดลงต่ำกว่าปีนี้ (ข่าวสด 2, ผู้จัดการรายวัน 2, ไทยโพสต์ 2)
4. คาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี 49 จะขยายตัวชะลอลงจากปี 48 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศอ.)
เปิดเผยว่า สศอ.ประเมินดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี 49 ว่าจะขยายตัว 7.1% ชะลอลงจากปี 48 ที่ขยายตัว 8.77% เนื่องจากปัจจัยการชะลอตัว
ลงของการบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนของภาคเอกชนที่ลดลง แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่ประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ เช่น อาเซียน
ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ยังเติบโตในระดับที่ดี สำหรับปี 50 คาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะสามารถขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปี 49 (ข่าวสด 2)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. Global PMI ในเดือน พ.ย.49 ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ที่ระดับ 53.3 รายงานจากลอนดอน เมื่อ 1 ธ.ค.49
JP Morgan ร่วมกับ Research and Supply Management Organisation เปิดเผยว่า
Global Purchasing Manager Index (Global PMI) ในเดือน พ.ย.49 ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน (ตั้งแต่เดือน ส.ค.48)
ที่ระดับ 53.3 จากระดับ 53.9 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากดัชนีชี้วัดผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ สรอ.ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า
3 ปีครึ่ง (ตั้งแต่เดือนเม.ย.46) โดย The Institute for Supply Management (ISM) เปิดเผยว่า ผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ
สรอ.ลดลงต่ำกว่าระดับ 50 (ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวและหดตัว) อยู่ที่ระดับ 49.5 จากระดับ 51.2 ในเดือน ต.ค.49 และต่ำกว่า
ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 51.5 นอกจากนี้ การลดลงของผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลงยังส่งผลต่อดัชนีการ
จ้างงานของโลกในเดือน พ.ย.49 ลดลงอีกด้วย โดยอยู่ที่ระดับ 51.9 จากระดับ 52.5 ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าผลผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ
61.0 จากระดับ 59.5 หลังจากที่ลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การลดลงของผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ
สรอ. ถูกชดเชยโดยผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปที่ค่อนข้างจะอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะชะลอลงเล็กน้อยก็ตาม
โดยอยู่ที่ระดับ 56.6 จากระดับ 57.0 ในเดือนก่อนหน้า อนึ่ง ดัชนี Global PMI ได้จากการรวบรวมข้อมูลจากประเทศต่าง ๆ รวมถึง ประเทศ
สรอ. ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และรัสเซีย (รอยเตอร์)
2. ผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ สรอ.ในเดือน พ.ย.49 หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ
1 ธ.ค.49 ดัชนีชี้วัดผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ สรอ.ในเดือน พ.ย.49 จากผลสำรวจโดย The Institute for
Supply Management ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49.5 จากระดับ 51.2 ในเดือน ต.ค.49 ผิดจากที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.5 และนับ
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย.46 ที่ดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 อันแสดงให้เห็นถึงการหดตัวของผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้
ก.พาณิชย์รายงานการใช้จ่ายในภาคการก่อสร้างลดลงร้อยละ 1 ในเดือน ต.ค.49 อันแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของตลาดบ้านใน สรอ.
จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ธ.กลาง สรอ.จะลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่
ร้อยละ 5.25 ต่อปีซึ่งคงที่มาตั้งแต่เดือน ส.ค.49 หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีก่อนหน้า ในขณะที่มีนักเศรษฐศาสตร์บาง
คนเห็นว่ามีแต่ภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับรถยนต์ที่ชะลอตัวลงในขณะที่ภาคเศรษฐกิจอื่นยังอยู่ในเกณฑ์ดี จึงไม่เชื่อว่า ธ.กลาง
สรอ.จะลดอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ (รอยเตอร์)
3. อัตราการว่างงานของ Euro zone ในเดือน ต.ค.49 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 1 ธ.ค.49
สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานอัตราการว่างงานใน 12 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 ในเดือน ต.ค.49
จากร้อยละ 7.8 ในเดือน ก.ย.49 ผลจากอัตราการว่างงานในเยอรมนี ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมลดลง โดยเฉพาะเยอรมนีซึ่งขนาดเศรษฐกิจ
ใหญ่ที่สุดใน Euro zone มีอัตราว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 8.2 ในเดือน ต.ค.49 ลดลงจากร้อยละ 8.6 ในเดือน ก.ย.49 นักวิเคราะห์เชื่อว่า
อัตราว่างงานที่ลดลงจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นและส่งผลให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนซึ่งเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจ Euro zone .
ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 ที่ผ่านมาขยายตัว จะส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายปี 49 ขยายตัวดีด้วย สอดคล้องกับผลสำรวจของคณะกรรมาธิการ
ยุโรปที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน พ.ย.49 อยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ตลาดการเงินคาดว่า ธ.กลางยุโรปหรือ ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.5 ต่อปีในเดือน ธ.ค.49 นี้ แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปี 50 หรือไม่ เนื่องจากคาดว่า
เศรษฐกิจในปี 50 จะชะลอตัวลงโดยขยายตัวเพียงร้อยละ 2.1 จากร้อยละ 2.5 ในปี 49 (รอยเตอร์)
4. ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เทียบต่อปี รายงานจากโซล เมื่อ 1 ธ.ค.49
สำนักงานสถิติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากปีก่อนหน้า ชะลอลงกว่าที่ตลาด
คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 แต่สูงกว่าเดือน ต.ค.49 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ขณะที่เดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 และ
หากเทียบต่อเดือนแล้ว ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 (ตัวเลขหลังปรับปัจจัยทางฤดูกาล) สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์
ว่าจะลดลงร้อยละ 0.3 และลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ต.ค.49 ทั้งนี้ นักลงทุนและนักวิเคราะห์มักจะใช้ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบต่อปี
เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเงินเฟ้อในเกาหลีใต้ สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน ในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ
2.3 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ทุกเดือนระหว่างเดือน มิ.ย.-ต.ค.49 อนึ่ง ในการประชุมครั้งล่าสุด (9 พ.ย.49) ธ.กลางเกาหลีใต้ประ
กาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 คือ ร้อยละ 4.50 ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธ.กลางกล่าวว่า ขณะนี้มีความกังวลเกี่ยวกับระดับราคาที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ชะลอลงจะส่งผลต่อการพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลางในการประชุมครั้งต่อไป (7 ธ.ค.49) (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 4 ธ.ค. 49 1 ธ.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมู
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 35.838 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 35.6369/35.9190 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.06/21.80 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,900/11,000 10,900/11,000 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.96 60.21 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 2 ธ.ค. 49 26.09*/24.24 25.69*/23.84 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.เตรียมออกมาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวภายหลังการหารือ
ร่วมกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง ว่า มีความจำเป็นที่ต้องศึกษาหามาตรการในการดูแลเงินทุนนำเข้าระยะสั้นเพิ่มเติม
อีก จากมาตรการผ่อนคลายการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศที่ได้ศึกษาไว้แล้ว และอยู่ระหว่างรอการพิจารณาประกาศใช้ของ ก.คลัง โดยได้
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศึกษาเพิ่มเติมมาตรการในการดูแลเงินทุนนำเข้าระยะสั้นในช่องทางต่างๆ ที่ ธปท.พบว่ามีการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินบาท ด้าน
น.ส.นิตยา พิบูลย์รัตนกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมาว่า
ธปท.พบพฤติกรรมการเก็งกำไรที่ผิดปกติ ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วมากเกินไป (ผู้จัดการรายวัน 4, ไทยโพสต์ 2, ผู้จัดการรายวัน 2,
กรุงเทพธุรกิจ 2, ข่าวสด 2)
2. ภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3 ปี 49 ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
รายงานภาวะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 ว่า ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่ดินที่มีมูลค่า
145,343 ล.บาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.7% และจำนวนรายการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั่วประเทศที่มีจำนวน
198,701 รายการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.6% เช่นเดียวกับยอดการขอสินเชื่อบ้านของธนาคารโดยรวมก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
(กรุงเทพธุรกิจ, มติชน)
3. เงินเฟ้อเดือน พ.ย.49 ลดลง 0.1% เทียบต่อเดือน ปลัด ก.พาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ)
เดือน พ.ย.49 ว่า เงินเฟ้อมีค่าเท่ากับ 115.4 ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.49 แต่เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.48 สูงขึ้น 3.5% และ
เงินเฟ้อเฉลี่ย 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.49) สูงขึ้น 4.8% ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยที่ปรับลดลงจากเงินเฟ้อในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุ
ที่ทำให้เงินเฟ้อเดือน พ.ย.ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง 0.2% ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่
อาหารเครื่องดื่มลดลง 0.1% เนื่องจากภัยน้ำท่วมที่เริ่มคลี่คลาย น้ำมันเบนซินและดีเซลลดลงถึงชนิดละ 1 ครั้งตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก
สำหรับอัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เพิ่มสูงขึ้นมากถึง 3.5% เนื่องจากฐานเงินเฟ้อเดือน พ.ย.48 มีอัตราต่ำผิดปกติ
ส่วนเงินเฟ้อทั้งปีคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4.6-4.8% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าดัชนีราคาสินค้าทั่วไปไม่ได้เคลื่อนไหวรุนแรง ส่วนแนวโน้มเงินเฟ้อปีหน้า
คาดว่าจะปรับลดลงต่ำกว่าปีนี้ (ข่าวสด 2, ผู้จัดการรายวัน 2, ไทยโพสต์ 2)
4. คาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี 49 จะขยายตัวชะลอลงจากปี 48 ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศอ.)
เปิดเผยว่า สศอ.ประเมินดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมปี 49 ว่าจะขยายตัว 7.1% ชะลอลงจากปี 48 ที่ขยายตัว 8.77% เนื่องจากปัจจัยการชะลอตัว
ลงของการบริโภคภายในประเทศ และการลงทุนของภาคเอกชนที่ลดลง แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากการส่งออกที่ประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ เช่น อาเซียน
ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ยังเติบโตในระดับที่ดี สำหรับปี 50 คาดว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมจะสามารถขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปี 49 (ข่าวสด 2)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. Global PMI ในเดือน พ.ย.49 ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ที่ระดับ 53.3 รายงานจากลอนดอน เมื่อ 1 ธ.ค.49
JP Morgan ร่วมกับ Research and Supply Management Organisation เปิดเผยว่า
Global Purchasing Manager Index (Global PMI) ในเดือน พ.ย.49 ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน (ตั้งแต่เดือน ส.ค.48)
ที่ระดับ 53.3 จากระดับ 53.9 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากดัชนีชี้วัดผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ สรอ.ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า
3 ปีครึ่ง (ตั้งแต่เดือนเม.ย.46) โดย The Institute for Supply Management (ISM) เปิดเผยว่า ผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ
สรอ.ลดลงต่ำกว่าระดับ 50 (ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการขยายตัวและหดตัว) อยู่ที่ระดับ 49.5 จากระดับ 51.2 ในเดือน ต.ค.49 และต่ำกว่า
ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 51.5 นอกจากนี้ การลดลงของผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตที่ลดลงยังส่งผลต่อดัชนีการ
จ้างงานของโลกในเดือน พ.ย.49 ลดลงอีกด้วย โดยอยู่ที่ระดับ 51.9 จากระดับ 52.5 ขณะที่ดัชนีราคานำเข้าผลผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ
61.0 จากระดับ 59.5 หลังจากที่ลดลงอย่างมากตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การลดลงของผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ
สรอ. ถูกชดเชยโดยผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปที่ค่อนข้างจะอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะชะลอลงเล็กน้อยก็ตาม
โดยอยู่ที่ระดับ 56.6 จากระดับ 57.0 ในเดือนก่อนหน้า อนึ่ง ดัชนี Global PMI ได้จากการรวบรวมข้อมูลจากประเทศต่าง ๆ รวมถึง ประเทศ
สรอ. ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ จีน และรัสเซีย (รอยเตอร์)
2. ผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ สรอ.ในเดือน พ.ย.49 หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ
1 ธ.ค.49 ดัชนีชี้วัดผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรมของ สรอ.ในเดือน พ.ย.49 จากผลสำรวจโดย The Institute for
Supply Management ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 49.5 จากระดับ 51.2 ในเดือน ต.ค.49 ผิดจากที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 51.5 และนับ
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย.46 ที่ดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 อันแสดงให้เห็นถึงการหดตัวของผลผลิตโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้
ก.พาณิชย์รายงานการใช้จ่ายในภาคการก่อสร้างลดลงร้อยละ 1 ในเดือน ต.ค.49 อันแสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงของตลาดบ้านใน สรอ.
จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ธ.กลาง สรอ.จะลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ที่
ร้อยละ 5.25 ต่อปีซึ่งคงที่มาตั้งแต่เดือน ส.ค.49 หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีก่อนหน้า ในขณะที่มีนักเศรษฐศาสตร์บาง
คนเห็นว่ามีแต่ภาคการก่อสร้างและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับรถยนต์ที่ชะลอตัวลงในขณะที่ภาคเศรษฐกิจอื่นยังอยู่ในเกณฑ์ดี จึงไม่เชื่อว่า ธ.กลาง
สรอ.จะลดอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้ (รอยเตอร์)
3. อัตราการว่างงานของ Euro zone ในเดือน ต.ค.49 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 รายงานจากบรัสเซลส์ เมื่อ 1 ธ.ค.49
สนง.สถิติกลางของยุโรปรายงานอัตราการว่างงานใน 12 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 7.7 ในเดือน ต.ค.49
จากร้อยละ 7.8 ในเดือน ก.ย.49 ผลจากอัตราการว่างงานในเยอรมนี ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมลดลง โดยเฉพาะเยอรมนีซึ่งขนาดเศรษฐกิจ
ใหญ่ที่สุดใน Euro zone มีอัตราว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 8.2 ในเดือน ต.ค.49 ลดลงจากร้อยละ 8.6 ในเดือน ก.ย.49 นักวิเคราะห์เชื่อว่า
อัตราว่างงานที่ลดลงจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้นและส่งผลให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนซึ่งเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจ Euro zone .
ในไตรมาสที่ 3 ปี 49 ที่ผ่านมาขยายตัว จะส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายปี 49 ขยายตัวดีด้วย สอดคล้องกับผลสำรวจของคณะกรรมาธิการ
ยุโรปที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน พ.ย.49 อยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งนี้ตลาดการเงินคาดว่า ธ.กลางยุโรปหรือ ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 3.5 ต่อปีในเดือน ธ.ค.49 นี้ แต่ยังไม่แน่นอนว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปี 50 หรือไม่ เนื่องจากคาดว่า
เศรษฐกิจในปี 50 จะชะลอตัวลงโดยขยายตัวเพียงร้อยละ 2.1 จากร้อยละ 2.5 ในปี 49 (รอยเตอร์)
4. ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เทียบต่อปี รายงานจากโซล เมื่อ 1 ธ.ค.49
สำนักงานสถิติเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากปีก่อนหน้า ชะลอลงกว่าที่ตลาด
คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 แต่สูงกว่าเดือน ต.ค.49 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ขณะที่เดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 และ
หากเทียบต่อเดือนแล้ว ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 (ตัวเลขหลังปรับปัจจัยทางฤดูกาล) สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์
ว่าจะลดลงร้อยละ 0.3 และลดลงร้อยละ 0.1 ในเดือน ต.ค.49 ทั้งนี้ นักลงทุนและนักวิเคราะห์มักจะใช้ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเทียบต่อปี
เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเงินเฟ้อในเกาหลีใต้ สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน ในเดือน พ.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ
2.3 หลังจากที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 ทุกเดือนระหว่างเดือน มิ.ย.-ต.ค.49 อนึ่ง ในการประชุมครั้งล่าสุด (9 พ.ย.49) ธ.กลางเกาหลีใต้ประ
กาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 คือ ร้อยละ 4.50 ทั้งนี้ ผู้ว่าการ ธ.กลางกล่าวว่า ขณะนี้มีความกังวลเกี่ยวกับระดับราคาที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ชะลอลงจะส่งผลต่อการพิจารณานโยบายอัตราดอกเบี้ยของ ธ.กลางในการประชุมครั้งต่อไป (7 ธ.ค.49) (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 4 ธ.ค. 49 1 ธ.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมู
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 35.838 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 35.6369/35.9190 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 739.06/21.80 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,900/11,000 10,900/11,000 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 58.96 60.21 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 2 ธ.ค. 49 26.09*/24.24 25.69*/23.84 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--