คำถาม : ขั้นตอนการขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC เพื่อส่งออกไปจีน มีรายละเอียดอย่างไร
คำตอบ : CCC Mark หรือ China Compulsory Certification Mark เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าสินค้าที่จำหน่ายในจีนทั้งที่นำเข้าและผลิตในประเทศมีการออกแบบและผลิตได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมตามที่รัฐบาลจีนกำหนด ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้สินค้าในจีนว่าสินค้ามีความปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เครื่องหมาย CCC เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2546
ขั้นตอนการขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC บนผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ของสินค้า มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
* ตรวจสอบรายชื่อสินค้าที่เข้าข่ายต้องติดเครื่องหมาย CCC ปัจจุบัน China Quality CertificationCenter หรือ CQC (หน่วยงานหลักของจีนในการกำหนดและตรวจสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่มหานครปักกิ่ง) เพิ่มรายการสินค้าที่ต้องติดเครื่องหมาย CCC เป็น 21 หมวดสินค้า จากเดิม 19 หมวดสินค้าได้แก่ สายไฟและสายเคเบิล สวิตช์วงจรไฟฟ้าและอุปกรณ์สำหรับป้องกันหรือเชื่อมต่อไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันต่ำมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เครื่องมือไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์เครื่องเสียงและวิดีโอ สินค้าไอที อุปกรณ์ส่องสว่างอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในรถยนต์ ยางรถยนต์ กระจกนิรภัย เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องจักรเชื่อมโลหะผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย อุปกรณ์เตือนภัย อุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย และวัสดุตกแต่งบ้านนอกจากนี้ ผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องจัดเตรียมเอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตและรายชื่อวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เพื่อใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC
* ทดสอบผลิตภัณฑ์และตรวจสอบโรงงาน CQC กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายต้องติดเครื่องหมาย CCC ต้องนำสินค้าตัวอย่างไปตรวจสอบที่หน่วยงานตรวจสอบผลิตภัณฑ์ (Accredited Testing Lab) ที่ผ่านการรับรองจาก CQC ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 76 แห่งในจีน กระจายอยู่ตามมณฑลใหญ่ อาทิ กวางตุ้ง และกว่างซี
ขณะเดียวกัน CQC จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกระบวนการผลิตและโรงงานของผู้ผลิตทั้งที่ตั้งอยู่ในประเทศและต่างประเทศ หากผลการตรวจสอบพบว่าทั้งผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และโรงงานผ่านมาตรฐานตามที่ CQC กำหนดCQC จะออกใบรับรองที่เรียกว่า "Certificate for China Compulsory Product Certification" ให้แก่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าทั้งนี้ CQC จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงงานอีกทุก ๆ 12-18 เดือน หลังจากอนุญาตให้ติดเครื่องหมาย CCC เพื่อติดตามและควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง
* ติดเครื่องหมาย CCC หลังจากผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้รับใบรับรองผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และโรงงานจาก CQC แล้ว จึงจะสามารถติดเครื่องหมาย CCC บนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ได้ ด้วยการสั่งซื้อฉลากเครื่องหมาย CCC จาก CQC ซึ่งมีให้เลือก 5 ขนาด ได้แก่ ขนาด 8 มิลลิเมตร ขนาด 15 มิลลิเมตร ขนาด 30 มิลลิเมตรขนาด 45 มิลลิเมตร และขนาด 60 มิลลิเมตร ทำให้ผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ฉลากได้เหมาะสมกับขนาดของผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์
ตัวอย่างของเครื่องหมาย CCC ที่ติดบนสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์
การขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC ตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นใช้เวลาประมาณ 45-90 วัน มีค่าใช้จ่ายราว 100,000-300,000 บาท
ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่าหลังการบรรลุข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2548 ซึ่งทำให้จีนต้องปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมจากอาเซียนลงกว่า 7,000 รายการ จะทำให้รัฐบาลจีนเข้มงวดมากขึ้นกับการบังคับใช้มาตรฐานความปลอดภัยภายใต้เครื่องหมาย CCC เพื่อสกัดการไหลเข้าของสินค้าจากอาเซียน รวมถึงไทย ผู้ประกอบการไทยที่มุ่งส่งออกไปจีนจึงควรเร่งปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนดภายใต้เครื่องหมาย CCC เพราะการได้รับอนุญาตให้ติดเครื่องหมาย CCC นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกรัฐบาลจีนปฏิเสธการนำเข้าแล้ว ยังเอื้อต่อการทำตลาดในจีนได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นเครื่องหมายที่รับรองว่าสินค้ามีคุณภาพเป็นที่น่าเชื่อถือ
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2549--
-พห-
คำตอบ : CCC Mark หรือ China Compulsory Certification Mark เป็นเครื่องหมายที่แสดงว่าสินค้าที่จำหน่ายในจีนทั้งที่นำเข้าและผลิตในประเทศมีการออกแบบและผลิตได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมตามที่รัฐบาลจีนกำหนด ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้สินค้าในจีนว่าสินค้ามีความปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม เครื่องหมาย CCC เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2546
ขั้นตอนการขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC บนผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์ของสินค้า มีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้
* ตรวจสอบรายชื่อสินค้าที่เข้าข่ายต้องติดเครื่องหมาย CCC ปัจจุบัน China Quality CertificationCenter หรือ CQC (หน่วยงานหลักของจีนในการกำหนดและตรวจสอบมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่มหานครปักกิ่ง) เพิ่มรายการสินค้าที่ต้องติดเครื่องหมาย CCC เป็น 21 หมวดสินค้า จากเดิม 19 หมวดสินค้าได้แก่ สายไฟและสายเคเบิล สวิตช์วงจรไฟฟ้าและอุปกรณ์สำหรับป้องกันหรือเชื่อมต่อไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันต่ำมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เครื่องมือไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์เครื่องเสียงและวิดีโอ สินค้าไอที อุปกรณ์ส่องสว่างอุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในรถยนต์ ยางรถยนต์ กระจกนิรภัย เครื่องจักรกลการเกษตร เครื่องจักรเชื่อมโลหะผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย อุปกรณ์เตือนภัย อุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย และวัสดุตกแต่งบ้านนอกจากนี้ ผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องจัดเตรียมเอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตและรายชื่อวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เพื่อใช้ประกอบการยื่นขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC
* ทดสอบผลิตภัณฑ์และตรวจสอบโรงงาน CQC กำหนดให้ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าสินค้าที่เข้าข่ายต้องติดเครื่องหมาย CCC ต้องนำสินค้าตัวอย่างไปตรวจสอบที่หน่วยงานตรวจสอบผลิตภัณฑ์ (Accredited Testing Lab) ที่ผ่านการรับรองจาก CQC ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 76 แห่งในจีน กระจายอยู่ตามมณฑลใหญ่ อาทิ กวางตุ้ง และกว่างซี
ขณะเดียวกัน CQC จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกระบวนการผลิตและโรงงานของผู้ผลิตทั้งที่ตั้งอยู่ในประเทศและต่างประเทศ หากผลการตรวจสอบพบว่าทั้งผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และโรงงานผ่านมาตรฐานตามที่ CQC กำหนดCQC จะออกใบรับรองที่เรียกว่า "Certificate for China Compulsory Product Certification" ให้แก่ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าทั้งนี้ CQC จะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบโรงงานอีกทุก ๆ 12-18 เดือน หลังจากอนุญาตให้ติดเครื่องหมาย CCC เพื่อติดตามและควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง
* ติดเครื่องหมาย CCC หลังจากผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้รับใบรับรองผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และโรงงานจาก CQC แล้ว จึงจะสามารถติดเครื่องหมาย CCC บนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ได้ ด้วยการสั่งซื้อฉลากเครื่องหมาย CCC จาก CQC ซึ่งมีให้เลือก 5 ขนาด ได้แก่ ขนาด 8 มิลลิเมตร ขนาด 15 มิลลิเมตร ขนาด 30 มิลลิเมตรขนาด 45 มิลลิเมตร และขนาด 60 มิลลิเมตร ทำให้ผู้ผลิตสามารถเลือกใช้ฉลากได้เหมาะสมกับขนาดของผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์
ตัวอย่างของเครื่องหมาย CCC ที่ติดบนสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์
การขออนุญาตติดเครื่องหมาย CCC ตามขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้นใช้เวลาประมาณ 45-90 วัน มีค่าใช้จ่ายราว 100,000-300,000 บาท
ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่าหลังการบรรลุข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2548 ซึ่งทำให้จีนต้องปรับลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมจากอาเซียนลงกว่า 7,000 รายการ จะทำให้รัฐบาลจีนเข้มงวดมากขึ้นกับการบังคับใช้มาตรฐานความปลอดภัยภายใต้เครื่องหมาย CCC เพื่อสกัดการไหลเข้าของสินค้าจากอาเซียน รวมถึงไทย ผู้ประกอบการไทยที่มุ่งส่งออกไปจีนจึงควรเร่งปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ที่กำหนดภายใต้เครื่องหมาย CCC เพราะการได้รับอนุญาตให้ติดเครื่องหมาย CCC นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกรัฐบาลจีนปฏิเสธการนำเข้าแล้ว ยังเอื้อต่อการทำตลาดในจีนได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นเครื่องหมายที่รับรองว่าสินค้ามีคุณภาพเป็นที่น่าเชื่อถือ
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย มีนาคม 2549--
-พห-