แท็ก
ธปท.
ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท.ระบุเศรษฐกิจไทยปี 49 มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง
“ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2550” ว่า เศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และอยู่ระหว่างการปรับตัวช่วงสุดท้ายเพื่อรับกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก่อนที่
จะกลับมาขยายตัวดีได้ในช่วงต้นปี 50 สำหรับปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจในปี 49 มีความเข้มแข็งและขยายตัวได้ในอัตราที่สูง (ครึ่งแรกปี 49 ขยายตัว
ที่ 5.5%) ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่
- 1) ฐานะการเงินระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง โดยทุนสำรองฯ อยู่ในระดับสูง และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล
- 2) เศรษฐกิจทั้ง 3 สาขา ได้แก่ ภาคเกษตร ส่งออก และการท่องเที่ยว ยังขยายตัวดี
- 3) การจ้างงานในประเทศอยู่ในระดับที่ดี และ
- 4) ฐานะการเงินของภาคธุรกิจยังเติบโตดี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยระยะต่อไปยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยง 3 ด้าน ได้แก่
ราคาน้ำมันที่ยังผันผวน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และทิศทางการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (โลกวันนี้, ข่าวสด, ไทยโพสต์)
2. รัฐบาลกำหนดเป้าหมาย งปม.รายจ่ายปี 50 แบบขาดดุล แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยภายหลัง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ก.คลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงการจัดเตรียมกรอบ งปม.รายจ่ายปี 50 ว่า ที่ประชุมได้
พิจารณากรอบการจัดทำ งปม.รายจ่ายประจำปี 50 ให้สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 และ
แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ การจัดทำ งปม. กำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 4.5-5% หรือมูลค่าผลิตภัณฑ์ในประเทศเพิ่มขึ้นจาก
7.7 ล้านล้านบาทเป็น 8.4 ล้านล้านบาท อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 3-3.5% ขณะที่จีดีพีก่อนหักเงินเฟ้อ (Nominal GDP) ขยายตัว 8% สำหรับ
งปม.ปี 50 จะเป็น งปม.แบบขาดดุล โดยในเบื้องต้นกำหนดวงเงินการขาดดุลไว้ที่ 1-1.5 แสน ล.บาท หรือประมาณ 1-2% ของจีดีพี โดย
ระดับดังกล่าว ธปท. ก.คลัง และ สศช. ยืนยันว่าไม่กระทบเสถียรภาพทางการเงินการคลัง โดยที่ประชุมเสนอเพิ่มกรอบ งปม.รายจ่ายจาก
1.5 ล้านล้านบาทเป็น 1.52 ล้านล้านบาท และให้กรมสรรพากรเพิ่มเป้าหมายการจัดเก็บรายได้จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.4 ล้านล้านบาทเป็น
1.42 ล้านล้านบาท เพื่อให้ งปม.ขาดดุลประมาณ 1 แสน ล.บาทตามที่กำหนดไว้เบื้องต้น ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปวงเงิน งปม.ปี 50 ได้
ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ, มติชน, ข่าวสด)
3. การจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาลในปี งปม.49 ต่ำกว่าประมาณการ 1.5% นายสมชัย สัจจพงษ์ รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการ
คลัง (สศค.) ในฐานะโฆษก ก.คลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้สุทธิตลอดปี งปม.49 ของรัฐบาลว่า จัดเก็บได้ 1,339,385 ล.บาท ต่ำกว่า
ประมาณการตามเอกสาร งปม. 20,615 ล.บาท หรือ 1.5% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 74,453 ล.บาทหรือ 5.9% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้
การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในช่วงต้นปี งปม. ทำให้รายได้จาก
ภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง เงินบาทที่แข็งค่ากว่าที่ประมาณการไว้ส่งผลให้การจัดเก็บอากรขาเข้าของกรมศุลกากรต่ำกว่าประมาณการ ประกอบ
กับผลจากการคืนภาษีของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการ 29,568 ล.บาท (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, ข่าวสด, ไทยโพสต์)
4. ปตท.ยืนยันไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ปตท.จะไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นเล็กน้อย
โดยจะรอดูสถานการณ์สัปดาห์นี้อีกครั้ง ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นระบุว่า สัปดาห์นี้คงยากที่จะเห็นราคาน้ำมันขายปลีกปรับลดลง เหมือนหลายสัปดาห์
ที่ผ่านมา เพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มปรับขึ้นหลังกลุ่มโอเปกประกาศปรับลดกำลังการผลิตวันละประมาณ 1 ล้านบาร์เรล (ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. เศรษฐกิจ สรอ.กำลังชะลอตัวลงแต่ไม่ได้ถดถอย รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 10 ต.ค.49 ผลสำรวจโดย
the Conference Board ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของโลกชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ.กำลังชะลอตัวลงแต่ไม่ได้ถดถอย โดย
เศรษฐกิจ สรอ.ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 2 ปี 49 หลังจากขยายตัวถึงร้อยละ 5.6 ในไตรมาสแรก นักวิเคราะห์จึงคาดกันว่า
ธ.กลาง สรอ.จะลดอัตราดอกเบี้ยในต้นปีหน้าเมื่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ธ.กลาง สรอ.ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย
นโยบายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันเมื่อเดือน ก.ย.49 ที่ผ่านมา หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง 17 ครั้งนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.47 เป็นต้นมา
(รอยเตอร์)
2. ยอดสินค้าส่งคงคลังของ สรอ. เดือน ส.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศ สรอ. เมื่อวันที่
10 ต.ค.49 ข้อมูลจากทางการ สรอ. เปิดเผยว่า สินค้าคงคลังของผู้ค้าส่ง สรอ. ในเดือน ส.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับร้อยละ
0.9 ในเดือน ก.ค.49 และสูงกว่าที่ผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.7 โดยยอดคงคลังของ
สินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นครั้งที่ 36 ส่วนยอดคงคลังของสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ทั้งนี้
เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งคงคลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งร้อยละ 12.5 จากปีก่อน(รอยเตอร์)
3. ภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น รายงานจากโตเกียว เมื่อ 10 ต.ค.49 ผลสำรวจโดย
the Central Council for Financial Services Information ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ ธ.กลางญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.ถึง
10 ก.ค.49 ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,476 ครัวเรือนในญี่ปุ่นพบว่าครัวเรือนในญี่ปุ่นถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นร้อยละ 9.0 ของ
สินทรัพย์ทางการเงิน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.9 ในปี 48 เช่นเดียวกับการถือครองหุ้นใน investment trust ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็นร้อยละ 4.8 จากร้อยละ 2.5 ในปี 48 โดยหลักทรัพย์ที่อยู่ในรูปเงินตราต่างประเทศกำลังได้รับความ
นิยมในหมู่นักลงทุนที่มีฐานะดี อย่างไรก็ดี เงินฝากยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดคือร้อยละ 39.0 แม้ว่าสัดส่วนจะลดลงมาเล็กน้อยจากร้อยละ 39.7 ใน
ปี 48 ทั้งนี้มูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินโดยเฉลี่ยของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.2 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านเยนในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อปี 48 (รอยเตอร์)
4. ยอดการค้าปลีกของอังกฤษเดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่
10 ต.ค.49 British Retail Consortium เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นในอัตราลดลงเล็กน้อยร้อยละ
2.4 เทียบต่อปี จากร้อยละ 2.5 ในเดือน ส.ค.49 เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ส.ค.49 ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการ
ใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าถ้าเทียบกับเดือน ก.ย.48 ที่ยอดขายปลีกได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถไฟใต้ดิน
ที่กรุงลอนดอนเมื่อเดือน ก.ค.48 ในขณะที่ตลาดการเงินไม่ได้แสดงปฏิกิริยาต่อข้อมูลดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยัง
ขยายตัวได้ดีและจะเป็นปัจจัยเสริมให้ ธ.กลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 11 ต.ค. 49 10 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.533 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.3338/37.6214 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 699.16/9.80 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,150/10,250 10,250/10,350 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 54 55.84 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท.ระบุเศรษฐกิจไทยปี 49 มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวในงานสัมมนาเรื่อง
“ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2550” ว่า เศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และอยู่ระหว่างการปรับตัวช่วงสุดท้ายเพื่อรับกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก่อนที่
จะกลับมาขยายตัวดีได้ในช่วงต้นปี 50 สำหรับปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจในปี 49 มีความเข้มแข็งและขยายตัวได้ในอัตราที่สูง (ครึ่งแรกปี 49 ขยายตัว
ที่ 5.5%) ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่
- 1) ฐานะการเงินระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง โดยทุนสำรองฯ อยู่ในระดับสูง และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล
- 2) เศรษฐกิจทั้ง 3 สาขา ได้แก่ ภาคเกษตร ส่งออก และการท่องเที่ยว ยังขยายตัวดี
- 3) การจ้างงานในประเทศอยู่ในระดับที่ดี และ
- 4) ฐานะการเงินของภาคธุรกิจยังเติบโตดี อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยระยะต่อไปยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยง 3 ด้าน ได้แก่
ราคาน้ำมันที่ยังผันผวน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และทิศทางการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (โลกวันนี้, ข่าวสด, ไทยโพสต์)
2. รัฐบาลกำหนดเป้าหมาย งปม.รายจ่ายปี 50 แบบขาดดุล แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยภายหลัง
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นรม.และ รมว.คลัง เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ก.คลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหารือถึงการจัดเตรียมกรอบ งปม.รายจ่ายปี 50 ว่า ที่ประชุมได้
พิจารณากรอบการจัดทำ งปม.รายจ่ายประจำปี 50 ให้สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 และ
แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ การจัดทำ งปม. กำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวในระดับ 4.5-5% หรือมูลค่าผลิตภัณฑ์ในประเทศเพิ่มขึ้นจาก
7.7 ล้านล้านบาทเป็น 8.4 ล้านล้านบาท อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 3-3.5% ขณะที่จีดีพีก่อนหักเงินเฟ้อ (Nominal GDP) ขยายตัว 8% สำหรับ
งปม.ปี 50 จะเป็น งปม.แบบขาดดุล โดยในเบื้องต้นกำหนดวงเงินการขาดดุลไว้ที่ 1-1.5 แสน ล.บาท หรือประมาณ 1-2% ของจีดีพี โดย
ระดับดังกล่าว ธปท. ก.คลัง และ สศช. ยืนยันว่าไม่กระทบเสถียรภาพทางการเงินการคลัง โดยที่ประชุมเสนอเพิ่มกรอบ งปม.รายจ่ายจาก
1.5 ล้านล้านบาทเป็น 1.52 ล้านล้านบาท และให้กรมสรรพากรเพิ่มเป้าหมายการจัดเก็บรายได้จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.4 ล้านล้านบาทเป็น
1.42 ล้านล้านบาท เพื่อให้ งปม.ขาดดุลประมาณ 1 แสน ล.บาทตามที่กำหนดไว้เบื้องต้น ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถสรุปวงเงิน งปม.ปี 50 ได้
ในวันที่ 13 ต.ค.นี้ (กรุงเทพธุรกิจ, มติชน, ข่าวสด)
3. การจัดเก็บรายได้สุทธิของรัฐบาลในปี งปม.49 ต่ำกว่าประมาณการ 1.5% นายสมชัย สัจจพงษ์ รอง ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการ
คลัง (สศค.) ในฐานะโฆษก ก.คลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้สุทธิตลอดปี งปม.49 ของรัฐบาลว่า จัดเก็บได้ 1,339,385 ล.บาท ต่ำกว่า
ประมาณการตามเอกสาร งปม. 20,615 ล.บาท หรือ 1.5% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 74,453 ล.บาทหรือ 5.9% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้
การจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าประมาณการ ได้แก่ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลในช่วงต้นปี งปม. ทำให้รายได้จาก
ภาษีสรรพสามิตน้ำมันลดลง เงินบาทที่แข็งค่ากว่าที่ประมาณการไว้ส่งผลให้การจัดเก็บอากรขาเข้าของกรมศุลกากรต่ำกว่าประมาณการ ประกอบ
กับผลจากการคืนภาษีของกรมสรรพากรที่สูงกว่าประมาณการ 29,568 ล.บาท (กรุงเทพธุรกิจ, โลกวันนี้, ข่าวสด, ไทยโพสต์)
4. ปตท.ยืนยันไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ปตท.จะไม่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นเล็กน้อย
โดยจะรอดูสถานการณ์สัปดาห์นี้อีกครั้ง ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นระบุว่า สัปดาห์นี้คงยากที่จะเห็นราคาน้ำมันขายปลีกปรับลดลง เหมือนหลายสัปดาห์
ที่ผ่านมา เพราะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มปรับขึ้นหลังกลุ่มโอเปกประกาศปรับลดกำลังการผลิตวันละประมาณ 1 ล้านบาร์เรล (ข่าวสด)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. เศรษฐกิจ สรอ.กำลังชะลอตัวลงแต่ไม่ได้ถดถอย รายงานจากนิวยอร์ค เมื่อ 10 ต.ค.49 ผลสำรวจโดย
the Conference Board ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำของโลกชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจ สรอ.กำลังชะลอตัวลงแต่ไม่ได้ถดถอย โดย
เศรษฐกิจ สรอ.ขยายตัวเพียงร้อยละ 2.6 ในไตรมาสที่ 2 ปี 49 หลังจากขยายตัวถึงร้อยละ 5.6 ในไตรมาสแรก นักวิเคราะห์จึงคาดกันว่า
ธ.กลาง สรอ.จะลดอัตราดอกเบี้ยในต้นปีหน้าเมื่อเศรษฐกิจที่ชะลอตัวช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ธ.กลาง สรอ.ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย
นโยบายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันเมื่อเดือน ก.ย.49 ที่ผ่านมา หลังจากขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง 17 ครั้งนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.47 เป็นต้นมา
(รอยเตอร์)
2. ยอดสินค้าส่งคงคลังของ สรอ. เดือน ส.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศ สรอ. เมื่อวันที่
10 ต.ค.49 ข้อมูลจากทางการ สรอ. เปิดเผยว่า สินค้าคงคลังของผู้ค้าส่ง สรอ. ในเดือน ส.ค.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เทียบกับร้อยละ
0.9 ในเดือน ก.ค.49 และสูงกว่าที่ผลสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.7 โดยยอดคงคลังของ
สินค้าคงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นครั้งที่ 36 ส่วนยอดคงคลังของสินค้าไม่คงทนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ทั้งนี้
เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งคงคลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งร้อยละ 12.5 จากปีก่อน(รอยเตอร์)
3. ภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น รายงานจากโตเกียว เมื่อ 10 ต.ค.49 ผลสำรวจโดย
the Central Council for Financial Services Information ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของ ธ.กลางญี่ปุ่นในระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.ถึง
10 ก.ค.49 ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างจำนวน 3,476 ครัวเรือนในญี่ปุ่นพบว่าครัวเรือนในญี่ปุ่นถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นร้อยละ 9.0 ของ
สินทรัพย์ทางการเงิน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7.9 ในปี 48 เช่นเดียวกับการถือครองหุ้นใน investment trust ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเป็นร้อยละ 4.8 จากร้อยละ 2.5 ในปี 48 โดยหลักทรัพย์ที่อยู่ในรูปเงินตราต่างประเทศกำลังได้รับความ
นิยมในหมู่นักลงทุนที่มีฐานะดี อย่างไรก็ดี เงินฝากยังคงมีสัดส่วนมากที่สุดคือร้อยละ 39.0 แม้ว่าสัดส่วนจะลดลงมาเล็กน้อยจากร้อยละ 39.7 ใน
ปี 48 ทั้งนี้มูลค่าสินทรัพย์ทางการเงินโดยเฉลี่ยของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นอยู่ที่ 4.2 ล้านเยน เพิ่มขึ้นจาก 4 ล้านเยนในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อปี 48 (รอยเตอร์)
4. ยอดการค้าปลีกของอังกฤษเดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 เทียบต่อปี รายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่
10 ต.ค.49 British Retail Consortium เปิดเผยว่า ยอดการค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ก.ย.49 เพิ่มขึ้นในอัตราลดลงเล็กน้อยร้อยละ
2.4 เทียบต่อปี จากร้อยละ 2.5 ในเดือน ส.ค.49 เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ส.ค.49 ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการ
ใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าถ้าเทียบกับเดือน ก.ย.48 ที่ยอดขายปลีกได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถไฟใต้ดิน
ที่กรุงลอนดอนเมื่อเดือน ก.ค.48 ในขณะที่ตลาดการเงินไม่ได้แสดงปฏิกิริยาต่อข้อมูลดังกล่าว ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยัง
ขยายตัวได้ดีและจะเป็นปัจจัยเสริมให้ ธ.กลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 11 ต.ค. 49 10 ต.ค. 49 31 ม.ค. 49 แหล่งข้อมูล
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 37.533 39.078 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 37.3338/37.6214 38.9113/39.2013 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 5.12313 4.29375 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 699.16/9.80 762.63/12.66 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,150/10,250 10,250/10,350 10,350/10,450 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 54 55.84 60.96 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับลด เมื่อ 6 ต.ค. 49 25.59*/24.14* 25.59*/24.14* 27.24/24.69 ปตท.
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--