กรุงเทพ--4 ส.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2549 เวลา 10.30 น. นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ อุปทูต ณ กรุงริยาด ได้แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทยในเลบานอน และอิสราเอล สรุปได้ ดังนี้
1. ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในเลบานอน ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และกรุงเทลอาวีฟดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยทั้งในเลบานอนและอิสราเอลอย่างเต็มที่ โดยย้ำว่าการดูแลช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศเป็นนโยบายหลักที่สำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ
2. กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสถานเอกอัครราทูต ณ กรุงริยาด ได้เข้าไปตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในเลบานอนที่ประเทศซีเรียตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2549 และจะดำเนินการต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อประสาน ดูแล ช่วยเหลือ คนไทยในเลบานอน อาทิ การอพยพไปพื้นที่ปลอดภัย การจัดทำเอกสารเดินทาง การจัดหาที่พักและอาหารระหว่างรออพยพกลับไทย รวมทั้งการประสานเรื่องตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ
3. กรณีเลบานอน : กระทรวงการต่างประเทศได้ประสาน/พูดคุย และดูแลคนไทยที่ยังคงอยู่ในเลบานอน (จำนวน 32 คน) อย่างสม่ำเสมอ และศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่ดามัสกัส ก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือนำคนไทยออกมาจากเลบานอนในทันทีที่สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น นอกจากนั้น
อุปทูตสุวัฒน์ฯ ได้แจ้งด้วยว่า ได้พยายามประสานกับบริษัทนายจ้างให้พิจารณารับคนไทยที่ต้องอพยพกลับไทยกลับเข้าทำงานอีกครั้งเมื่อสถานการณ์สงบ
4. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้ประธานาธิบดีอาร์โรโยแห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งมีสถานทูตในเลบานอนช่วยดูแลคนไทยในเลบานอนในกรณีที่ต้องอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศยังได้ประสานกับ International Organization of Migration (IOM) สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอิสราเอลให้ช่วยดูแลช่วยเหลือคนไทยในเลบานอน และอิสราเอลในกรณีฉุกเฉินด้วย
5. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ในนามรัฐบาลไทยได้มอบเงิน 5,670,000 บาท ช่วยเหลือชาวเลบานอนผ่านคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ
6. อุปทูตสุวัฒน์ฯ แจ้งด้วยว่า หากคนไทยทิ่เดินทางไปต่างประเทศจะแจ้งที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ให้สถานทูตและสถานกงสุลไทยทราบ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการติดต่อให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในเลบานอน ซึ่งสถานทูตฯ สามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือคนไทยได้โดยทันที
7. กรณีอิสราเอล : กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายคนไทย 425 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยมาสู่พื้นที่ปลอดภัยในอิสราเอลแล้ว ในจำนวนนี้ มีคนไทยเดินทางออกจากประเทศอิสราเอลมาถึงประเทศไทยแล้ว 52 คน (ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2549) บางส่วนเป็นการเดินทางกลับตามวาระปกติ
สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากกรุงเทลอาวีฟถึงกรุงเทพในวันนี้ (3 สิงหาคม 2549) เวลา 14.30 น. โดยเที่ยวบิน LY 081 ได้แก่
1) นายธีระศักดิ์ ไม่แพ้
2) นายบุญเพ็ง ค้ำชู
3) นายวิจัย พึ่งภพ
4) นายเศียร แสนศรี
นอกจากนั้น คาดว่า จะมีคนไทยจากอิสราเอลอีก 2 คน เดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 6 สิงหาคม ศกนี้
อนึ่ง คนงานไทยในอิสราเอลที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด มี 3 คน ทุกคนอาการปลอดภัย โดยเฉพาะนายเสถียน บุญฤทธิ์ ซึ่งขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2549 เวลา 10.30 น. นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ อุปทูต ณ กรุงริยาด ได้แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนไทยในเลบานอน และอิสราเอล สรุปได้ ดังนี้
1. ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในเลบานอน ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และกรุงเทลอาวีฟดำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยทั้งในเลบานอนและอิสราเอลอย่างเต็มที่ โดยย้ำว่าการดูแลช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศเป็นนโยบายหลักที่สำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ
2. กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยสถานเอกอัครราทูต ณ กรุงริยาด ได้เข้าไปตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในเลบานอนที่ประเทศซีเรียตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2549 และจะดำเนินการต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อประสาน ดูแล ช่วยเหลือ คนไทยในเลบานอน อาทิ การอพยพไปพื้นที่ปลอดภัย การจัดทำเอกสารเดินทาง การจัดหาที่พักและอาหารระหว่างรออพยพกลับไทย รวมทั้งการประสานเรื่องตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ
3. กรณีเลบานอน : กระทรวงการต่างประเทศได้ประสาน/พูดคุย และดูแลคนไทยที่ยังคงอยู่ในเลบานอน (จำนวน 32 คน) อย่างสม่ำเสมอ และศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่ดามัสกัส ก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือนำคนไทยออกมาจากเลบานอนในทันทีที่สถานการณ์ตึงเครียดขึ้น นอกจากนั้น
อุปทูตสุวัฒน์ฯ ได้แจ้งด้วยว่า ได้พยายามประสานกับบริษัทนายจ้างให้พิจารณารับคนไทยที่ต้องอพยพกลับไทยกลับเข้าทำงานอีกครั้งเมื่อสถานการณ์สงบ
4. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ขอให้ประธานาธิบดีอาร์โรโยแห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งมีสถานทูตในเลบานอนช่วยดูแลคนไทยในเลบานอนในกรณีที่ต้องอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศยังได้ประสานกับ International Organization of Migration (IOM) สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และอิสราเอลให้ช่วยดูแลช่วยเหลือคนไทยในเลบานอน และอิสราเอลในกรณีฉุกเฉินด้วย
5. ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ ในนามรัฐบาลไทยได้มอบเงิน 5,670,000 บาท ช่วยเหลือชาวเลบานอนผ่านคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ
6. อุปทูตสุวัฒน์ฯ แจ้งด้วยว่า หากคนไทยทิ่เดินทางไปต่างประเทศจะแจ้งที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ให้สถานทูตและสถานกงสุลไทยทราบ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการติดต่อให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ดังเช่นที่เกิดขึ้นในเลบานอน ซึ่งสถานทูตฯ สามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือคนไทยได้โดยทันที
7. กรณีอิสราเอล : กระทรวงการต่างประเทศโดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายคนไทย 425 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยมาสู่พื้นที่ปลอดภัยในอิสราเอลแล้ว ในจำนวนนี้ มีคนไทยเดินทางออกจากประเทศอิสราเอลมาถึงประเทศไทยแล้ว 52 คน (ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2549) บางส่วนเป็นการเดินทางกลับตามวาระปกติ
สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากกรุงเทลอาวีฟถึงกรุงเทพในวันนี้ (3 สิงหาคม 2549) เวลา 14.30 น. โดยเที่ยวบิน LY 081 ได้แก่
1) นายธีระศักดิ์ ไม่แพ้
2) นายบุญเพ็ง ค้ำชู
3) นายวิจัย พึ่งภพ
4) นายเศียร แสนศรี
นอกจากนั้น คาดว่า จะมีคนไทยจากอิสราเอลอีก 2 คน เดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 6 สิงหาคม ศกนี้
อนึ่ง คนงานไทยในอิสราเอลที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด มี 3 คน ทุกคนอาการปลอดภัย โดยเฉพาะนายเสถียน บุญฤทธิ์ ซึ่งขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-