ข่าวเศรษฐกิจในประเทศ
1. ธปท. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบาย
การเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 8 มี.ค.49 มีมติให้ปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอาร์พี 14 วัน ร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 4.25 เป็น 4.50 โดยมีผลทันที เนื่องจาก กนง. เห็นว่า
แรงกดดันต่อเสถียรภาพภายในประเทศยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังอยู่ในระดับสูงและยังคงมี
ความเสี่ยงที่อาจสูงเกินกว่าเป้าหมายในระยะต่อไป ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของเงินฝากประจำ
12 เดือน ยังติดลบอยู่ร้อยละ 0.85 ซึ่ง กนง. มีเป้าหมายที่จะให้อัตราดอกเบี้ยแท้จริงเป็นบวกภายในกลางปีนี้
จึงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.75-5.75
ขณะที่การส่งออกน่าจะขยายตัวได้สูงกว่าประมาณการที่ร้อยละ 10-12 แต่ปัจจัยด้านลบคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาด
โลกสูงขึ้นจากสมมติฐานเดิม และแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูง ทำให้อัตราดอกเบี้ยของประเทศคู่ค้าอยู่ในช่วงขาขึ้น
ส่งผลต่อการส่งออกของไทยและค่าเงิน รวมถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่มีแนวโน้มลดลงจะเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาต่อ
การลงทุนของภาคเอกชนให้ลดลงได้ ทั้งนี้ ที่ประชุม กนง. ไม่ได้ตั้งสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเลย สำหรับ
แนวโน้มการลงทุนจะต้องดูอัตราดอกเบี้ย การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น
หากสถานการณ์เรียบร้อยการลงทุนภาคเอกชนจะยังขยายตัวได้ร้อยละ 8-9 ลดลงเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ
9-10 เพราะหากเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐล่าช้าออกไป การลงทุนภาคเอกชนก็คงช้าตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่
ต้องติดตามคือ แผนการใช้จ่ายการลงทุนใน งปม. ปี 2550 ที่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และการ
เบิกจ่ายจะเป็นสัดส่วนเท่าใดจาก 5 แสนล้านบาท ซึ่งกรณีนี้จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน (มติชน, โพสต์ทูเดย์,
กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน)
2. เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังขยายตัวได้ดี แม้จะมีบางอุตสาหกรรมชะลอการผลิตการลงทุน นายทนง พิทยะ
รมว.คลัง กล่าวว่า ผู้บริหาร ธปท. ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยให้ ครม. ทราบในการประชุมเมื่อวันอังคารที่
ผ่านมา โดยยืนยันเศรษฐกิจยังสามารถขยายต่อไปได้ แม้ว่าจะมีบางอุตสาหกรรมชะลอการผลิตการลงทุน แต่
อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังดำเนินการขยายการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธปท. ได้รายงานในเดือน ม.ค.49 ไทยเกินดุล
บัญชีเดินสะพัด 500 ล้านดอลลาร์ สรอ. แม้ว่าจะมีการขาดดุลการค้า 400 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพราะในส่วนของ
ดุลบริการเกินดุล 900 ล้านดอลลาร์ สรอ. และยืนยันภาคการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัว นอกจากนี้ ในส่วนของ สนง.
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงร้อยละ 0.25
ถือว่าน้อยมาก จากร้อยละ 4.75-5.75 แสดงว่าเศรษฐกิจไม่ได้มีการชะลอตัวอย่างรุนแรง สำหรับการเพิ่มขึ้น
ของราคาน้ำตาล 3 บาท มีผลกับอัตราเงินเฟ้ออยู่บ้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ถือว่าเป็นการ
ทรงตัวในระดับต่ำและมีสัญญาณเริ่มลดลง ส่วนการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์นั้น ในไตรมาสแรกของปีนี้สามารถเบิกเงิน
ลงทุนได้ร้อยละ 75 ของวงเงินที่ตั้งไว้ เป็นการใช้เงินจาก งปม.ส่วนน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้เงินลงทุนของ
รัฐวิสาหกิจ โดยทั้งปี งปม. จะเบิกจ่ายในโครงการนี้ 2 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50 ของวงเงิน (โพสต์ทูเดย์)
3. ก.คลังจัดเก็บรายได้ช่วงเดือน ต.ค.48-ก.พ.49 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.4 นายสมชัย สัจจพงษ์
รอง ผอ.สนง.เศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รวมของรัฐบาลประจำเดือน ก.พ.49 และในช่วง
5 เดือนแรกของปี งปม.49 (ต.ค.48-ก.พ.49) สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยเดือน ก.พ.49 จัดเก็บ
รายได้สุทธิ 93,716 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และสูงกว่าเดือนเดียวของ
ปีก่อนร้อยละ 4.4 เนื่องจากกรมสรรพากรและหน่วยงานอื่นจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการถึงร้อยละ 12.3 และ
2.4 ตามลำดับ ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปี งปม. 49 (ต.ค.48-ก.พ.49) จัดเก็บรายได้สุทธิ
464,383 ล้านบาท สูงกว่าประมาณ 5,891 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 และสูงกว่าช่วงเดียวของปีก่อนร้อยละ
3.4 เนื่องจากกรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการและรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ประมาณ
การไว้ โดยกรมสรรพากรจัดเก็บได้รวม 334,702 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 29,173 ล้านบาท หรือร้อยละ
9.5 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.7 กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 108,013 ล้านบาท ต่ำกว่า
ประมาณการ 16,111 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.5 ขณะที่
กรมศุลกากรจัดเก็บได้รวม 41,891 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 7,309 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.9 และต่ำกว่า
ช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.6 ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ในปี งปม. 49 ได้ตามประมาณ
การที่ตั้งไว้ที่ 1,360,000 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์, โลกวันนี้)
4. ก.คลังหารือแผนนำเข้าสินค้าทุนของรัฐวิสาหกิจเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดดุลการค้า นายอุตตม สาวนายน
ผู้ช่วย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการ รอง นรม. และ รมว.พาณิชย์
จะเชิญผู้บริหารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ บ.การบินไทย การรถไฟฯ กฟผ. ปตท. และ กสท. ซึ่งเป็น
บริษัทที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก และมีความจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก มา
หารือเพื่อขอรับทราบแผนการนำเข้าสินค้าทุนของแต่ละหน่วยงาน และกำกับดูแลการนำเข้าให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
การส่งออกของประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดดุลการค้า โดยที่ผ่านมา ก.คลังทำเพียงกำหนดการส่งออก
ส่วนด้านนำเข้าไม่ได้มีการประเมินหรือหารือแนวโน้มแต่อย่างใด ขณะที่โครงสร้างการนำเข้าของไทยปัจจุบันได้
เปลี่ยนแปลงไปมาก มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยน้ำมันเชื้อเพลิงมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นจากราคาที่แพงขึ้น ทั้งนี้
จากการพิจารณามูลค่างบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 18 แห่ง พบว่ามีการจัดทำแผนเตรียมเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นมูลค่า
รวมสูงถึง 278,000 ล้านบาท ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อขยายการลงทุนจำนวนมากไป
ด้วย ซึ่งร้อยละ 85 ของงบลงทุนทั้งหมดเป็นงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง ที่จะเชิญมาหารือครั้งนี้ โดย
รัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง มีแผนที่จะนำเข้าสินค้าทุนจากต่างประเทศในปีนี้ 76,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าที่สูงมาก
ซึ่งต้องมาหารือกันว่าจะลดมูลค่าการนำเข้าในส่วนที่ไม่จำเป็นได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้มูลค่าการนำเข้าและการ
ส่งออกสอดคล้องและเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน (แนวหน้า)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิมที่ร้อยละ 4.5 รายงานจาก
ลอนดอน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 49 ผลการสำรวจนักวิเคราะห์จำนวน 40 คนโดยรอยเตอร์ นักวิเคราะห์ทั้งหมดคาด
ว่า ธ.กลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 4.5 ต่อไปอีกเป็นเดือนที่ 7 ในการประชุมวันพฤหัสนี้ นอก
จากนั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในเดือน
พ.ค อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากไม่แน่ใจว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษจะลดลงอีกในปีนี้ ส่วน
ดัชนีราคาบ้านของอังกฤษเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดร้อยละ 1.4 รวมทั้งภาคบริการ ที่ขยายตัวอย่าง
แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีสร้างความสงสัยว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นจากนโยบายการ
เงินหรือไม่ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังขยายตัว ธ.กลางยุโรปได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่
แล้ว แม้แต่ธ. กลางญี่ปุ่นอาจสิ้นสุดการผ่อนปรนนโยบายการเงินที่มีมาในระยะ 5 ปี และล่าสุด ธ.กลางอังกฤษ
คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ร้อยละ 3.0 และอัตราเงินเฟ้อยังคงใกล้กับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ
2.0 และชี้ว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในขณะนี้(รอยเตอร์)
2. คาดว่าราคาบ้านในสหภาพยุโรปในปีนี้จะยังสูงขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รายงานจากลอนดอน เมื่อ
8 มี.ค.49 สถาบันผู้สำรวจรับอนุญาตของอังกฤษหรือ RICS คาดว่าราคาบ้านในสหภาพยุโรปในปีนี้จะยังคงสูงขึ้น
ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วก็ตามแต่ก็ยังนับว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอดีต
จากผลสำรวจ 12 ใน 18 ประเทศมีราคาบ้านสูงขึ้นเมื่อปีที่แล้วร้อยละ 7 หรือมากกว่า โดยประเทศเกิดใหม่อย่าง
เอสโตเนียมีราคาบ้านสูงขึ้นมากที่สุดคือร้อยละ 28 ตามมาด้วยเดนมาร์กที่ราคาบ้านสูงขึ้นร้อยละ 22 สเปนและ
ฝรั่งเศสซึ่งเมื่อปี 47 มีราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด ตกลงอยู่ในระดับที่ 3 และ 5 เมื่อปีที่แล้วโดยมีราคาเพิ่มสูงขึ้น
ร้อยละ 15 และ 10 ตามลำดับ โดยมีสวีเดนซึ่งเศรษฐกิจกำลังขยายตัวดีแทรกมาอยู่ในลำดับที่ 4 ด้วยราคาบ้านสูง
ขึ้นร้อยละ 12 เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือของยุโรปมีราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดและ
คาดว่าแนวโน้มในปีต่อ ๆ ไปจะเป็นเช่นเดียวกัน (รอยเตอร์)
3. คาดว่าจีนจะเกินดุลการค้าในเดือน ก.พ.49 ลดลงอยู่ที่จำนวน 7.9 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.
รายงานจากปักกิ่ง เมื่อ 9 มี.ค.49 ผลสำรวจของนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ในเดือน ก.พ.49 จีน
จะเกินดุลการค้าลดลงอยู่ที่จำนวน 7.9 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จากจำนวน 9.49 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในเดือน
ม.ค.49 และจำนวน 11.0 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.48 ทั้งนี้ ตัวเลขประมาณการของเดือน ก.พ.
มีช่วงที่ห่างกันมาก คือระหว่างเกินดุล 4.8 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ถึง 10.3 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. สาเหตุจาก
เทศกาลตรุษจีนในปีที่แล้วอยู่ในเดือน ก.พ.. ขณะที่ปีนี้อยู่ในช่วงปลายเดือน ม.ค.. ซึ่งเป็นช่วงที่โรงงานปิด และ
ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างมากในช่วงเทศกาลวันหยุด ทำให้เป็นการยากลำบากที่จะเปรียบเทียบข้อมูล
ตัวเลขการค้าระหว่าง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพราะมีความไม่แน่นอนของปฏิทินวันหยุดตรุษจีน ประกอบกับ นักสถิติ
ของจีนไม่มีการปรับปัจจัยด้านเวลาเทศกาลตรุษจีนออกจากตัวเลขดุลการค้า ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าในเดือน
ก.พ.48 เพียง 4.6 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. นอกจากนี้ รัฐบาลจีนไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอนในการรายงานตัวเลข
ดุลการค้า ว่าจะเผยแพร่ในวันที่ 9 หรือหลังวันที่ 9 ของทุกเดือน อย่างไรก็ตาม หัวหน้านักวิเคราะห์ของ
Deutsche Bank ในฮ่องกง คาดว่า การส่งออกของจีนจะชะลอลงอย่างมากในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเงินหยวนแข็ง
ค่าขึ้น โดยเงินหยวนแข็งค่าขึ้นร้อยละ 8 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Citigroup เห็นว่า ภาวะ
การส่งออกของจีนจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และน่าจะอยู่ในระดับแข็งแกร่งในครึ่งปีแรกของปีนี้ อนึ่ง การค้าของจีน
ที่แข็งแกร่งต้องต่อสู้กับภาวะกดดันจากการแข็งค่าของเงินหยวนอันมีผลกระทบต่อการส่งออก ขณะเดียวกันความ
ต้องการในประเทศที่กลับเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้การนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย (รอยเตอร์)
4. ดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภคเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับ
ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากโซลเมื่อ 9 มี.ค.49 The National Statistical Office เปิดเผยว่า
ดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภค (The consumer expectation index) เกาหลีใต้หลังปรับฤดูกาล ซึ่งเป็นดัชนี
ชี้วัดมุมมองของผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการใช้จ่ายส่วนบุคคลในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ระดับ 100.8 ในเดือน ก.พ.49 จากระดับ 102.8 ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นระดับ
ต่ำสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่เดือน ก.ย.48 อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 100 ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภค
ส่วนใหญ่มีความคาดหวังที่ดีต่อภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการใช้จ่ายของตนเอง สำหรับ The consumer
expectation index ก่อนปรับฤดูกาล ลดลงที่ระดับ 103.8 จากระดับ 104.5 ในเดือนก่อนหน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 9 มี.ค. 49 8 มี.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.918 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.6396/38.9341 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.48984 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 723.86/ 15.36 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,050/10,150 10,200/10,300 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 54.26 55.42 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 4 มี.ค. 49
**ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 9 มี.ค. 49
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
1. ธปท. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกร้อยละ 0.25 นางอัจนา ไวความดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบาย
การเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 8 มี.ค.49 มีมติให้ปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอาร์พี 14 วัน ร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 4.25 เป็น 4.50 โดยมีผลทันที เนื่องจาก กนง. เห็นว่า
แรงกดดันต่อเสถียรภาพภายในประเทศยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังอยู่ในระดับสูงและยังคงมี
ความเสี่ยงที่อาจสูงเกินกว่าเป้าหมายในระยะต่อไป ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของเงินฝากประจำ
12 เดือน ยังติดลบอยู่ร้อยละ 0.85 ซึ่ง กนง. มีเป้าหมายที่จะให้อัตราดอกเบี้ยแท้จริงเป็นบวกภายในกลางปีนี้
จึงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.75-5.75
ขณะที่การส่งออกน่าจะขยายตัวได้สูงกว่าประมาณการที่ร้อยละ 10-12 แต่ปัจจัยด้านลบคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาด
โลกสูงขึ้นจากสมมติฐานเดิม และแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูง ทำให้อัตราดอกเบี้ยของประเทศคู่ค้าอยู่ในช่วงขาขึ้น
ส่งผลต่อการส่งออกของไทยและค่าเงิน รวมถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่มีแนวโน้มลดลงจะเป็นปัจจัยทางจิตวิทยาต่อ
การลงทุนของภาคเอกชนให้ลดลงได้ ทั้งนี้ ที่ประชุม กนง. ไม่ได้ตั้งสมมติฐานที่เกี่ยวข้องกับการเมืองเลย สำหรับ
แนวโน้มการลงทุนจะต้องดูอัตราดอกเบี้ย การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และปัจจัยทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น
หากสถานการณ์เรียบร้อยการลงทุนภาคเอกชนจะยังขยายตัวได้ร้อยละ 8-9 ลดลงเล็กน้อยจากที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ
9-10 เพราะหากเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐล่าช้าออกไป การลงทุนภาคเอกชนก็คงช้าตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่
ต้องติดตามคือ แผนการใช้จ่ายการลงทุนใน งปม. ปี 2550 ที่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และการ
เบิกจ่ายจะเป็นสัดส่วนเท่าใดจาก 5 แสนล้านบาท ซึ่งกรณีนี้จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน (มติชน, โพสต์ทูเดย์,
กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการรายวัน)
2. เศรษฐกิจไทยปีนี้ยังขยายตัวได้ดี แม้จะมีบางอุตสาหกรรมชะลอการผลิตการลงทุน นายทนง พิทยะ
รมว.คลัง กล่าวว่า ผู้บริหาร ธปท. ได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยให้ ครม. ทราบในการประชุมเมื่อวันอังคารที่
ผ่านมา โดยยืนยันเศรษฐกิจยังสามารถขยายต่อไปได้ แม้ว่าจะมีบางอุตสาหกรรมชะลอการผลิตการลงทุน แต่
อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ยังดำเนินการขยายการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งนี้ ธปท. ได้รายงานในเดือน ม.ค.49 ไทยเกินดุล
บัญชีเดินสะพัด 500 ล้านดอลลาร์ สรอ. แม้ว่าจะมีการขาดดุลการค้า 400 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพราะในส่วนของ
ดุลบริการเกินดุล 900 ล้านดอลลาร์ สรอ. และยืนยันภาคการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัว นอกจากนี้ ในส่วนของ สนง.
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ปรับลดประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงร้อยละ 0.25
ถือว่าน้อยมาก จากร้อยละ 4.75-5.75 แสดงว่าเศรษฐกิจไม่ได้มีการชะลอตัวอย่างรุนแรง สำหรับการเพิ่มขึ้น
ของราคาน้ำตาล 3 บาท มีผลกับอัตราเงินเฟ้ออยู่บ้าง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ถือว่าเป็นการ
ทรงตัวในระดับต่ำและมีสัญญาณเริ่มลดลง ส่วนการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์นั้น ในไตรมาสแรกของปีนี้สามารถเบิกเงิน
ลงทุนได้ร้อยละ 75 ของวงเงินที่ตั้งไว้ เป็นการใช้เงินจาก งปม.ส่วนน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้เงินลงทุนของ
รัฐวิสาหกิจ โดยทั้งปี งปม. จะเบิกจ่ายในโครงการนี้ 2 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50 ของวงเงิน (โพสต์ทูเดย์)
3. ก.คลังจัดเก็บรายได้ช่วงเดือน ต.ค.48-ก.พ.49 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.4 นายสมชัย สัจจพงษ์
รอง ผอ.สนง.เศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รวมของรัฐบาลประจำเดือน ก.พ.49 และในช่วง
5 เดือนแรกของปี งปม.49 (ต.ค.48-ก.พ.49) สูงกว่าประมาณการอย่างต่อเนื่อง โดยเดือน ก.พ.49 จัดเก็บ
รายได้สุทธิ 93,716 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 1,694 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.8 และสูงกว่าเดือนเดียวของ
ปีก่อนร้อยละ 4.4 เนื่องจากกรมสรรพากรและหน่วยงานอื่นจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการถึงร้อยละ 12.3 และ
2.4 ตามลำดับ ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปี งปม. 49 (ต.ค.48-ก.พ.49) จัดเก็บรายได้สุทธิ
464,383 ล้านบาท สูงกว่าประมาณ 5,891 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.3 และสูงกว่าช่วงเดียวของปีก่อนร้อยละ
3.4 เนื่องจากกรมสรรพากรจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการและรัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่ประมาณ
การไว้ โดยกรมสรรพากรจัดเก็บได้รวม 334,702 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 29,173 ล้านบาท หรือร้อยละ
9.5 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 14.7 กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้รวม 108,013 ล้านบาท ต่ำกว่า
ประมาณการ 16,111 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.0 และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.5 ขณะที่
กรมศุลกากรจัดเก็บได้รวม 41,891 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 7,309 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.9 และต่ำกว่า
ช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.6 ทั้งนี้ คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้ในปี งปม. 49 ได้ตามประมาณ
การที่ตั้งไว้ที่ 1,360,000 ล้านบาท (กรุงเทพธุรกิจ, โพสต์ทูเดย์, โลกวันนี้)
4. ก.คลังหารือแผนนำเข้าสินค้าทุนของรัฐวิสาหกิจเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดดุลการค้า นายอุตตม สาวนายน
ผู้ช่วย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการ รอง นรม. และ รมว.พาณิชย์
จะเชิญผู้บริหารรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ บ.การบินไทย การรถไฟฯ กฟผ. ปตท. และ กสท. ซึ่งเป็น
บริษัทที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก และมีความจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนจากต่างประเทศจำนวนมาก มา
หารือเพื่อขอรับทราบแผนการนำเข้าสินค้าทุนของแต่ละหน่วยงาน และกำกับดูแลการนำเข้าให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
การส่งออกของประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดดุลการค้า โดยที่ผ่านมา ก.คลังทำเพียงกำหนดการส่งออก
ส่วนด้านนำเข้าไม่ได้มีการประเมินหรือหารือแนวโน้มแต่อย่างใด ขณะที่โครงสร้างการนำเข้าของไทยปัจจุบันได้
เปลี่ยนแปลงไปมาก มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยน้ำมันเชื้อเพลิงมีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นจากราคาที่แพงขึ้น ทั้งนี้
จากการพิจารณามูลค่างบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 18 แห่ง พบว่ามีการจัดทำแผนเตรียมเบิกจ่ายงบลงทุนเป็นมูลค่า
รวมสูงถึง 278,000 ล้านบาท ทำให้คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อขยายการลงทุนจำนวนมากไป
ด้วย ซึ่งร้อยละ 85 ของงบลงทุนทั้งหมดเป็นงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง ที่จะเชิญมาหารือครั้งนี้ โดย
รัฐวิสาหกิจทั้ง 5 แห่ง มีแผนที่จะนำเข้าสินค้าทุนจากต่างประเทศในปีนี้ 76,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าที่สูงมาก
ซึ่งต้องมาหารือกันว่าจะลดมูลค่าการนำเข้าในส่วนที่ไม่จำเป็นได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้มูลค่าการนำเข้าและการ
ส่งออกสอดคล้องและเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน (แนวหน้า)
ข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศ
1. คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับเดิมที่ร้อยละ 4.5 รายงานจาก
ลอนดอน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 49 ผลการสำรวจนักวิเคราะห์จำนวน 40 คนโดยรอยเตอร์ นักวิเคราะห์ทั้งหมดคาด
ว่า ธ.กลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 4.5 ต่อไปอีกเป็นเดือนที่ 7 ในการประชุมวันพฤหัสนี้ นอก
จากนั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธ.กลางอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 ในเดือน
พ.ค อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากไม่แน่ใจว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของอังกฤษจะลดลงอีกในปีนี้ ส่วน
ดัชนีราคาบ้านของอังกฤษเมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดร้อยละ 1.4 รวมทั้งภาคบริการ ที่ขยายตัวอย่าง
แข็งแกร่งที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีสร้างความสงสัยว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจต้องการการกระตุ้นจากนโยบายการ
เงินหรือไม่ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังขยายตัว ธ.กลางยุโรปได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่
แล้ว แม้แต่ธ. กลางญี่ปุ่นอาจสิ้นสุดการผ่อนปรนนโยบายการเงินที่มีมาในระยะ 5 ปี และล่าสุด ธ.กลางอังกฤษ
คาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจไว้ที่ร้อยละ 3.0 และอัตราเงินเฟ้อยังคงใกล้กับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ร้อยละ
2.0 และชี้ว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในขณะนี้(รอยเตอร์)
2. คาดว่าราคาบ้านในสหภาพยุโรปในปีนี้จะยังสูงขึ้นต่อเนื่องจากปีที่แล้ว รายงานจากลอนดอน เมื่อ
8 มี.ค.49 สถาบันผู้สำรวจรับอนุญาตของอังกฤษหรือ RICS คาดว่าราคาบ้านในสหภาพยุโรปในปีนี้จะยังคงสูงขึ้น
ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วก็ตามแต่ก็ยังนับว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอดีต
จากผลสำรวจ 12 ใน 18 ประเทศมีราคาบ้านสูงขึ้นเมื่อปีที่แล้วร้อยละ 7 หรือมากกว่า โดยประเทศเกิดใหม่อย่าง
เอสโตเนียมีราคาบ้านสูงขึ้นมากที่สุดคือร้อยละ 28 ตามมาด้วยเดนมาร์กที่ราคาบ้านสูงขึ้นร้อยละ 22 สเปนและ
ฝรั่งเศสซึ่งเมื่อปี 47 มีราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุด ตกลงอยู่ในระดับที่ 3 และ 5 เมื่อปีที่แล้วโดยมีราคาเพิ่มสูงขึ้น
ร้อยละ 15 และ 10 ตามลำดับ โดยมีสวีเดนซึ่งเศรษฐกิจกำลังขยายตัวดีแทรกมาอยู่ในลำดับที่ 4 ด้วยราคาบ้านสูง
ขึ้นร้อยละ 12 เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้วประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือของยุโรปมีราคาบ้านเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดและ
คาดว่าแนวโน้มในปีต่อ ๆ ไปจะเป็นเช่นเดียวกัน (รอยเตอร์)
3. คาดว่าจีนจะเกินดุลการค้าในเดือน ก.พ.49 ลดลงอยู่ที่จำนวน 7.9 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.
รายงานจากปักกิ่ง เมื่อ 9 มี.ค.49 ผลสำรวจของนักวิเคราะห์โดยรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ในเดือน ก.พ.49 จีน
จะเกินดุลการค้าลดลงอยู่ที่จำนวน 7.9 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. จากจำนวน 9.49 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ.ในเดือน
ม.ค.49 และจำนวน 11.0 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ในเดือน ธ.ค.48 ทั้งนี้ ตัวเลขประมาณการของเดือน ก.พ.
มีช่วงที่ห่างกันมาก คือระหว่างเกินดุล 4.8 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. ถึง 10.3 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. สาเหตุจาก
เทศกาลตรุษจีนในปีที่แล้วอยู่ในเดือน ก.พ.. ขณะที่ปีนี้อยู่ในช่วงปลายเดือน ม.ค.. ซึ่งเป็นช่วงที่โรงงานปิด และ
ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างมากในช่วงเทศกาลวันหยุด ทำให้เป็นการยากลำบากที่จะเปรียบเทียบข้อมูล
ตัวเลขการค้าระหว่าง 2 เดือนแรกของปีนี้ เพราะมีความไม่แน่นอนของปฏิทินวันหยุดตรุษจีน ประกอบกับ นักสถิติ
ของจีนไม่มีการปรับปัจจัยด้านเวลาเทศกาลตรุษจีนออกจากตัวเลขดุลการค้า ส่งผลให้จีนเกินดุลการค้าในเดือน
ก.พ.48 เพียง 4.6 พัน ล.ดอลลาร์ สรอ. นอกจากนี้ รัฐบาลจีนไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอนในการรายงานตัวเลข
ดุลการค้า ว่าจะเผยแพร่ในวันที่ 9 หรือหลังวันที่ 9 ของทุกเดือน อย่างไรก็ตาม หัวหน้านักวิเคราะห์ของ
Deutsche Bank ในฮ่องกง คาดว่า การส่งออกของจีนจะชะลอลงอย่างมากในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเงินหยวนแข็ง
ค่าขึ้น โดยเงินหยวนแข็งค่าขึ้นร้อยละ 8 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Citigroup เห็นว่า ภาวะ
การส่งออกของจีนจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และน่าจะอยู่ในระดับแข็งแกร่งในครึ่งปีแรกของปีนี้ อนึ่ง การค้าของจีน
ที่แข็งแกร่งต้องต่อสู้กับภาวะกดดันจากการแข็งค่าของเงินหยวนอันมีผลกระทบต่อการส่งออก ขณะเดียวกันความ
ต้องการในประเทศที่กลับเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้การนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย (รอยเตอร์)
4. ดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภคเกาหลีใต้ในเดือน ก.พ.49 ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สู่ระดับ
ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน รายงานจากโซลเมื่อ 9 มี.ค.49 The National Statistical Office เปิดเผยว่า
ดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภค (The consumer expectation index) เกาหลีใต้หลังปรับฤดูกาล ซึ่งเป็นดัชนี
ชี้วัดมุมมองของผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการใช้จ่ายส่วนบุคคลในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ระดับ 100.8 ในเดือน ก.พ.49 จากระดับ 102.8 ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นระดับ
ต่ำสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่เดือน ก.ย.48 อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 100 ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภค
ส่วนใหญ่มีความคาดหวังที่ดีต่อภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการใช้จ่ายของตนเอง สำหรับ The consumer
expectation index ก่อนปรับฤดูกาล ลดลงที่ระดับ 103.8 จากระดับ 104.5 ในเดือนก่อนหน้า (รอยเตอร์)
ข้อมูลเศรษฐกิจ 9 มี.ค. 49 8 มี.ค. 49 31 ม.ค. 48 แหล่งข
อัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยระหว่างธนาคาร (Bht/1US$) 38.918 38.557 ธปท.
อัตราซื้อถัวเฉลี่ยตั๋วเงิน/อัตราขายถัวเฉลี่ยของ ธพ. (Bht/1US$) 38.6396/38.9341 38.3598/38.6471 ธปท.
อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่าง ธพ. ขนาดใหญ่ระยะ 7 วัน (ร้อยละ) 4.48984 2..1875 - 2.2000 รอยเตอร์
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (จุด)/มูลค่าซื้อ/ขาย (พันล้านบาท) 723.86/ 15.36 701.91/15.60 ตลท.
ราคาทองคำแท่ง (ซื้อ/ขายบาทละ) 10,050/10,150 10,200/10,300 7,750/7,850 สมาคมค้าทองคำ
ราคาน้ำมันดิบดูไบ (US$/บาเรล) 54.26 55.42 38.15 ปตท./รอยเตอร์
ราคาน้ำมันเบนซิน 95/ดีเซล (บาท) * ปรับเพิ่มลิตรละ 30 สตางค์ เมื่อ 4 มี.ค. 49
**ปรับเพิ่มลิตรละ 40 สตางค์ เมื่อ 9 มี.ค. 49
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--