คำถาม : นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวของไทยมากน้อยเพียงไร
คำตอบ : สหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Federation) เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายใหม่ที่มีศักยภาพสูงต่อการท่องเที่ยวของไทย ทั้งจากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เพิ่มขึ้น จากระดับรายได้เฉลี่ย 4,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ในปี 2546 เป็น 5,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ในปี 2547 เพราะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงตั้งแต่ปี 2547 (สหพันธรัฐรัสเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก) ประกอบกับประชากรรัสเซียซึ่งมีมากถึง 143 ล้านคน มีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี 2535 ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของนักท่องเที่ยวรัสเซียดังกล่าว ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศ ที่ชาวรัสเซียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ย 93,000 คนต่อปี ในช่วงปี 2545-2547 (เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 31 ต่อปี) มีระยะเวลาพักเฉลี่ยนานถึง 12 วัน สามารถสร้างรายได้จาก การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยสูงถึง 3,800 ล้านบาทต่อปี จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะรองรับการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย
สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจของตลาดนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มีดังนี้
รสนิยมของนักท่องเที่ยวรัสเซีย
* ด้านที่พักและการใช้จ่าย ชาวรัสเซียเป็นผู้บริโภคที่มีรสนิยมดี และยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อแลกกับบริการที่สะดวกสบาย และมีคุณภาพ นักท่องเที่ยวรัสเซียจึงนิยมเลือกพักโรงแรมและรีสอร์ตที่หรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เลือกรับประทานอาหารชั้นดี ราคาแพง รวมทั้งใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าคุณภาพดี ทั้งนี้ ชาวรัสเซียเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
* ด้านสถานที่ท่องเที่ยว สหพันธรัฐรัสเซียมีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น และภูมิประเทศส่วนใหญ่ไม่มีทางออก สู่ทะเล นักท่องเที่ยวรัสเซียส่วนใหญ่จึงนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่อบอุ่น โดยเฉพาะหาดทราย และชายทะเล
* ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในเมืองใหญ่ กลุ่มนักธุรกิจ และนักลงทุนที่มีรายได้สูง คือ กิจกรรมที่มุ่งตอบสนองความสนใจเฉพาะด้านอาทิ กอล์ฟ ดำน้ำ กิจกรรมเพื่อสุขภาพและสปา นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และงานประชุมสัมมนา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวรัสเซียให้ความสนใจ และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าสูงกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น
อุปสรรคในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวรัสเซีย
* ข้อจำกัดด้านวีซ่า การที่ประเทศไทยกำหนดให้นักท่องเที่ยวรัสเซียต้องทำวีซ่าเพื่อใช้เดินทางเข้าประเทศไทย นักท่องเที่ยวรัสเซียบางส่วนจึงเลือกเดินทางไปยังประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคม 2548 ประเทศไทยและสหพันธรัฐรัสเซียได้ร่วมลงนามข้อตกลงเตรียมยกเลิกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ปัจจุบันแต่ละประเทศอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดก่อนที่จะมีผลบังคับใช้
* คู่แข่ง นักท่องเที่ยวรัสเซียนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรปตะวันออก และแอฟริกา โดยเฉพาะตุรกี และอียิปต์ (สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 และ 2 ของนักท่องเที่ยวรัสเซีย ตามลำดับ) เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากสหพันธรัฐรัสเซีย และมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในตลาดรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น เวียดนาม เริ่มมีนักท่องเที่ยวรัสเซียสนใจเข้าไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก (เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 100 ในปี 2548) เนื่องจากเวียดนามมีชายทะเลที่สวยงามหลายแห่งคล้ายกับชายทะเลของประเทศไทย ประกอบกับเวียดนาม มีการเปิดเสรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวรัสเซีย
* การขาดแคลนมัคคุเทศก์ที่พูดภาษารัสเซีย ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ขณะที่ปัจจุบันมัคคุเทศก์ไทยที่พูดภาษารัสเซียได้มีจำนวนไม่เพียงพอกับปริมาณนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีแผนกระตุ้นตลาดรัสเซียด้วยการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวในสหพันธรัฐรัสเซีย และ การเชิญสื่อมวลชนจากสหพันธรัฐรัสเซียเข้ามาถ่ายทำสารคดีในประเทศไทย เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อชาวรัสเซีย รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินตรงจากรัสเซียถึงประเทศไทย โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียให้เดินทางมาประเทศไทยได้มากถึง 126,000 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 6,157 ล้านบาท ในปี 2549
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2549--
-พห-
คำตอบ : สหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Federation) เป็นหนึ่งในตลาดเป้าหมายใหม่ที่มีศักยภาพสูงต่อการท่องเที่ยวของไทย ทั้งจากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เพิ่มขึ้น จากระดับรายได้เฉลี่ย 4,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ในปี 2546 เป็น 5,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน ในปี 2547 เพราะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงตั้งแต่ปี 2547 (สหพันธรัฐรัสเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก) ประกอบกับประชากรรัสเซียซึ่งมีมากถึง 143 ล้านคน มีแนวโน้มเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศมากขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี 2535 ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพของนักท่องเที่ยวรัสเซียดังกล่าว ประกอบกับการที่ประเทศไทยเป็น 1 ใน 20 ประเทศ ที่ชาวรัสเซียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเฉลี่ย 93,000 คนต่อปี ในช่วงปี 2545-2547 (เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 31 ต่อปี) มีระยะเวลาพักเฉลี่ยนานถึง 12 วัน สามารถสร้างรายได้จาก การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยสูงถึง 3,800 ล้านบาทต่อปี จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะรองรับการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย
สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจของตลาดนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มีดังนี้
รสนิยมของนักท่องเที่ยวรัสเซีย
* ด้านที่พักและการใช้จ่าย ชาวรัสเซียเป็นผู้บริโภคที่มีรสนิยมดี และยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อแลกกับบริการที่สะดวกสบาย และมีคุณภาพ นักท่องเที่ยวรัสเซียจึงนิยมเลือกพักโรงแรมและรีสอร์ตที่หรูหรา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เลือกรับประทานอาหารชั้นดี ราคาแพง รวมทั้งใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าคุณภาพดี ทั้งนี้ ชาวรัสเซียเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก
* ด้านสถานที่ท่องเที่ยว สหพันธรัฐรัสเซียมีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น และภูมิประเทศส่วนใหญ่ไม่มีทางออก สู่ทะเล นักท่องเที่ยวรัสเซียส่วนใหญ่จึงนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่อบอุ่น โดยเฉพาะหาดทราย และชายทะเล
* ด้านกิจกรรมท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในเมืองใหญ่ กลุ่มนักธุรกิจ และนักลงทุนที่มีรายได้สูง คือ กิจกรรมที่มุ่งตอบสนองความสนใจเฉพาะด้านอาทิ กอล์ฟ ดำน้ำ กิจกรรมเพื่อสุขภาพและสปา นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และงานประชุมสัมมนา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวรัสเซียให้ความสนใจ และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าสูงกว่านักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น
อุปสรรคในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวรัสเซีย
* ข้อจำกัดด้านวีซ่า การที่ประเทศไทยกำหนดให้นักท่องเที่ยวรัสเซียต้องทำวีซ่าเพื่อใช้เดินทางเข้าประเทศไทย นักท่องเที่ยวรัสเซียบางส่วนจึงเลือกเดินทางไปยังประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคม 2548 ประเทศไทยและสหพันธรัฐรัสเซียได้ร่วมลงนามข้อตกลงเตรียมยกเลิกวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ปัจจุบันแต่ละประเทศอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดก่อนที่จะมีผลบังคับใช้
* คู่แข่ง นักท่องเที่ยวรัสเซียนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรปตะวันออก และแอฟริกา โดยเฉพาะตุรกี และอียิปต์ (สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับ 1 และ 2 ของนักท่องเที่ยวรัสเซีย ตามลำดับ) เนื่องจากประเทศต่าง ๆ ดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากสหพันธรัฐรัสเซีย และมีการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในตลาดรัสเซียอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น เวียดนาม เริ่มมีนักท่องเที่ยวรัสเซียสนใจเข้าไปท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก (เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 100 ในปี 2548) เนื่องจากเวียดนามมีชายทะเลที่สวยงามหลายแห่งคล้ายกับชายทะเลของประเทศไทย ประกอบกับเวียดนาม มีการเปิดเสรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวรัสเซีย
* การขาดแคลนมัคคุเทศก์ที่พูดภาษารัสเซีย ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ขณะที่ปัจจุบันมัคคุเทศก์ไทยที่พูดภาษารัสเซียได้มีจำนวนไม่เพียงพอกับปริมาณนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีแผนกระตุ้นตลาดรัสเซียด้วยการประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทางการท่องเที่ยวในสหพันธรัฐรัสเซีย และ การเชิญสื่อมวลชนจากสหพันธรัฐรัสเซียเข้ามาถ่ายทำสารคดีในประเทศไทย เพื่อนำไปเผยแพร่ต่อชาวรัสเซีย รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินตรงจากรัสเซียถึงประเทศไทย โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวรัสเซียให้เดินทางมาประเทศไทยได้มากถึง 126,000 คน สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 6,157 ล้านบาท ในปี 2549
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พฤษภาคม 2549--
-พห-