แท็ก
นิสิต นักศึกษา
กรุงเทพ--29 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
โดยที่ปัจจุบัน มีองค์กรต่างๆ หลายองค์กรจัดทำโครงการให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เดินทางไปต่างประเทศด้วยวัตถุประสงค์และวิธีการต่างๆ อาทิ โครงการที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม เป็นต้น จนกระทั่งการดำเนินงานในลักษณะดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นธุรกิจที่มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง และนักเรียนให้ความสนใจอย่างแพร่หลาย และในทางกลับกัน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองหลายท่านถึงความไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากการที่ได้ส่งบุตรหลานของตนเข้าร่วมโครงการต่างๆ เพื่อไปต่างประเทศโดยเป็นการส่งเข้าร่วมโครงการที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน
จากการตรวจสอบข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองทั้งหมด พบข้อสรุปได้ดังนี้
1. การร้องเรียนหลายเรื่องมีมูลความจริง ผู้ประกอบการในหลายโครงการไม่ได้จดทะเบียนเพื่อดำเนินการในเรื่องนั้นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
2. การร้องเรียนหลายเรื่อง เกิดจากการกระทำของผู้ร้องเรียนเอง ซึ่งพยายามโยนความผิดให้คู่กรณี หน่วยราชการที่ได้รับเรื่องจึงจำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบปัญหา
3. มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่านได้รับความเสียหายโดยคาดคิดไม่ถึง โดยถูกโยงไปร่วมในการดำเนินงานที่เป็นการนำชื่อไปแอบอ้าง
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเรียนข้อคิดแก่ผู้ปกครองที่สนใจจะส่งบุตรหลานเข้าโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาก่อนการตัดสินใจส่งบุตรหลานไปต่างประเทศว่า ก่อนที่ท่านจะส่งบุตรหลานไปเข้าร่วมโครงการเพื่อไปต่างประเทศนั้น ขอให้พิจารณาตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบ อาทิ ดูว่าโครงการนั้นๆ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายโดยเป็นการจดทะเบียนเพื่อดำเนินภารกิจเกี่ยวกับเรื่องการนำนักเรียน นักศึกษาไปต่างประเทศหรือไม่ ทั้งนี้ อาจตรวจสอบความเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายได้จากหน่วยราชการดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่รับจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด
2. ตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่อนุญาตองค์กรในการดำเนินกิจกรรมในรูปของมูลนิธิด้านการศึกษาและสมาคมที่ดำเนินการเกี่ยวกับวัฒนธรรม
3. หรือตรวจสอบกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานที่อนุญาตและจดทะเบียนนิติบุคคลให้กับมูลนิธิซึ่งจะดำเนินกิจกรรมนอกเหนือจากการศึกษาและวัฒนธรรม
4. หมายเลขโทรศัพท์สายด่วนบริการข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ หมายเลขที่ 1579 หรือสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ หรือหนังสือ“ขอแนะนำสักนิด ประกอบการคิดไปต่างประเทศของนักเรียน” ที่เว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ http://www.moe.go.th
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ปกครอง นักเรียนหรือนักศึกษาเองก็ต้องเตรียมตัวก่อนการเดินทางให้พร้อมด้วย อาทิ ศึกษาข้อมูลจากรุ่นพี่ที่เคยผ่านโครงการลักษณะนี้ การตรวจสอบข้อมูลของสถาบันที่จะไปศึกษาภูมิประเทศของเมืองที่จะไปศึกษา และควรหาข้อมูลที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์สถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยของประเทศที่ตนจะไปศึกษาด้วย
อนึ่ง หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการร้องเรียนขอความเป็นธรรมคือ กระทรวงศึกษาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย ณ ประเทศต่างๆ ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
โดยที่ปัจจุบัน มีองค์กรต่างๆ หลายองค์กรจัดทำโครงการให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เดินทางไปต่างประเทศด้วยวัตถุประสงค์และวิธีการต่างๆ อาทิ โครงการที่เกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรม เป็นต้น จนกระทั่งการดำเนินงานในลักษณะดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นธุรกิจที่มีพ่อแม่ ผู้ปกครอง และนักเรียนให้ความสนใจอย่างแพร่หลาย และในทางกลับกัน หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองหลายท่านถึงความไม่เป็นธรรมอันเนื่องมาจากการที่ได้ส่งบุตรหลานของตนเข้าร่วมโครงการต่างๆ เพื่อไปต่างประเทศโดยเป็นการส่งเข้าร่วมโครงการที่ดำเนินการโดยภาคเอกชน
จากการตรวจสอบข้อร้องเรียนจากผู้ปกครองทั้งหมด พบข้อสรุปได้ดังนี้
1. การร้องเรียนหลายเรื่องมีมูลความจริง ผู้ประกอบการในหลายโครงการไม่ได้จดทะเบียนเพื่อดำเนินการในเรื่องนั้นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
2. การร้องเรียนหลายเรื่อง เกิดจากการกระทำของผู้ร้องเรียนเอง ซึ่งพยายามโยนความผิดให้คู่กรณี หน่วยราชการที่ได้รับเรื่องจึงจำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบปัญหา
3. มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายท่านได้รับความเสียหายโดยคาดคิดไม่ถึง โดยถูกโยงไปร่วมในการดำเนินงานที่เป็นการนำชื่อไปแอบอ้าง
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศจึงขอเรียนข้อคิดแก่ผู้ปกครองที่สนใจจะส่งบุตรหลานเข้าโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาก่อนการตัดสินใจส่งบุตรหลานไปต่างประเทศว่า ก่อนที่ท่านจะส่งบุตรหลานไปเข้าร่วมโครงการเพื่อไปต่างประเทศนั้น ขอให้พิจารณาตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบ อาทิ ดูว่าโครงการนั้นๆ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายโดยเป็นการจดทะเบียนเพื่อดำเนินภารกิจเกี่ยวกับเรื่องการนำนักเรียน นักศึกษาไปต่างประเทศหรือไม่ ทั้งนี้ อาจตรวจสอบความเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมายได้จากหน่วยราชการดังต่อไปนี้
1. ตรวจสอบจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่รับจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด
2. ตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่อนุญาตองค์กรในการดำเนินกิจกรรมในรูปของมูลนิธิด้านการศึกษาและสมาคมที่ดำเนินการเกี่ยวกับวัฒนธรรม
3. หรือตรวจสอบกับกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นหน่วยงานที่อนุญาตและจดทะเบียนนิติบุคคลให้กับมูลนิธิซึ่งจะดำเนินกิจกรรมนอกเหนือจากการศึกษาและวัฒนธรรม
4. หมายเลขโทรศัพท์สายด่วนบริการข้อมูลข่าวสารและรับเรื่องร้องเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ หมายเลขที่ 1579 หรือสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ หรือหนังสือ“ขอแนะนำสักนิด ประกอบการคิดไปต่างประเทศของนักเรียน” ที่เว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ http://www.moe.go.th
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ปกครอง นักเรียนหรือนักศึกษาเองก็ต้องเตรียมตัวก่อนการเดินทางให้พร้อมด้วย อาทิ ศึกษาข้อมูลจากรุ่นพี่ที่เคยผ่านโครงการลักษณะนี้ การตรวจสอบข้อมูลของสถาบันที่จะไปศึกษาภูมิประเทศของเมืองที่จะไปศึกษา และควรหาข้อมูลที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์สถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยของประเทศที่ตนจะไปศึกษาด้วย
อนึ่ง หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการร้องเรียนขอความเป็นธรรมคือ กระทรวงศึกษาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทย ณ ประเทศต่างๆ ที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-