กรุงเทพ--17 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
อังกฤษ .........หนังสือพิมพ์ Sunday Telegraph ได้ลงข่าวแนะนำกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองแห่งการชอปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นแหล่งแฟชั่นและการออกแบบ มีการจัดสัปดาห์แฟชั่นประจำปี ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-19 มีนาคม 2549 เพื่อยกระดับแบรนด์เนมของสินค้าแฟชั่นไทย ได้แก่ Flynow Muse Issue และ Kai ที่มีนวัตกรรมและรูปแบบเป็นของไทย แต่มีราคาถูกกว่าในอังกฤษอย่างมาก หรือหากต้องการรู้จักแหล่งชอปปิ้งที่แท้จริง ผู้เขียนก็แนะนำให้ไปตลาดจตุจักรซึ่งมีแผงร้านค้าจำหน่ายสินค้าตั้งแต่ต้มยำไปจนถึงเสื้อยืดและนก มากกว่า 15,000 ร้าน รวมทั้งหมด 27 ซอย แม้ว่ากรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองเป้าหมายของการชอปปิ้งเป็นการเฉพาะอย่างเช่น มุมไบ หรือ ฮ่องกง แต่หากใครได้มีโอกาสผ่านเข้ามา ทุกคนก็จะพอใจที่ได้แวะซื้อของที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
เยอรมนี ......... กิจกรรมช่วยเหลือสังคมของคนไทยในเยอรมนีที่ควรยกย่องและชื่นชม คือ “กลุ่มธารน้ำใจคนไกลบ้าน” ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มเพื่อร่วมมือทำกิจกรรมของชุมชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองอิเซนบวร์ก และเมืองใกล้เคียงในเยอรมนี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยกันเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและช่วยเหลือคนไทยทั้งที่อยู่ในเยอรมนีและในประเทศไทย ในช่วงต้นปี 2549 นี้ทางกลุ่มฯ ได้รวบรวมเงินบริจาคจำนวน 1,000 ยูโร จากสมาชิกที่มีทั้งชาวไทยและครอบครัวชาวเยอรมัน เพื่อส่งผ่านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงค์เฟิร์ต นำมามอบให้แก่มูลนิธิแก้วตา ดวงใจ ในประเทศไทย หากคนไทยในทุกประเทศสละเวลาในวันหยุดช่วยกันทำกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์สังคมกันคนละไม้คนละมือ เชื่อว่าปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ คงจะบรรเทาเบาบางลงได้ด้วยน้ำมือและน้ำใจของคนไทยด้วยกันเอง
สาธารณรัฐเช็ก ............ ขอบคุณสำหรับการสำรวจและคำแนะนำจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปรากที่ได้ทำการสำรวจข้อมูลจากนักท่องเที่ยวเช็กที่เดินทางมาประเทศไทย พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ร้อยละ 40 ยังนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในกทม. และปริมณฑล รองลงมา คือ แหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ พัทยา เกาะสมุย และเกาะช้าง คาดว่าในปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวเช็กที่มาท่องเที่ยวแถบฝั่งทะเลอันดามันน่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกระจุกตัวอยู่เฉพาะในกทม. และแหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ สถานทูตได้แนะนำว่าควรจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมุ่งเน้นตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังลาวและกัมพูชาทางรถยนต์ และมีการเชื่อมโยงแพคเก็จการท่องเที่ยวระหว่างแหล่งท่องเที่ยวในทั้งสองภาคของไทย เข้ากับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียงจันทน์ หลวงพระบางในลาว หรือ นครวัตในกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่าหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของเราคงเห็นด้วย เพราะได้ดำเนินการไปแล้วเป็นส่วนใหญ่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-
อังกฤษ .........หนังสือพิมพ์ Sunday Telegraph ได้ลงข่าวแนะนำกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองแห่งการชอปปิ้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นแหล่งแฟชั่นและการออกแบบ มีการจัดสัปดาห์แฟชั่นประจำปี ซึ่งในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-19 มีนาคม 2549 เพื่อยกระดับแบรนด์เนมของสินค้าแฟชั่นไทย ได้แก่ Flynow Muse Issue และ Kai ที่มีนวัตกรรมและรูปแบบเป็นของไทย แต่มีราคาถูกกว่าในอังกฤษอย่างมาก หรือหากต้องการรู้จักแหล่งชอปปิ้งที่แท้จริง ผู้เขียนก็แนะนำให้ไปตลาดจตุจักรซึ่งมีแผงร้านค้าจำหน่ายสินค้าตั้งแต่ต้มยำไปจนถึงเสื้อยืดและนก มากกว่า 15,000 ร้าน รวมทั้งหมด 27 ซอย แม้ว่ากรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองเป้าหมายของการชอปปิ้งเป็นการเฉพาะอย่างเช่น มุมไบ หรือ ฮ่องกง แต่หากใครได้มีโอกาสผ่านเข้ามา ทุกคนก็จะพอใจที่ได้แวะซื้อของที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน
เยอรมนี ......... กิจกรรมช่วยเหลือสังคมของคนไทยในเยอรมนีที่ควรยกย่องและชื่นชม คือ “กลุ่มธารน้ำใจคนไกลบ้าน” ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มเพื่อร่วมมือทำกิจกรรมของชุมชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองอิเซนบวร์ก และเมืองใกล้เคียงในเยอรมนี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยกันเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและช่วยเหลือคนไทยทั้งที่อยู่ในเยอรมนีและในประเทศไทย ในช่วงต้นปี 2549 นี้ทางกลุ่มฯ ได้รวบรวมเงินบริจาคจำนวน 1,000 ยูโร จากสมาชิกที่มีทั้งชาวไทยและครอบครัวชาวเยอรมัน เพื่อส่งผ่านสถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงค์เฟิร์ต นำมามอบให้แก่มูลนิธิแก้วตา ดวงใจ ในประเทศไทย หากคนไทยในทุกประเทศสละเวลาในวันหยุดช่วยกันทำกิจกรรมเพื่อสร้างสรรค์สังคมกันคนละไม้คนละมือ เชื่อว่าปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ คงจะบรรเทาเบาบางลงได้ด้วยน้ำมือและน้ำใจของคนไทยด้วยกันเอง
สาธารณรัฐเช็ก ............ ขอบคุณสำหรับการสำรวจและคำแนะนำจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปรากที่ได้ทำการสำรวจข้อมูลจากนักท่องเที่ยวเช็กที่เดินทางมาประเทศไทย พบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ร้อยละ 40 ยังนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวในกทม. และปริมณฑล รองลงมา คือ แหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลโดยเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ พัทยา เกาะสมุย และเกาะช้าง คาดว่าในปีนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวเช็กที่มาท่องเที่ยวแถบฝั่งทะเลอันดามันน่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ และเพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกระจุกตัวอยู่เฉพาะในกทม. และแหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ สถานทูตได้แนะนำว่าควรจัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวใหม่ๆ ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมุ่งเน้นตลาดนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปยังลาวและกัมพูชาทางรถยนต์ และมีการเชื่อมโยงแพคเก็จการท่องเที่ยวระหว่างแหล่งท่องเที่ยวในทั้งสองภาคของไทย เข้ากับแหล่งท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียงจันทน์ หลวงพระบางในลาว หรือ นครวัตในกัมพูชา ซึ่งเชื่อว่าหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของเราคงเห็นด้วย เพราะได้ดำเนินการไปแล้วเป็นส่วนใหญ่
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : [email protected]จบ--
-พห-