เมื่อวันที่ 27 มกราคมนี้ นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้นำกลุ่มอำนาจเก่ารุกหนักทางการเมืองด้วยการใช้สื่อโหมประโคมทั้งนอกและในประเทศในเวลานี้ ขอเสนอว่ารัฐบาลต้องตอบโต้ด้วยการทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างเร่งด่วน โดยจัดตั้งทีมทำงานพิเศษขึ้นมารับผิดชอบ ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหว และกำหนดประเด็นตอบโต้อย่างเป็นระบบ ซึ่งการจะทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกที่ได้ผลดีที่สุด ก็คือ การนำเอาจริงมาสู้ โดยเปิดโปงความเลวร้ายของกลุ่มอำนาจเก่าอย่างจริงจัง ผ่านสื่อทุกแขนงที่สามารถเข้าถึงประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน การทำเช่นนี้จะทำให้รัฐบาลและคมช.สามารถยึดพื้นที่สื่อกลับมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่การไปคอยสกัดกั้นข่าวสารจากอีกฝ่ายหนึ่งอย่างที่กำลังทำอยู่ และเชื่อว่าเมื่อประชาชนได้รับข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน ได้รู้เท่าทันแล้ว การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่มีความหมาย
“เวลานี้บทบาทในการเปิดโปงความเลวร้ายของกลุ่มอำนาจเก่า มีเพียงคตส.อยู่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง แม้แต่ในส่วนของคมช.เองก็พึ่งหวังได้แต่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ซึ่งมีจุดยืนที่มั่นคงและเด็ดขาดตลอดมา ส่วนหน่วยงานอื่นๆพึ่งไม่ได้” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวและว่า ข้อมูลการทุจริตคอร์รัปชั่น และความเสียหายของประเทศที่เกิดจากการกระทำของรัฐบาลเก่า ซึ่งมีอยู่ในมือรัฐบาลและคมช.เวลานี้มากพอที่จะนำมาเปิดโปงต่อสาธารณชนได้แล้ว ดังนั้นรัฐบาลและคมช.ไม่ควรรีๆรอๆกต่อไป ๆไม่เช่นนั้นจะเพลี่ยงพล้ำและกู้คืนยาก
ติงกมธ.ยกร่างฯอย่าเพิ่งขานรับ“สุรยุทธ์”
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการไม่เหมาะสมที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ว่าในประเด็นใดๆ เพราะขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นกระบวนการยกร่างฯโดยกมธ.ยกร่าง การแสดงความเห็นของคนระดับนายกรัฐมนตรีในลักษณะเช่นนี้เป็นการชี้นำ อาจจะทำให้เกิดความโน้มเอียงได้ ขณะเดียวกันสำหรับกมธ.ยกร่างฯบางคนที่ออกมาขานรับก็ยิ่งไม่เหมาะสม กมธ.ควรทำใจให้กว้างเพื่อรอฟังความเห็นที่แตกต่างและหลากหลายในอนาคตด้วย เพราะเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญปี 2540 จะต้องเกิดข้อถกเถียงในสังคมแน่นอน ดังนั้นกมธ.จึงไม่ควรตั้งธงไว้ล่วงหน้า
“ส.ส.ร.เองก็ได้ตั้งคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ น่าจะให้กระบวนการเหล่านั้นดำเนินไปสักระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยมาถกเถียงกัน ไม่เช่นนั้นการเปิดรับฟังความเห็นจะไม่มีความหมาย” นายอภิชาต กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ม.ค. 2550--จบ--
“เวลานี้บทบาทในการเปิดโปงความเลวร้ายของกลุ่มอำนาจเก่า มีเพียงคตส.อยู่กลุ่มเดียวเท่านั้นที่มุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง แม้แต่ในส่วนของคมช.เองก็พึ่งหวังได้แต่พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ซึ่งมีจุดยืนที่มั่นคงและเด็ดขาดตลอดมา ส่วนหน่วยงานอื่นๆพึ่งไม่ได้” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวและว่า ข้อมูลการทุจริตคอร์รัปชั่น และความเสียหายของประเทศที่เกิดจากการกระทำของรัฐบาลเก่า ซึ่งมีอยู่ในมือรัฐบาลและคมช.เวลานี้มากพอที่จะนำมาเปิดโปงต่อสาธารณชนได้แล้ว ดังนั้นรัฐบาลและคมช.ไม่ควรรีๆรอๆกต่อไป ๆไม่เช่นนั้นจะเพลี่ยงพล้ำและกู้คืนยาก
ติงกมธ.ยกร่างฯอย่าเพิ่งขานรับ“สุรยุทธ์”
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการไม่เหมาะสมที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ว่าในประเด็นใดๆ เพราะขณะนี้เพิ่งเริ่มต้นกระบวนการยกร่างฯโดยกมธ.ยกร่าง การแสดงความเห็นของคนระดับนายกรัฐมนตรีในลักษณะเช่นนี้เป็นการชี้นำ อาจจะทำให้เกิดความโน้มเอียงได้ ขณะเดียวกันสำหรับกมธ.ยกร่างฯบางคนที่ออกมาขานรับก็ยิ่งไม่เหมาะสม กมธ.ควรทำใจให้กว้างเพื่อรอฟังความเห็นที่แตกต่างและหลากหลายในอนาคตด้วย เพราะเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆที่แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญปี 2540 จะต้องเกิดข้อถกเถียงในสังคมแน่นอน ดังนั้นกมธ.จึงไม่ควรตั้งธงไว้ล่วงหน้า
“ส.ส.ร.เองก็ได้ตั้งคณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ น่าจะให้กระบวนการเหล่านั้นดำเนินไปสักระยะหนึ่งก่อน แล้วค่อยมาถกเถียงกัน ไม่เช่นนั้นการเปิดรับฟังความเห็นจะไม่มีความหมาย” นายอภิชาต กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 27 ม.ค. 2550--จบ--