ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในเดือนมกราคม 2550 ในด้านอุปสงค์ เครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนมีทิศทางชะลอลง ต่อเนื่อง ขณะที่ด้านอุปทาน รายได้เกษตรกรจากการขายพืชผลหลักยังคงขยายตัวดีจากราคาที่เพิ่มขึ้นแม้ว่าผลผลิตขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนตามการผลิตเพื่อการส่งออก สำหรับภาคบริการ การท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงส่วนหนึ่งจากฐานสูงในปีก่อน
เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนและดุลเงินสดรัฐบาลเกินดุล
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนมกราคม 2550 มีดังนี้
1. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 7.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนตามการผลิตเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่หมวดเครื่องดื่มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการผลิตเบียร์ที่มีการเร่งสะสมสต็อก และหมวดยาสูบ การผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากฐานต่ำในปีก่อนซึ่งมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน อย่างไรก็ตาม การผลิตในหมวดเครื่องหนัง หมวดเครื่องเรือน และหมวดสิ่งทอลดลงต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า
สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 74.3 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 74.7 ในเดือนก่อน
2. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ชะลอลงจากเดือนก่อนตามเครื่องชี้ที่มีทิศทางชะลอลงได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ซึ่งหดตัวต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณการใช้ไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอลงจากเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับการลงทุนภาคเอกชน มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องตามเครื่องชี้ การลงทุนภาคเอกชน ได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวหลังจากที่เร่งตัวมากในเดือนธันวาคม 2549 และปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศที่ลดลงเช่นกัน
3. ภาคการคลัง รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บ 116.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.9 โดยรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นสำคัญ ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลหดตัว สำหรับภาษีฐานการบริโภคยังคงขยายตัวจากทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตโดยเฉพาะภาษีน้ำมันและเบียร์เป็นสำคัญ สำหรับภาษีจากฐานการค้าระหว่างประเทศหดตัวต่อเนื่อง ดุลเงินสด รัฐบาลเกินดุล 11.0 พันล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 119.8 พันล้านบาท
4. ภาคต่างประเทศ เนื่องจากกรมศุลกากรเลื่อนกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลจากการประกาศใช้รหัสฮาร์โมไนซ์ 2550 พร้อมปรับระบบพิธีการศุลกากรใหม่เป็นระบบ Paperless Customs (e-Customs) จึงไม่มีข้อมูลด้านการค้าในเดือนนี้ สำหรับดุลบริการ รายได้และเงินโอน เกินดุล 728 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่เกินดุล 483 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายรับท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายจ่ายท่องเที่ยวลดลงจากเดือนก่อน เช่นเดียวกับรายจ่ายผลประโยชน์จากการลงทุนที่ลดลงจากการส่งกลับกำไรและเงินปันผลภาคเอกชน ทั้งนี้ ดุลการชำระเงินเกินดุล 147 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2550 อยู่ที่ระดับ 66.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้ มียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 7.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือนมกราคม 2550 อยู่ที่ร้อยละ 3.0 ชะลอลงจากร้อยละ 3.5 ในเดือนก่อนหน้าจากการปรับลดลงของราคาสินค้าในหมวดพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.6 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.5 ในเดือนก่อน จากการปรับขึ้นค่าโดยสารกลับมาระดับปกติหลังจากลดลงชั่วคราวในเดือนก่อนและการปรับขึ้นราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ชะลอลงจากร้อยละ 2.7 ในเดือนก่อนจากราคาในหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ชะลอตัวตามหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเป็นสำคัญ
6. ภาวะการเงิน ในเดือนมกราคม 2550 เงินฝากของสถาบันรับฝากเงินอื่น1/ ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อนและอยู่ในแนวโน้มชะลอตัว สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินอื่นขยายตัวร้อยละ 2.9 ชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2549 เช่นกัน โดยเป็นผลจากการชะลอลงของสินเชื่อที่ให้แก่ภาคธุรกิจ
ในเดือนมกราคม 2550 ฐานเงินลดลงร้อยละ 1.2 จากระยะเดียวกันปีก่อนซึ่งมีฐานสูงจากความต้องการใช้เงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนมกราคม 2549 ขณะที่ปริมาณเงินตามความหมายกว้าง (Broad Money) ขยายตัวร้อยละ 5.1 ชะลอลงจากเดือนก่อน ทั้งนี้ การชะลอตัวของปริมาณเงินสอดคล้องกับการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาวะเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนมกราคม 2550 อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันปรับลดลงจากเดือนธันวาคม 2549 มาเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.84 และ 4.86 ต่อปี ตามลำดับ ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
สำหรับช่วงวันที่ 1-23 กุมภาพันธ์ 2550 อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินเคลื่อนไหวแคบๆ ใกล้เคียงกับช่วงปลายเดือน
มกราคม 2550
7. ค่าเงินบาท ในเดือนมกราคม 2550 เฉลี่ยอยู่ที่ 35.97 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2549 ที่ระดับ 35.83 บาทต่อดอลลาร์ สรอ.
ระหว่างวันที่ 1-23 กุมภาพันธ์ 2550 ค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัวโดยเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบ ๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 35.77 บาทต่อ
ดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเดือนมกราคม
28 กุมภาพันธ์ 2550
ข้อมูลเพิ่มเติม: พรรณพิลาส เรืองวิสุทธิ์
โทร. 0-2283-5648, 0-2283-5639
e-mail: [email protected]
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
เสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี โดยฐานะเงินสำรองระหว่างประเทศอยู่ในเกณฑ์สูงต่อเนื่อง ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อนและดุลเงินสดรัฐบาลเกินดุล
รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจในเดือนมกราคม 2550 มีดังนี้
1. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 7.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนตามการผลิตเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่หมวดเครื่องดื่มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการผลิตเบียร์ที่มีการเร่งสะสมสต็อก และหมวดยาสูบ การผลิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากฐานต่ำในปีก่อนซึ่งมีการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน อย่างไรก็ตาม การผลิตในหมวดเครื่องหนัง หมวดเครื่องเรือน และหมวดสิ่งทอลดลงต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า
สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในเดือนนี้อยู่ที่ร้อยละ 74.3 ลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 74.7 ในเดือนก่อน
2. การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ชะลอลงจากเดือนก่อนตามเครื่องชี้ที่มีทิศทางชะลอลงได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ซึ่งหดตัวต่อเนื่อง รวมทั้งปริมาณการใช้ไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัยซึ่งชะลอลงจากเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับการลงทุนภาคเอกชน มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องตามเครื่องชี้ การลงทุนภาคเอกชน ได้แก่ ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่หดตัวหลังจากที่เร่งตัวมากในเดือนธันวาคม 2549 และปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ในประเทศที่ลดลงเช่นกัน
3. ภาคการคลัง รัฐบาลมีรายได้จัดเก็บ 116.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 4.9 โดยรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7 จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นสำคัญ ขณะที่ภาษีเงินได้นิติบุคคลหดตัว สำหรับภาษีฐานการบริโภคยังคงขยายตัวจากทั้งภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตโดยเฉพาะภาษีน้ำมันและเบียร์เป็นสำคัญ สำหรับภาษีจากฐานการค้าระหว่างประเทศหดตัวต่อเนื่อง ดุลเงินสด รัฐบาลเกินดุล 11.0 พันล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 119.8 พันล้านบาท
4. ภาคต่างประเทศ เนื่องจากกรมศุลกากรเลื่อนกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลจากการประกาศใช้รหัสฮาร์โมไนซ์ 2550 พร้อมปรับระบบพิธีการศุลกากรใหม่เป็นระบบ Paperless Customs (e-Customs) จึงไม่มีข้อมูลด้านการค้าในเดือนนี้ สำหรับดุลบริการ รายได้และเงินโอน เกินดุล 728 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่เกินดุล 483 ล้านดอลลาร์ สรอ. จากรายรับท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายจ่ายท่องเที่ยวลดลงจากเดือนก่อน เช่นเดียวกับรายจ่ายผลประโยชน์จากการลงทุนที่ลดลงจากการส่งกลับกำไรและเงินปันผลภาคเอกชน ทั้งนี้ ดุลการชำระเงินเกินดุล 147 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่วนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2550 อยู่ที่ระดับ 66.8 พันล้านดอลลาร์ สรอ. ทั้งนี้ มียอดคงค้างการซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิจำนวน 7.7 พันล้านดอลลาร์ สรอ.
5. อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือนมกราคม 2550 อยู่ที่ร้อยละ 3.0 ชะลอลงจากร้อยละ 3.5 ในเดือนก่อนหน้าจากการปรับลดลงของราคาสินค้าในหมวดพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.6 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1.5 ในเดือนก่อน จากการปรับขึ้นค่าโดยสารกลับมาระดับปกติหลังจากลดลงชั่วคราวในเดือนก่อนและการปรับขึ้นราคาในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตอยู่ที่ร้อยละ 2.1 ชะลอลงจากร้อยละ 2.7 ในเดือนก่อนจากราคาในหมวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ชะลอตัวตามหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเป็นสำคัญ
6. ภาวะการเงิน ในเดือนมกราคม 2550 เงินฝากของสถาบันรับฝากเงินอื่น1/ ขยายตัวร้อยละ 6.0 จากระยะเดียวกันปีก่อนและอยู่ในแนวโน้มชะลอตัว สำหรับสินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินอื่นขยายตัวร้อยละ 2.9 ชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2549 เช่นกัน โดยเป็นผลจากการชะลอลงของสินเชื่อที่ให้แก่ภาคธุรกิจ
ในเดือนมกราคม 2550 ฐานเงินลดลงร้อยละ 1.2 จากระยะเดียวกันปีก่อนซึ่งมีฐานสูงจากความต้องการใช้เงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนมกราคม 2549 ขณะที่ปริมาณเงินตามความหมายกว้าง (Broad Money) ขยายตัวร้อยละ 5.1 ชะลอลงจากเดือนก่อน ทั้งนี้ การชะลอตัวของปริมาณเงินสอดคล้องกับการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศและภาวะเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา
อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงิน ในเดือนมกราคม 2550 อัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วันและอัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคารระยะ 1 วันปรับลดลงจากเดือนธันวาคม 2549 มาเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4.84 และ 4.86 ต่อปี ตามลำดับ ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
สำหรับช่วงวันที่ 1-23 กุมภาพันธ์ 2550 อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินเคลื่อนไหวแคบๆ ใกล้เคียงกับช่วงปลายเดือน
มกราคม 2550
7. ค่าเงินบาท ในเดือนมกราคม 2550 เฉลี่ยอยู่ที่ 35.97 บาทต่อดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2549 ที่ระดับ 35.83 บาทต่อดอลลาร์ สรอ.
ระหว่างวันที่ 1-23 กุมภาพันธ์ 2550 ค่าเงินบาทค่อนข้างทรงตัวโดยเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบ ๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 35.77 บาทต่อ
ดอลลาร์ สรอ. แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากเดือนมกราคม
28 กุมภาพันธ์ 2550
ข้อมูลเพิ่มเติม: พรรณพิลาส เรืองวิสุทธิ์
โทร. 0-2283-5648, 0-2283-5639
e-mail: [email protected]
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--