แท็ก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
บล.ไซรัส จำกัด (มหาชน)
ชินวรณ์ บุณยเกียรติ
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
สุทัศน์ เงินหมื่น
พรรคประชาธิปัตย์
วันนี้ (7 มิถุนายน 2550) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยนายสุทัศน์ เงินหมื่น , นายเจริญ คันธวงศ์, น.ส.รังสิมา รอดรัศมี และ ผอ.พรรคประชาธิปัตย์ ดร.ผุสดี ตามไท ได้รับมอบหมายจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคฯ และ อดีต ส.ส. ของพรรค จำนวน 60 คน ให้เป็นตัวแทนไปยื่นหนังสือขอให้กระทรวงศึกษาธิการ รณรงค์ในเรื่องประชาธิปไตย และเรื่องการต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงต่อ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน
นายชินวรณ์ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ยกเลิกประกาศ คปค. อนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ ทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการในทางการเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับตั้งแต่การปฎิวัติยึดอำนาจวันที่ 19 กันยายน 49 เป็นต้นมา ก็ยังไม่มีการรณรงค์ให้ประชาชนได้เข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ตลอดถึงการรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง แม้ว่า กกต. จะมีอำนาจหน้าที่โดยตรงแต่ว่าก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่ในการให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน ตลอดถึงการรณรงค์ให้ประชาชนได้เห็นภัยของการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญในการที่จะนำไปสู่ปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น เมื่อมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็จะเป็นต้นตอของการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้นตอของการใช้อำนาจในทางการเมืองที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ตลอดถึงเป็นต้นตอของการที่ทำให้ระบบนายทุนพรรคการเมืองเข้ามาครอบงำทางการเมืองโดยใช้เงินเป็นปัจจัยหลักในการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และในท้ายที่สุดก็จะทำให้ปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดจากรากเหง้าดังกล่าวนี้ไม่สามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง
ทางพรรคประชาธิปัตย์ จึงเห็นว่าหากกระทรวงศึกษาธิการได้เป็นองค์กรหลักในการที่จะให้นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนบุคลากร ครู อาจารย์ จำนวนหลายแสนคนได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ก็จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะนอกจากจะมีนักเรียน นักศึกษา แล้วก็ยังมีผู้ปกครอง ซึ่งเป็นครอบครัวของนักเรียนนักศึกษาอีกด้วย
“หากกระทรวงศึกษาธิการได้เป็นกระทรวงหลักในการดำเนินการเป็นยุทธศาสตร์ในการที่จะให้ความรู้ตลอดจนการต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง อย่างจริงจังแล้ว ก็จะเกิดผลประโยชน์ในการที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยของบ้านเราเป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น” นายชินวรณ์ กล่าว
โดยทั้งนี้เมื่อเวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิจิตร ศรีสอ้าน ได้รับหนังสือ และกล่าวตอบรับด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยกล่าวกับคณะว่า เมื่อเห็นรายละเอียดจากหนังสือแล้ว พบว่า ตรงกับนโยบายของกระทรวงฯ ที่ต้องการจัดทำยุทธศาสตร์สำคัญภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 3 เรื่อง ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาในภาคใต้ ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษาในภาพรวม และยุทธศาสตร์ในการที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตรงกับประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหนังสือเพื่อขอความร่วมมือมา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เป็นเป้าหมายเดียวกัน
นอกจากนี้นายชินวรณ์ ยังได้เสนอเพิ่มเติมว่า หากกระทรวงศึกษาธิการจะได้นำเอาคำวินิจฉัย ของตุลาการรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคการเมือง มาสรุปย่อเพื่อที่จะจัดทำเป็นหลักสูตรเสริม ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ในระยะยาว และรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้รับปากเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 มิ.ย. 2550--จบ--
นายชินวรณ์ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ยกเลิกประกาศ คปค. อนุญาตให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้ ทางพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า เพื่อให้การดำเนินการในทางการเมืองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับตั้งแต่การปฎิวัติยึดอำนาจวันที่ 19 กันยายน 49 เป็นต้นมา ก็ยังไม่มีการรณรงค์ให้ประชาชนได้เข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ตลอดถึงการรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง แม้ว่า กกต. จะมีอำนาจหน้าที่โดยตรงแต่ว่าก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่ในการให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน ตลอดถึงการรณรงค์ให้ประชาชนได้เห็นภัยของการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ซึ่งเป็นต้นตอสำคัญในการที่จะนำไปสู่ปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น เมื่อมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงก็จะเป็นต้นตอของการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้นตอของการใช้อำนาจในทางการเมืองที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ตลอดถึงเป็นต้นตอของการที่ทำให้ระบบนายทุนพรรคการเมืองเข้ามาครอบงำทางการเมืองโดยใช้เงินเป็นปัจจัยหลักในการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และในท้ายที่สุดก็จะทำให้ปัญหาของบ้านเมืองที่เกิดจากรากเหง้าดังกล่าวนี้ไม่สามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง
ทางพรรคประชาธิปัตย์ จึงเห็นว่าหากกระทรวงศึกษาธิการได้เป็นองค์กรหลักในการที่จะให้นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนบุคลากร ครู อาจารย์ จำนวนหลายแสนคนได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง ก็จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะนอกจากจะมีนักเรียน นักศึกษา แล้วก็ยังมีผู้ปกครอง ซึ่งเป็นครอบครัวของนักเรียนนักศึกษาอีกด้วย
“หากกระทรวงศึกษาธิการได้เป็นกระทรวงหลักในการดำเนินการเป็นยุทธศาสตร์ในการที่จะให้ความรู้ตลอดจนการต่อต้านการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง อย่างจริงจังแล้ว ก็จะเกิดผลประโยชน์ในการที่จะทำให้ระบอบประชาธิปไตยของบ้านเราเป็นระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น” นายชินวรณ์ กล่าว
โดยทั้งนี้เมื่อเวลา 9.00 น.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายวิจิตร ศรีสอ้าน ได้รับหนังสือ และกล่าวตอบรับด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยกล่าวกับคณะว่า เมื่อเห็นรายละเอียดจากหนังสือแล้ว พบว่า ตรงกับนโยบายของกระทรวงฯ ที่ต้องการจัดทำยุทธศาสตร์สำคัญภายในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 3 เรื่อง ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษาในภาคใต้ ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาการศึกษาในภาพรวม และยุทธศาสตร์ในการที่จะให้ความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตรงกับประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำหนังสือเพื่อขอความร่วมมือมา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่เป็นเป้าหมายเดียวกัน
นอกจากนี้นายชินวรณ์ ยังได้เสนอเพิ่มเติมว่า หากกระทรวงศึกษาธิการจะได้นำเอาคำวินิจฉัย ของตุลาการรัฐธรรมนูญกรณียุบพรรคการเมือง มาสรุปย่อเพื่อที่จะจัดทำเป็นหลักสูตรเสริม ก็จะยิ่งเป็นประโยชน์ในระยะยาว และรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ก็ได้รับปากเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 7 มิ.ย. 2550--จบ--