โบรกเกอร์ แนะ"ลงทุน"หุ้น บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC)เมื่อราคาอ่อนตัว หลังจากราคาวิ่งขึ้นไปเร็วตามตลาดรวมในช่วงนี้ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานในปี 52 ดีกว่าที่คาดไว้เนื่องจากสเปรดปิโตรเคมีสูงกว่าประเมิน จึงเชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/52 จะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/52 และทั้งปีกำไรสุทธิน่าจะออกมาสูงขึ้นกว่าปีก่อน คาดจ่ายเงินปันผล 7.50-8.00 บาทต่อหุ้น จากปีก่อนจ่ายที่ระดับ 7.50 บาทต่อหุ้น
ราคาหุ้น SCC เช้านี้ปิดที่ 160.50 บาท ลบ 1.00 บาท โดบราคาขึ้นไปสูงสุด 162 บาท และวานนี้ขึ้นไปถึง 163 บาท
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น) บล.เอเชียพลัส ซื้อ 177.00 บล.กิมเอ็ง ซื้อเมื่ออ่อนตัว 175.00 บล.กสิกรไทย ซื้อเมื่ออ่อนตัว 167.00 บล.บัวหลวง ถือ/ลงทุนระยะยาว 160.00บล.กรุงศรีอยุธยา ถือ/ลงทุนระยะยาว 160.00
นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)คาดว่า แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีในครึ่งหลังปี 52 จะลดแรงกดดันจากที่มีซัพพลายเข้ามาตลาดน้อยจากที่คาดไว้ที่ประมาณ 9 ล้านตัน เหลือประมาณ 5 ล้านตัน จากการล่าช้าของโรงงานใหม่ ทำให้ SCC ได้สเปรดสูงขึ้นมาที่ ราว 600-700 เหรียญ/ตัน ดีกว่าที่คาดไว้เดิมที่ประมาณ 500 เหรียญ/ตัน
และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/52 ชะลอไม่มากนัก เพราะสเปรดในเดือนเม.ย.-พ.ค.ปรับตัวดีขึ้นมาก ขณะที่ธุรกิจกระดาษและปูนซิเมนต์ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก
อย่างไรก็ดี ทั้งปี 52 คาดว่า SCC จะมีกำไรสุทธิประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 1.6 หมื่นล้านบาท รวมทั้ง คาดว่าปีนี้บริษัทจะจ่ายเงินปันผลได้ 7.50 บาทต่อหุ้นเท่ากับปีก่อน
"ธุรกิจไม่ได้แย่อย่างที่คิด แต่ราคาหุ้นขึ้นไปแรง ก็ต้องรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวกว่านี้"นายสุรชัย กล่าวด้านนายกวี ชูกิจเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ในเชิงพื้นฐานของ SCC อยู่ในระดับดีขึ้นทั้งจากธุรกิจปูนซีเมนต์ และธุรกิจปิโตรเคมีที่สเปรดสูงกว่าคาด ผลประกอบการปีนี้ไม่น่าจะผิดหวังเพราะดีกว่าที่คาดไว้ เหมาะสมที่จะลงทุนระยาว โดยรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
ประกอบกับ คาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลในปีนี้ประมาณ 8.00 บาทต่อหุ้น หรือมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 5% จากราคา ขณะนี้ (160 บาท)แต่หากราคาอยู่ที่ 150 บาท อัตราผลตอบแทนก็จะเพิ่มเป็น 8%
"การเข้าซื้อราคานี้น่าจะเสี่ยง ราคาขึ้นมาเร็วมากตามตลาดรวม ถ้ารอได้ให้เข้ามาประมาณไตรมาส 3 ไปแล้วที่ประเมินว่าตลาดรวมน่าจะปรับตัวลง"นายกวี กล่าวส่วนนายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.บัวหลวง เห็นว่า SCC เหมาะที่จะลงทุนในระยะยาว เพราะตอนนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปมาก โดยต้องมองระยะยาว 3 ปีที่บริษัทจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด หลังจากธุรกิจปิโตรเคมีฟื้นตัวในปี 55 ส่วนธุรกิจปูนซิเมนต์มองว่าตอนนี้อาจผ่านหรือใกล้จุดต่ำสุด
"ถ้ามอง 3 เดือน 6 เดือน คงไม่มีกำไร...วันนี้ราคายังอยู่ในระดับสมเหตุสมผล แนะให้ Hold ราคาวันนี้ไม่มี upside เท่าไร"นายชัยพร กล่าวทั้งนี้ คาดว่า SCC จะจ่ายเงินปันผลปีนี้อย่างต่ำ 6 บาทต่อหุ้นหรืออย่างมาก 8 บาทต่อหุ้น
ขณะที่นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา คาดว่าผลประกอบการ SCC ไตรมาส 2/52 ดีขึ้น จากแนวโน้มสเปรดปิโตรเคมีปรับตัวดีขึ้น ซึ่งดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทำให้มองอัตราเติบโตของกำไรสุทธิปี 52 มีความเป็นไปได้ที่จะสูงขึ้นที่ตามที่คาดการณ์ไว้ที่ +12.4% จากปีก่อน แต่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะต้องติดตามซัพพลายปิโตรเคมีในตลาดโลก เพราะธุรกิจปิโตรเคมีเป็นธุรกิจหลักของ SCC หรือคิดเป็นประมาณ 60% ของกำไรสุทธิ
แต่ราคาหุ้นที่ผ่านมาปรับตัวเร็วขึ้นกว่าที่คาด มาจากปัจจัยที่ พ.ร.ก สำหรับการกู้ยืมเงิน 4 แสนล้านบาทไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และโครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่จะเกิดขึ้น แต่มองว่าน่าจะเกิดผลใช้เงินจริงในปีหน้า ซึ่งก็จะกระตุ้นธุรกิจปูนซิเมนต์
"ราคาปิโตรเคมีดีว่าที่คาดไว้ ซึ่งราคาเป้าหมายยังไม่รวมเรื่องปิโตรเคมีที่สเปรดปรับขึ้น... ตอนนี้ให้ถือไว้ก่อน"นักวิเคราะห์ กล่าวในปี 52 คาดว่า SCC จะจ่ายเงินปันผลได้ประมาณ 8 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนราว 5%