โบรกฯแนะ"ซื้อ/เก็งกำไร" SCIB คาดได้ราคาดี หลังมีผู้สนใจซื้อหลายราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 1, 2009 16:43 —SMS: IQ ข่าวหุ้น

โบรกเกอร์ต่างแนะนำ"ซื้อ หรือ "เก็งกำไร" หุ้นธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) จากการที่กองทุนฟื้นฟูฯ จะเสนอขายหุ้น SCIB ที่คาดว่าจะคำนวณราคาขายใกล้เคียงกับกรณีที่ขายธนาคารสินเอเซีย (ACL) ที่ 1.5 เท่าของมูลค่าทางบัญชี (BV) ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นราคาหุ้น SCIB ก็จะขายได้ในราคาดี และมองว่าจะขายได้ภายในครึ่งปีแรกของปีหน้า ที่ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว ก็จะช่วยทำให้ราคาขายดียิ่งขึ้น ประกอบกับ มีจำนวนผู้สนใจเข้าซื้อหลายรายอาจมีการแข่งขันเสนอราคาซื้อที่มีโอกาสได้ราคาสูง

          โบรกเกอร์       คำแนะนำ     ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)

          บล.ฟิลลิป         ซื้อ           26.40
          บล.โกลเบล็ก    เก็งกำไร        26.40
          บล.กสิกรไทย      ซื้อ           25.00
          บล.ไอร่า       เก็งกำไร        24.75
          บล.เคจีไอ      เก็งกำไร        25.00-29.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา เก็งกำไร        23.60

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า กรณีการขายหุ้น SCIB ในส่วนกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงินได้มีความคืบหน้าหรือทิศทางชัดเจน แต่คาดจะไม่มีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยประเมินว่าน่าจะดำเนินการได้เสร็จภายในครึ่งแรกปี 53 และจะเป็นผลดีกับธนาคาร เพราะผลประกอบการปีหน้าจะดีขึ้น จากสินเชื่อขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว การใช้จ่ายรัฐบาล ก็จะทำให้มูลค่าทางบัญชี (Book Value:BV)ปรับขึ้น

"อย่างน้อยดีลนี้ก็มีความคืบหน้า adviser ต้อง process อะไรออกมา เรามองว่า ถ้าขายในปีหน้า ตัวภาพเศรษฐกิจอะไรดีขึ้น ก็น่าจะขายได้ราคาดีด้วย เพราะตอนนี้เราปรับราคาเป้าหมายปีหน้าเป็น 26.40 จาก 23.40 บาท (ปี 52)เพราะเห็นว่าการขายจะเกิดขึ้นในปีหน้า เป็นการขาย 1.5 เท่าของ adjusted BV เท่ากับ 17.62 บาท" น.ส.ศศิกร กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนฟื้นฟูฯ ประกาศให้ผู้ที่สนใจเป็นที่ปรึกษา(FA) ต้องเสนอแผนกลยุทธ์ภายในวันที่ 2 ต.ค. โดยกองทุนฟื้นฟูจะเลือกที่ปรึกษาทางการเงินในวันที่ 22 ต.ค. หลังจากนั้น FA จะใช้เวลาราว 1 เดือนเพื่อศึกษาและนำเสนอแนวทางในการดำเนินการต่อคณะ กรรมการจัดการกองทุน ซึ่งเมื่อได้รับอนุมัติแล้วคาดอาจจัด ให้มีผู้สอบบัญชีเป็นบุคคลกลางเข้ามาทำ Due Diligence รายเดียวเพื่อลดเวลาในการศึกษา โดยสถาบันที่สนใจซื้อหุ้น SCIB จะได้ข้อมูลชุดเดียวกันและจะได้เข้าสัมภาษณ์ผู้บริหารก่อนเสนอราคาซื้อ
"มองว่าราคาหุ้นขึ้นมาค่อนข้างเยอะแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนซื้อ หุ้นแบงก์อื่นราคาน่าสนกว่าเยอะ แต่จุดหนึ่ง อาจจะมองได้ว่า ราคาขายอาจสูงกว่า 1.5 เท่าของ BV ก็ได้ เพราะมีหลายเจ้าให้ความสนใจเข้ามาซื้อ ถ้ามีการแข่งขัน อาจมีราคาที่สูงกว่า 1.5 เท่า ถ้าคาดหวังอย่างนั้น upside ก็จะขยับไปได้เอง"

นอกจากนี้ แนวโน้มความต้องการสินเชื่อในไตรมาส 4 เริ่มดีขึ้นซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล ขายรวมถึงการใช้จ่าย ภาครัฐ ทั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารอื่นๆ แต่ทั้งปีคงไม่ได้เติบโตมากนัก แต่ปีหน้าสินเชื่อจะขยับขึ้นตามมาตรการกระตุ้นภาครัฐและภาวะเศรษฐกิจฟื้น

ด้านน.ส.สิรินัฎฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาหุ้น SCIB ปรับขึ้นมาเก็งกำไรตามกรณีที่ธ.กรุงเทพขายหุ้น ACL ออกไป ที่ 1.5 เท่าของBV ให้กับ ICBC ซึ่งถือว่าเป็นราคาค่อนข้างดี

"คิดว่าตอนนี้เป็นการเก็งกำไร เพราะว่า ดีลของ ACL ได้ราคาขาย ที่ 1.5 เท่าของBV ซึ่งถ้า SCIB ใช้ 1.5 เท่ากัน ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 29 บาท" น.ส.สิรินัฎฐากล่าว

อย่างไรก็ตามก็เห็นว่าการเข้ามาซื้ออาจจะไม่เท่ากันก็ได้ เพราะฐานลูกค้าเงินฝากของธนาคารต่างกัน จำนวนสาขา และเรื่องอื่นๆด้วย

ที่ผ่านมา แนะนำหุ้น SCIB เป็น Outperform ตอนนี้ก็ยังเป็น Outperform อยู่ ก็ยอมรับว่าตอนนี้เล่นเก็งกำไร เพราะว่า กลุ่มสถาบันการเงินจีน และ มาเลเซีย ต้องการเข้ามาไทย เพื่อจะได้มีฐานขยายตลาด ก็อาจจะให้ราคาที่ดีกว่า ธนาคารที่มีฐานอยู่แล้ว เช่น กลุ่มธนชาต(TCAP) หรือ ธ.เอชเอสบีซี อย่างไรก็ตาม ก็ไม่แน่ใจว่าจีนจะเข้ามาซื้อ SCIB หรือเปล่า เพราะหากเข้ามาซื้ออีก จีนก็ต้องจ่ายเงินจำนวนมาก

บทวิเคราะห์ของบล.กรุงศรีอยุธยา แนะให้เก็งกำไรต่อไปได้ จากราคาในการควบรวมกิจการในอดีตที่ 1.5x ของค่า BV ราคาซื้อของ SCIB อาจพุ่งถึง 29-30 บาทต่อหุ้นในกรณีสูงสุด (ค่า BV ของ SCIB ณ สิ้นไตรมาส 2/52 อยู่ที่ 19.34 บาทต่อหุ้น) ในขณะที่ในกรณีที่มีการปรับราคาบัญชีให้สะท้อนความเป็นไปได้ของการตัดจ่ายหนี้เสียออกไป ราคาอาจลดมาอยู่ระหว่าง 23-25 บาทต่อหุ้น (จากค่า BV ปรับปรุงใหม่ที่ 15.4 ถึง 16.7 บาทต่อหุ้น หลังหัก NPL ที่ยังไม่มีสำรองทั้งหมด) ซึ่งโดยรวมแล้วราคาซื้อขายบนกระดานของ SCIB ก็ยังต่ำกว่าราคาเก็งกำไรทั้งสิ้น

ดังนั้นจึงเห็นว่ายังมีโอกาสให้เก็งกำไรในหุ้นต่อไป น่าสังเกตว่าการขาย ACL พึ่งจะสรุปได้ที่ 11.5 บาทต่อหุ้นหรือ 1.43x ของค่า BV ในขณะที่การซื้อกิจการของ BT เกิดขึ้นที่ราคาสูงอย่างมีนัยสำคัญถึง 2.7x ของค่า BV ส่วน ING และ TMB ก็ซื้อขายที่ 1.5x และ Scotiabank และ TBANK ก็ที่ประมาณ 1.5x.

"เนื่องจากกรอบเวลาการซื้อกิจการและผู้ซื้อมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราแนะนำให้ซื้อเก็งกำไร SCIB จากฐานราคาการซื้อกิจการที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5x ของค่า BV เนื่องจากราคาในปัจจุบันยังมีการซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าช่วงราคาเก็งกำไรของเรา น่าสังเกตว่าในการประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐาน เรายังคงไว้ที่ 14.8 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาที่เราแนะให้เข้าเก็งกำไรมาก เนื่องจากเป็นการพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของหุ้น SCIB เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้พิจารณาถึงการเป็นเป้าหมายในการควบรวมกิจการ"บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา ระบุ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ