บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” ในขณะเดียวกันก็ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุด ปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Positive” หรือ “บวก” จาก “Stable” หรือ “คงที่” อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์ (Operating Lease) และความสามารถของคณะผู้บริหารของบริษัทในการขยายปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าการแข่งขันจะทวีความ รุนแรงยิ่งขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงระบบการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตและการบริหารมูลค่าคง เหลือของสินทรัพย์ให้เช่า (Residual Value) ที่เข้มงวดซึ่งทำให้บริษัทสามารถดำรงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี นอกจากนี้ การ พิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความต้องการในการใช้บริการรถเช่าที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเอกชนด้วย อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิต ถูกบั่นทอนจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงซึ่งยังคงเป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท โดยที่การเพิ่มขึ้นของ สินทรัพย์ให้เช่าในอนาคตจากการกู้ยืมที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลง
แนวโน้มอันดับเครดิต “Positive” หรือ “บวก” สะท้อนถึงความพยายามในการพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยง และสถานะทางธุรกิจให้ดีขึ้นจากสถานะทางการตลาดของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นและการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ทั้งนี้ อันดับเครดิต อาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถดำรงสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์โดยการเพิ่มความหลาก หลายของฐานลูกค้าและรักษาฐานลูกค้ารายสำคัญกลุ่มเดิมพร้อมไปกับการรักษาระดับคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีเอาไว้ได้ นอกจากนี้ บริษัท จะต้องรักษาสมดุลย์ของผลประกอบการเอาไว้ให้ได้ในขณะที่จะต้องรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้เป็นไปตามความคาดหมายของทริ สเรทติ้ง
ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทภัทรลิสซิ่งยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดเช่าดำเนินงานรถยนต์เอาไว้ได้ โดยมีส่วน แบ่งทางการตลาด ณ สิ้นปี 2552 ที่ระดับ 20.4% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของผู้ประกอบการรายใหญ่ 30 รายในฐานข้อมูลของ ทริสเรทติ้ง โดยส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 17.9% ในปี 2551 บริษัทให้บริการเช่าดำเนินงานและเช่าทางการเงินแก่ ลูกค้านิติบุคคลที่เป็นบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2553 บริษัทมีสินทรัพย์ให้เช่าสุทธิภายใต้สัญญาเช่าดำเนิน งานจำนวน 6,372 ล้านบาท และมีลูกหนี้สินเชื่อให้เช่าการเงินจำนวน 907 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก 5,145 ล้านบาทและ 775 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 การมีเครือข่ายบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศและการมีฐานเงินทุนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ ประกอบการรายอื่นช่วยเพิ่มระดับความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้ารายใหญ่ แต่ก็ทำให้บริษัทมีความเสี่ยงสูงจาก การกระจุกตัวของฐานลูกค้าทั้งในด้านการผิดนัดชำระหนี้และการพึ่งพิงรายได้จากลูกค้ารายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจาก การผิดนัดชำระหนี้บรรเทาลงจากการมีคุณภาพเครดิตที่ค่อนข้างดีของลูกค้ารายใหญ่ นอกจากนี้ ลูกค้ารายใหญ่ทั้ง 20 รายของ บริษัทยังมีปริมาณสินทรัพย์ให้เช่าที่กระจายตัวมากขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม
ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมทั้งผลงานที่ได้รับการยอมรับ และความมีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจให้เช่าดำเนิน งานเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยเสริมให้บริษัทภัทรลิสซิ่งสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยยอดสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่องจาก 1,054 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2549 (ตุลาคม 2548-กันยายน 2549) เป็น 2,198 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2551 และในรอบปีบัญชี 2552 ที่แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย กระนั้นสินทรัพย์ให้เช่าใหม่ก็ยังอยู่ที่ระดับ 2,113 ล้านบาท ซึ่ง ใกล้เคียงกับรอบปีบัญชี 2551 สินทรัพย์ให้เช่าใหม่เพิ่มสูงขึ้นถึง 62% เป็น 3,422 ล้านบาทในรอบปีบัญชี 2553 (มกราคม- ธันวาคม 2553) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงรอบปีบัญชีเพื่อให้สอดคล้องกับปีปฏิทิน แทนการสิ้นสุด ณ เดือนกันยายน โดยรอบปีบัญชีใหม่เต็มปีแรกคือปีบัญชี 2553
หลังจากที่ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทในปี 2549 ตัวแทนของบริษัทเมืองไทย ประกันชีวิต โดยผ่านทางคณะกรรมการบริษัท ได้สนับสนุนความพยายามของบริษัทในการพัฒนาระบบการจัดการความเสี่ยง ทั้งนี้ ระบบการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดมีส่วนช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์เมื่อบริษัทขยายธุรกิจไปสู่สินทรัพย์ประเภท อื่นซึ่งมีความเสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ประเภทรถยนต์ การบริหารสินทรัพย์ดังกล่าวส่วนใหญ่ดำเนินการภายใต้สัญญาเช่าทางการเงิน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สำหรับสัญญาเช่าทางการเงินจะอยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 0.11% ณ สิ้น เดือนธันวาคม 2553 แต่ความสามารถในการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์สำหรับสัญญาเช่าทางการเงินนั้นยังต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ เนื่องจากขนาดของสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพียงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ในอนาคตอันใกล้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัท จะสามารถดำรงสถานะความเป็นผู้นำในตลาดและส่งเสริมระดับผลประกอบการให้เพิ่มสูงขึ้น
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในรอบปีบัญชี 2553 (มกราคม-ธันวาคม 2553) บริษัทภัทรลิสซิ่งมีกำไรสุทธิ 281 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 28% จากรอบปีบัญชี 2552 (ตุลาคม 2551-กันยายน 2552) อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยเท่ากับ 3.83% ในรอบปีบัญชี 2553 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.80% ในรอบปีบัญชี 2552 แต่ลดลงจาก 4.2% ในรอบปีบัญชี 2551 ความ สามารถในการทำกำไรที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเพิ่มการตั้งสำรองทั่วไปสำหรับหนี้ปกติตามการขยายตัวของสินเชื่อเช่าการ เงิน การแข่งขันที่รุนแรงยังคงเป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท การมีผลประกอบการที่น่าพอใจมาตั้งแต่ปี 2550 นั้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่บริษัทได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์เช่าดำเนินงานตามประกาศของอธิบดี กรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 156) ซึ่งผลประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวสิ้นสุดเมื่อปีบัญชี 2553 ดังนั้น จึงคาดว่าผล ประกอบการในรอบปีบัญชี 2554 จะลดลง ซึ่งผลประกอบการที่ลดลงดังกล่าวเป็นประเด็นที่ใช้ประกอบการพิจารณาอันดับเครดิต ด้วย
บริษัทใช้เงินทุนจากการกู้ยืมในการขยายฐานสินทรัพย์เป็นหลัก ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นรอบปี บัญชี 2553 อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ระดับ 3.12 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 2.54 เท่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2552 และจากที่คาดว่า ความสามารถในการทำกำไรจะยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง รวมทั้งไม่ได้รับประโยชน์จากมาตรการทางภาษี อากรดังเช่นในช่วงที่ผ่านมา ก็อาจส่งผลให้กำไรสะสมของบริษัทที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตไม่เพียงพอที่จะเพิ่มฐานทุนจนถึงระดับที่จะทำ ให้โครงสร้างเงินทุนมีความแข็งแกร่งขึ้นได้ แม้ว่าระดับฐานทุนในปัจจุบันของบริษัทจะยังคงเพียงพอในการขยายขนาดสินทรัพย์ให้ เช่าตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ทริสเรทติ้งยังคาดหวังที่จะเห็นบริษัทปรับเพิ่มระดับผลประกอบการหรือควบคุมอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ใน ระดับที่คาดไว้ บริษัทรักษานโยบายการจัดการสินทรัพย์และหนี้สินที่เข้มงวดด้วยการบริหารอายุของหนี้ผ่านการกู้ยืมระยะยาวเพื่อให้ สอดคล้องกับระยะเวลาของสัญญาเช่าสินทรัพย์ — จบ